In Bangkok

เริ่มแล้ว! ลงติดตั้งระบบควบคุมไฟจราจร นำร่องบนถนนหลัก4สาย



กรุงเทพฯ-(26 มิ.ย.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการแก้ไขปัญหาการจราจรด้วยการติดตั้งระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรเป็นพื้นที่ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือ Bangkok Area Traffic Control Project (BATCP) ณ ห้องพญาไท ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท

การริเริ่มโครงการแก้ไขปัญหาการจราจรด้วยการติดตั้งระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรเป็นพื้นที่ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือ Bangkok Area Traffic Control Project (BATCP) นำร่องนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการบริหารจัดการจราจรด้วยระบบอัจฉริยะ เพื่อปรับปรุงสภาพการจราจรในกรุงเทพมหานครอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สำหรับพื้นที่โครงการนำร่องของระบบ ATC นี้ จะครอบคลุมพื้นที่บนถนนหลัก 4 สาย ได้แก่ ถนนพระราม 6 ถนนราชวิถี ถนนพหลโยธิน และถนนประดิพัทธ์ ซึ่งมีระบบสัญญาณไฟจราจรทางแยก 13 แห่งและสัญญาณไฟทางข้ามอีก 4 แห่ง โดยมีศูนย์ควบคุมกลางตั้งอยู่ที่สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร 

ระบบ ATC ที่นำมาติดตั้งในพื้นที่โครงการนำร่องนี้ จะใช้เซนเซอร์เก็บข้อมูลสภาพจราจรในพื้นที่ผ่านเครื่องตรวจจับยานพาหนะแบบ Ultrasonic และกล้อง CCTV ที่คอยตรวจจับสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ อุปกรณ์ตรวจจับเหล่านี้จะส่งข้อมูลที่รวบรวมได้ผ่านเครือข่ายใยแก้วนำแสงไปยังศูนย์ควบคุมการจราจร จากนั้นจะใช้อัลกอริทึม ขั้นสูง ที่เรียกว่า “MODERATO” วิเคราะห์ข้อมูลการจราจรและคำนวณเวลาสัญญาณไฟที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสัญญาณไฟจราจรในพื้นที่นำร่อง โดยคำนึงถึงปริมาณการจราจรและระดับความติดขัด และปรับเวลาสัญญาณไฟให้เหมาะกับสภาพการจราจรในพื้นที่แบบเรียลไทม์ ก็จะถูกส่งกลับไปยังสัญญาณไฟจราจรแต่ละแยกผ่านเครือข่ายใยแก้วนำแสงเพื่อให้สัญญาณไฟเขียวที่ดีที่สุด ซึ่งจะเป็นตัวช่วยสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ระบบยังสามารถเก็บรักษาบันทึกข้อมูลการจราจรและข้อมูลการทำงานของสัญญาณไฟ เพื่อให้นำไปใช้วิเคราะห์และปรับปรุงในอนาคตได้อีกด้วย 

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ก็จะเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของกรุงเทพมหานคร เรื่องการจราจรเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และส่งผลไม่ใช่แค่ในมิติรถติดแต่หมายถึงเศรษฐกิจ ชีวิตของประชาชนที่จะมีเวลากลับคืนมามากขึ้น การใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัว รวมถึงอนาคตของกรุงเทพมหานครเองด้วย เพราะสุดท้ายแล้วกทม. ก็ต้องการดึงคนเก่ง ดึงบริษัทที่มีศักยภาพมาอยู่กับเรา สร้างเมืองที่น่าอยู่ ถ้าการจราจรเราติดขัด รถเคลื่อนที่ไม่ได้ โอกาสที่เราจะเป็นเมืองชั้นนำแห่งภูมิภาคก็น้อยลง จะเห็นได้ว่าโครงการนี้ได้มีการดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 จนเป็นรูปธรรมในวันนี้ ขอขอบคุณภาคีเครือข่ายเป็นอย่างมากสำหรับความร่วมมือในหลายๆ ด้าน ที่ผ่านมาทั้ง JICA ประจำประเทศไทยและสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นเป็นมิตรที่ดีอย่างมากต่อกรุงเทพมหานครเสมอมา และเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นผลงานชิ้นโบแดงของความร่วมมือกันในครั้งนี้ และสิ่งสำคัญที่สุดคือวันนี้เรานำร่องของระบบ ATC นี้ ครอบคลุมพื้นที่บนถนนหลัก 4 สาย สัญญาณไฟจราจรทางแยก 13 แห่งและสัญญาณไฟทางข้ามอีก 4 แห่ง ต่อไปจะเป็นการขยายผลดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในและจุดที่มีการจราจรติดขัดก่อน ซึ่งปัจจุบันในกทม.มี 500 สัญญาณไฟเป็นโจทย์ที่ท้าทายว่าในอนาคตจะขยายผลอย่างไรให้ครอบคลุมทั้งหมด หากทำได้เชื่อว่าจะทำให้ตำรวจทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งจากการทดลองใช้งานจะเห็นว่าถนนพหลโยธินการจราจรดีขึ้นประมาณ 15% การจราจรอาจติดขัดบ้างแต่รถยังสามารถเคลื่อนตัวไปได้

สำหรับการใช้งบประมาณ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันมีเทคโนโลยีคือกล้อง CCTV กับอุลตร้าโซนิค เราพยายามหาเทคโนโลยีใหม่ เช่น การใช้ข้อมูลจาก GPS มาดูปริมาณรถแทน ก็น่าจะใช้งบประมาณได้น้อยลง ขณะนี้ที่ญี่ปุ่นกำลังมีการทดลองทำอยู่ หากสำเร็จก็จะสามารถทำได้เร็วเพราะไม่ต้องติดตั้งเซนเซอร์แต่ใช้ข้อมูลจาก GPS แทน ข้อดีคือกทม. เองเรามีเครือข่ายไฟเบอร์ออฟติคเพราะฉะนั้นการส่งสัญญาณต่างๆ สามารถส่งผ่านไฟเบอร์ออฟติคนี้ได้เลย เชื่อว่าสิ้นปีนี้จะเห็นการขยายผลอย่างรวดเร็ว 

สำหรับระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรเป็นพื้นที่ หรือระบบ Area Traffic Control : ATC เกิดจากความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร โดยสำนักการจราจรและขนส่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ JICA ซึ่งได้ร่วมลงนามในข้อตกลง MOU เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 เพื่อดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาการจราจรด้วยการติดตั้งระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรเป็นพื้นที่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือ Bangkok Area Traffic Control Project (BATCP) ในพื้นที่นำร่องดังกล่าว