In Bangkok

กทม.ติวเข้มหลักสูตรบัญชาการเหตุการณ์ สำหรับผู้อำนวยการเขต​'การประสานงาน'



กรุงเทพฯ-รองผู้ว่าฯทวิดา ร่วมเยี่ยมชมการฝึกอบรมหลักสูตรการบัญชาการเหตุการณ์ สำหรับผู้อำนวยการเขต​ สื่อสาร ประสานงานแจ้งเตือน ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดสาธารณภัย

(24 มิ.ย.66)​ เวลา​ 09.00 น.​ รศ.ทวิดา​ กมลเวชช​ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร​ ร่วมเป็นเกียรติตรวจเยี่ยมการฝึกอบรมหลักสูตรการบัญชาการเหตุการณ์สําหรับผู้อำนวยการท้องถิ่น โดย นายบุญธรรม​ เลิศสุขีเกษม​ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ ห้องประชุม 1 ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)​ เขตดุสิต

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร​ กล่าวว่า​ กรุงเทพมหานครมีศักยภาพ แต่ศักยภาพถูกใช้ได้ไม่เต็มที่และไม่ได้ทำอย่างเป็นระบบ เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยขึ้น เช่น อัคคีภัย เราจะมุ่งเน้นในเรื่องดับเพลิงอย่างเดียวเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นการเกิดอัคคีภัย บริษัท​ หมิงตี้เคมีคอล​ จำกัด​ อ.บางพลี​ จ.สมุทรปราการ​ มีการติดต่อไปที่กรุงเทพมหานคร เพื่อประสานเรื่องที่พักพิงผู้ประสบภัย ซึ่งประสบปัญหาด้านการสื่อสารระหว่างพื้นที่ ทำให้ขาดการตัดสินใจของผู้บัญชาการเหตุการณ์ และการสื่อสารไปสู่ประชาชน วันนี้เราจึงมาเรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการที่ควรจะเป็นสำหรับผู้อำนวยการเขต ซึ่งจะเป็นผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยในพื้นที่​ที่เมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้นต้องเป็นผู้ประสานทุกหน่วยงาน อาทิ​ สำนักการระบายน้ำ สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการโยธา​ การขอใช้เงินทดรองราชการเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน​ การออกสำรวจจำนวนครัวเรือนที่ประสบสาธารณภัย

สำหรับในส่วนของกทม.​ ปีนี้จะเป็นการพัฒนาการประสานความร่วมมือทุกหน่วยงานในการป้องกันสาธารณภัยในกรุงเทพฯ​ ผู้อำนวยการเขตสามารถใช้กล้อง CCTV ของสำนักการจราจรและขนส่งในการดูระดับน้ำท่วมแบบ Real Time สามารถทราบระดับน้ำฝนล่วงหน้าได้ 1-2 ชั่วโมง​ การสร้างแผนที่อาคารสูงในพื้นที่เขตที่อาจได้รับผลกระทบจากเขตแผ่นดินไหวซึ่งรองผู้ว่าฯ​ วิศณุ​ กำลังเชื่อมพัฒนาระบบทั้งหมดอยู่​ รวมถึงวันนี้กทม.จะประสานความร่วมมือกับ​ ปภ.ในการเชื่อมโยงข้อมูลใช้งาน Line Alert เพื่อเตือนเหตุแผ่นดินไหว​ พายุ และทุกสาธารณภัยที่เกี่ยวข้องกับกรุงเทพฯ เพื่อสื่อสารและแจ้งเตือนไปถึงประชาชนลดความตื่นตระหนกและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน​ นอกจากนี้หลักสูตรในวันนี้จะครอบคลุมการฝึกอบรมไปถึงผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต หัวหน้าฝ่ายปกครอง เพื่อจะได้รับทราบหน้าที่และอำนาจในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเกิดเหตุสาธารณภัย​ รวมถึงการบัญชาการร่วมกับหน่วยงานอื่น

"การสื่อสารในภาวะวิกฤตเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดของผู้อำนวยการเขตในฐานะผู้บัญชาการ​   ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับที่ 1 เนื่องจากถ้าสื่อสารไม่รู้เรื่อง จะเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง นอกจากนี้ผู้อำนวยการเขตยังสามารถสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นสำนักการโยธา​ สำนักอนามัย​ เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยได้​ " รศ.ทวิดา​ กล่าว

อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)​ กล่าวว่า​ สถานการณ์สาธารณภัยในปัจจุบันมีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยงานกลางของรัฐในการดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ ภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 โดยมีแผนการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564 - 2570 เป็นกรอบแนวทางในการจัดการสาธารณภัยของประเทศไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดให้มีการฝึกอบรมหลักสูตรการบัญชาการเหตุการณ์สำหรับผู้อำนวยการท้องถิ่น​ และผู้อำนวยการเขตสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในบทบาท อำนาจหน้าที่ ภารกิจ เข้าใจระบบ บัญชาการเหตุการณ์ สามารถประยุกต์ใช้หลักการบัญชาการเหตุการณ์ในการจัดการเหตุการณ์ในพื้นที่เกิดเหตุและองค์กรปฏิบัติในการจัดการภาวะฉุกเฉิน รวมถึงเข้าใจบทบาทหน้าที่ของผู้บัญชาการ เหตุการณ์ รวมทั้งสามารถวางแผนและจัดทำแผนเผชิญเหตุในการจัดการสาธารณภัยในพื้นที่ ให้สามารถขับเคลื่อนงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทาง เดียวกัน มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัย แนวทางการจัดการ สาธารณภัยในภาวะฉุกเฉิน รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ประสบภัย และร่วม เป็นเครือข่ายในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขตกรุงเทพมหานคร การสนธิกำลังกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการสาธารณภัยได้อย่างมีเอกภาพ อันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป 

ทั้งนี้​ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)​ กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการหลักสูตรการบัญชาการเหตุการณ์สำหรับผู้อำนวยการท้องถิ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้พื้นฐาน​ เข้าใจระบบบัญชาการเหตุการณ์ สามารถประยุกต์ใช้หลักการบัญชาการเหตุการณ์ในการจัดการเหตุการณ์ในพื้นที่เกิดเหตุและองค์กรปฏิบัติในการจัดการภาวะฉุกเฉิน เข้าใจบทบาทหน้าที่ของผู้บัญชาการเหตุการณ์​ รวมทั้งสามารถวางแผนและจัดทำแผนเผชิญเหตุในการจัดการสาธารณภัยในพื้นที่ กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้อำนวยการเขต จำนวน 45 คน ผู้บริหารสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 9 คน รวมทั้งสิ้น 54 คน