EDU Research & ESG

บีโอไอผนึกNIAเพื่อเป็นหุ้นส่วนนวัตกรรม ชูไทยTech & Talent Hub สู่สากล



กรุงเทพฯ-องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization: WIPO) จัดอันดับดัชนีนวัตกรรมโลกจาก 132 ประเทศทั่วโลก ในปี 2565 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 43 ขยับขึ้น 1 อันดับจากปี 2564 และเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน ขณะที่ดัชนี Global Startup Ecosystem Index 2023 ไทยอยู่ในอันดับที่ 74 ขยับขึ้นจากอันดับที่ 99 ในปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมของไทยที่ดีขึ้น

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ในฐานะหน่วยงานหลักที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศ พร้อมผนึกกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน จัดงานสตาร์ตอัปและอินโนเวชั่น
ไทยแลนด์ เอ็กซ์โป 2023 (STARTUP X INNOVATION THAILAND EXPO 2023) หรือ SITE 2023 ภายใต้แนวคิด “INNOVATION PARTNERSHIP – TOGETHER WE GROW ร่วมสร้าง “หุ้นส่วนนวัตกรรม” เพื่อนำไทยสู่ชาตินวัตกรรม” ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนสำคัญที่สนับสนุนการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัปและนวัตกรรมของไทยในครั้งนี้

หนุนไทยก้าวสู่ Tech & Talent Hub

นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า ด้วยจุดแข็งและศักยภาพของประเทศไทย สามารถก้าวสู่การเป็น Hub ของภูมิภาคได้ในหลายด้าน โดยเฉพาะด้าน Tech & Talent Hub ซึ่งที่ผ่านมา บีโอไอได้ส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและอีโคซิสเต็มส์ด้านดิจิทัล การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ต้นน้ำ ไบโอเทคโนโลยี รวมถึงอาหารแห่งอนาคต ซึ่งจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำคัญสำหรับทิศทางการลงทุนในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยบีโอไอได้ประกาศมาตรการส่งเสริมการลงทุนตามยุทธศาสตร์ใหม่ เพื่อผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นประเทศเป้าหมายของการลงทุนยุคใหม่

เมื่อเดือนมกราคม 2566 บีโอไอได้ประกาศยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่ และมีมาตรการสำคัญ ๆ ที่จะส่งเสริมการลงทุนเพื่อสร้างอีโคซิสเต็มส์ของเศรษฐกิจใหม่หลายด้าน เช่น มาตรการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากร มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมสู่ Smart & Sustainable Industry เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรมาใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ระบบประหยัดพลังงาน และการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมถึงมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เป้าหมาย โดยบีโอไอร่วมกับ NIA ในการส่งเสริมย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี เพื่อส่งเสริมกิจการเทคโนโลยีชีวภาพ การวิจัยทางคลินิก การพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันด้านการแพทย์ หรือกิจการสนับสนุนอื่น ๆ โดยให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเป็นพิเศษ เป็นต้น

นอกจากนี้ บีโอไอยังมีมาตรการให้เงินทุนสนับสนุนสำหรับธุรกิจสตาร์ตอัปผ่านกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยคุณสมบัติจะต้องเป็น Startup ที่จัดตั้งเป็นนิติบุคคลไม่เกิน 5 ปี และมีการระดมทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท และต้องอยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่
บีโอไอให้การส่งเสริม โดยจะสนับสนุนเงินค่าจ้างบุคลากรในสัดส่วน 50% ของค่าจ้างบุคลากรเฉพาะด้านเทคโนโลยีและการบริหาร ไม่เกิน 5 ล้านบาท มีระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี ปัจจุบันมีสตาร์ตอัปประมาณ 30 ราย ที่มายื่นขอรับการส่งเสริมตามมาตรการนี้

อีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศนวัตกรรม คือ การดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงให้เข้ามาทำงานและพำนักอาศัยระยะยาวในประเทศไทย ภายใต้มาตรการ Long-term Resident Visa (LTR Visa) โดยจะให้วีซ่าระยะยาว 10 ปี สำหรับชาวต่างชาติกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มบุคลากรที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญพิเศษ ซึ่งจะได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือเพียง 17% อีกด้วย ปัจจุบันมีชาวต่างชาติยื่นขอใช้สิทธิตามมาตรการ LTR Visa จำนวนกว่า 4,000 ราย โดยส่วนใหญ่มาจากยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน ตามลำดับ

ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมของประเทศ เพราะถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงกับโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของไทยในอนาคต ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งด้านอาหาร การแพทย์ รวมถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายได้ต้องมีหุ้นส่วนนวัตกรรมทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะร่วมกันขับเคลื่อนและส่งผ่านนวัตกรรมไปสู่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะสตาร์ตอัปและเอสเอ็มอี เพื่อยกระดับผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลก

สำหรับการจัดงาน SITE 2023 โดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และองค์กรพันธมิตร ระหว่างวันที่ 22 – 24 มิถุนายน 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บีโอไอได้ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจใหม่” และจัดเสวนาเรื่อง “การส่งเสริม Innovation Business ในประเทศไทย” พร้อมทั้งจัดกิจกรรม Workshop การขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ และการขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความเข้าใจและสามารถเข้าถึงมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ ของบีโอไอ