Travel Sport & Soft Power

กทม.เตรียมเปิดรร.ฝึกอาชีพย่านประเวศ



กรุงเทพฯ-รองผู้ว่าฯกทม.ตรวจความเรียบร้อย เตรียมเปิดโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานครแห่งใหม่ย่านประเวศ ด้วยหลักสูตรทันสมัยและสมบูรณ์แบบที่สุด 

(19 มี.ค.64) เวลา 10.00 น. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) โดยมี นายเฉลิมพล โชตินุชิต ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาสังคม สำนักงานเขตประเวศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ ณ โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) ซอยเฉลิมพระเกียรติ 39/2 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เขตประเวศ 

กรุงเทพมหานคร โดยสำนักพัฒนาสังคมดำเนินโครงการก่อสร้างโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) ซึ่งเป็นโรงเรียนฝึกอาชีพแห่งใหม่ โดยย้ายมาจากโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (บ่อนไก่) เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีสภาพการจราจรหนาแน่นและติดขัด มีการก่อสร้างทางขึ้นลงทางด่วนบริเวณถนนพระราม 4 ตามแนวเส้นทางเชื่อมถนนวิทยุ อีกทั้งสภาพอาคารเรียนมีขนาดเล็กและคับแคบ บริเวณใกล้เคียงมีโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร อีก 2 แห่ง และราคาค่าเช่าที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (บ่อนไก่) มีราคาสูงขึ้น จึงมีความจำเป็นในการย้ายสถานที่ตั้ง ประกอบกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีนโยบายในการก่อสร้างโรงเรียนฝึกอาชีพให้ครอบคลุมทุกพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้ง 4 มุมเมือง เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชน สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้มากขึ้น เนื่องจากวิชาชีพหลายสาขาประชาชนสามารถนำไปประกอบอาชีพได้จริง ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานครแห่งใหม่ ตั้งอยู่ภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ 39/2 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เขตประเวศ ซึ่งเป็นที่ดินของกรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่ 4 ไร่ 3 งาน 52 ตารางวา โดยกรุงเทพมหานครได้รับความร่วมมือจากบริษัทเอกชน ที่เห็นถึงความสำคัญในการตั้งโรงเรียนฝึกอาชีพ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษา การประกอบอาชีพให้แก่ประชาชนทั่วไป จึงให้การสนับสนุนทุนการก่อสร้างอาคาร โดยไม่ได้ใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย อาคารเรียนรวม 4 ชั้น อาคารที่พักบุคลากร 3 ชั้น และอาคารนครภัณฑ์ เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 เม.ย.63 ซึ่งจะแล้วเสร็จในวันที่ 30 มี.ค.64 

สำหรับโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) นับว่าเป็นโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานครขนาดใหญ่ มีความทันสมัยและสมบูรณ์แบบที่สุด ในจำนวน 10 แห่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพตะวันออก เนื่องจากยังไม่มีโรงเรียนฝึกอาชีพในพื้นที่ดังกล่าว กำหนดเปิดการเรียนการสอนในภาคเรียนที่ 1/2564 ในวันที่ 17 พ.ค.64 มีห้องเรียน จำนวน 32 ห้อง เปิดสอน จำนวน 19 วิชา เช่น จัดดอกไม้เพื่ออาชีพ ผลิตสื่อภาพยนตร์ระบบดิจิตอล บาริสต้า อาหารนานาชาติ โซลาร์เซลล์ เป็นต้น สามารถรองรับนักเรียนได้จำนวน 2,400 คนต่อภาคเรียน โดยมีพื้นที่รองรับนักศึกษาได้ 9,824.16 ตร.ม. มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ อาทิ ห้องสุขา ลิฟต์ และทางลาด เป็นต้น ซึ่งในอนาคตโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) จะเป็นทั้งสถานที่ฝึกอาชีพ เป็นสถานที่สอนทำการเกษตรเมือง และเป็นตลาดนัดสีเขียว ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ของนักศึกษา รวมถึงผลิตภัณฑ์ Bangkok Brand และเปิดให้บริการร้านนครภัณฑ์แห่งที่ 3 อีกด้วย 

ทั้งนี้ ประชาชนผู้สนใจสามารถสอบถามและสมัครเรียนได้ที่โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร ทั้ง 10 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (ดินแดง 1) โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (ดินแดง 2) โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (คลองเตย) โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (หนองจอก) โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (บางรัก) โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (หลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ) โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (กาญจนสิงห์หาสน์ฯ) โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (ม้วน บำรุงศิลป์) โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (อาทร สังขะวัฒนะ) โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครออนไลน์ได้ที่ www.bmatraining.ac.th 

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) แห่งนี้ เป็นโรงเรียนที่ย้ายมาจากโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (บ่อนไก่) เนื่องจากบริเวณดังกล่าว อาคารเรียนมีขนาดเล็กและคับแคบ อีกทั้งราคาค่าเช่าที่ดินมีราคาที่สูงขึ้น ซึ่งการก่อสร้างได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชน ไม่ได้ใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร กำหนดพิธีเปิดอาคารเรียนในเดือน เม.ย.64 โดยมี พล.ต.อ อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานคร ได้พัฒนาปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้สอดคล้องต่อความต้องการของผู้เรียน หลักสูตรใดที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ก็จะหาแนวทางในการเพิ่มจำนวนห้องเรียน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้เรียนต่อไป