In News
ภาวะเศรษฐกิจการคลังภูมิภาคมีนาคม66 ลงทุนทุกภาคชะลอตัวแต่ศก.รวมยังปัง!

กรุงเทพฯ-เศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมีนาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนในภาคเหนือ และภาคใต้ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ทั้งในส่วนของการจับจ่ายใช้สอยและการซื้อสินค้าคงทน
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมีนาคม 2566 ว่า“เศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมีนาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนในภาคเหนือ และภาคใต้ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ทั้งในส่วนของการจับจ่ายใช้สอยและการซื้อสินค้าคงทน” โดยมีรายละเอียดดังนี้
เศรษฐกิจภาคเหนือในเดือนมีนาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 8.5 ต่อปี เช่นเดียวกับจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 10.7 และ 17.5 ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้ง รายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 35.3 ต่อปี และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 55.3 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.8 ขณะที่เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมูลค่า 547.6 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 29.9 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานการถนอมผักพืชผลไม้โดยวิธีการดอง ในจังหวัดพิษณุโลก เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 91.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 86.6
เศรษฐกิจภาคใต้ในเดือนมีนาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 23.7 ต่อปี เช่นเดียวกับจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 16.0 และ 28.9 ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้ง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 50.3 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 47.5 ขณะที่เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมูลค่า 658.9 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 284.7 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ในจังหวัดสงขลา เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 85.6 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 87.2
เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล ในเดือนมีนาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 4.7 ต่อปี เช่นเดียวกับจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 20.5 ต่อปี ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 53.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.8 สำหรับเครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัวร้อยละ -17.3 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 15.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 103.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 100.7
เศรษฐกิจภาคตะวันตกในเดือนมีนาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 20.0 ต่อปี จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 27.0 ต่อปี รายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 25.5 ต่อปี และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 52.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.8 ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว นอกจากนี้ เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 103.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 100.7
เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนมีนาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 2.9 ต่อปี จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 9.6 ต่อปี รายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 24.6 ต่อปี และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 57.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 54.5 ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว สำหรับเครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจาก จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวร้อยละ -2.4 ต่อปี แต่ขยายตัวร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล เช่นเดียวกับเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมูลค่า 693.5 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 66.3 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ในจังหวัดบึงกาฬ เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 103.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 100.7
เศรษฐกิจภาคกลางในเดือนมีนาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ชะลอตัว ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 0.1 และ 25.8 ต่อปี ตามลำดับ เช่นเดียวกับรายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 17.6 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 52.3 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.8 ขณะที่เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 103.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 100.7
เศรษฐกิจภาคตะวันออกในเดือนมีนาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรชะลอตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจาก จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 11.8 ต่อปี แต่ชะลอตัวร้อยละ -4.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล เช่นเดียวกับจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 28.9 ต่อปี แต่ชะลอตัวร้อยละ -0.9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ขณะที่รายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 3.0 ต่อปี และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 56.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.9 สำหรับเครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว ขณะที่เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมูลค่า 8,195.0 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 435.0 ต่อปี จากการลงทุนโรงงานผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากโลหะและพลาสติก ในจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 94.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 96.9