In News

กทม.ร่วมเขตตลิ่งชันทำบุญออกพรรษา ตักบาตรเทโว-ห่มผ้าพระพุทธมหาโชคดี



กทม.ร่วมเขตตลิ่งชัน สืบสานประเพณีไทย จัดพิธีตักบาตรเทโวโรหณะและพิธีห่มผ้าพระพุทธมหาโชคดี เนื่องในวันออกพรรษา ที่วัดจำปา แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน

(3 ต.ค.63) เวลา 07.30 น. พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีตักบาตรเทโวโรหณะ และพิธีห่มผ้าพระพุทธมหาโชคดี โดยมี พระครูสุนทรจริยาภิรม เจ้าอาวาสวัดจำปา นายดลจิตร์ เสรีรักษ์ ผู้อำนวยการเขตตลิ่งชัน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตตลิ่งชัน สถานศึกษาในพื้นที่ และประชาชน ร่วมพิธี ณ วัดจำปา เขตตลิ่งชัน

วัดจำปา แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน ได้จัดประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะหรือแห่ดาวดึงส์ ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้กำหนดจัดขึ้น ในวันเสาร์ที่ 3 ต.ค.63 ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 เพื่อสืบทอดประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะของวัดจำปา ซึ่งจัดสืบต่อกันมาเป็นเวลากว่า 100 ปี เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสร่วมทำบุญตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์ทุกรูปที่จำพรรษา และพระภิกษุสงฆ์จากวัดใกล้เคียง รวมถึงเป็นการประสานความรัก ความสามัคคี ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่คู่วัดจำปาและชุมชนสืบต่อไป ตลอดจนเป็นการแสดงออกถึงวันที่พระพุทธองค์เสด็จกลับจากการโปรดพระพุทธมารดาในเทวโลก โดยจำพรรษาอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นเวลา 1 พรรษา และเมื่อออกพรรษาแล้วพระองค์เสด็จกลับยังโลกมนุษย์ จึงเรียกกันว่า ตักบาตรดาวดึงส์ พุทธศาสนิกชนจะมารอทำบุญใส่บาตรพระพุทธเจ้า โดยอาหารที่นำมาใส่บาตรจะเป็นข้าวต้มลูกโยน เพราะประชาชนมากันเป็นจำนวนมาก ทำให้ใส่บาตรไม่ถึง จึงได้ทำข้าวต้มลูกโยนขึ้น เพื่อโยนใส่บาตรพระพุทธเจ้า และได้กระทำสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน อึกทั้งในปีนี้วัดจำปาได้จัดพิธีห่มผ้าหลวงพ่อโชคดีในอุโบสถหลังเก่า และพระพุทธมหาโชคดีในอุโบสถหลังใหม่ เพื่อให้สาธุชนทั้งหลายได้มีโอกาสได้ร่วมพิธีอีกด้วย

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานประเพณีตักบาตรที่วัดจำปาในปีนี้ จะเห็นได้ว่าประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะนั้น เป็นประเพณีที่สำคัญ ซึ่งชาวพุทธถือว่าเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หรือเรียกกันว่าตักบาตรดาวดึงส์ ซึ่งวัดจำปาและชาวชุมชนในเขตตลิ่งชัน ยังคงรักษาประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะนี้ไว้ ส่วนพิธีห่มผ้าพระพุทธมหาโชคดี นับว่าเป็นประเพณีทุกๆ ปี ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่สาธุชนร่วมกันสืบสานและขอให้อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามให้สู่เยาวชนรุ่นหลังและอยู่คู่กับชุมชนสืบไป