In Thailand
จัดกิจกรรม‘วัด ประชา รัฐ’สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว

สุราษฎร์ธานี-สพจ.สุราษฎร์ ผนึกกำลัง สพอ.เมืองฯ ร่วมบูรณาการ 7 ภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม“วัด ประชา รัฐ” สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทาอาหาร ณ วัดบางขยาราม ตำบลบางชนะ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดกิจกรรมวัด ประชา รัฐ” สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทาอาหาร โดยกิจกรรมในวันนี้ได้รับเกียรติจากนายนพรัตน์ ธำรงทรัพย์ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน เขตตรวจราชการที่ 5 เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งนี้นายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวให้การต้อนรับ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ในวันนี้ ประกอบด้วย 7 ภาคีเครือข่าย ส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ อาสาพัฒนาชุมชน กลุ่มสตรี คณะครู/นักเรียน จากโรงเรียนชลธาร คณะนักเรียนสามเณรจากโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาปัญญาทีปวิทยานุสรณ์ คณะสื่อมวลชน และประชาชนตำบลบางขยาราม และชุมชนใกล้เคียง ณ วัดบางขยาราม ตำบลบางชนะ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีพระอธิการภูวนาท จารุธมฺโม เจ้าอาวาสบางขยาราม และองค์การบริหารส่วนตำบลบางชนะ ให้ความอนุเคราะห์ด้านสถานที่และอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมดังกล่าวฯ
ในการนี้ นายกรองศักดิ์ โอยสวัสดิ์ พัฒนาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ นายพิชัย มณีลาภ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า เพื่อส่งเสริมวัดให้เป็นพื้นที่การเรียนรู้ พัฒนาจิตใจและปัญญา ช่วยสร้างพลังชุมชนให้ช่วยเหลือรับผิดชอบต่อสังคม ให้ให้ชุมชนมีจิตสำนึก และจิตอาสาในการพัฒนาวัด และยังให้ชุมชนเป็นต้นแบบของครัวเรือนที่มีวัดเป็นศูนย์กลางและเป็นแหล่งเรียนรู้ในการปลูกผักสวนครัวถ่ายทอดวิถีปฏิบัติสู่เยาวชน อันเป็นปัจจัยในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร เป็นการพัฒนาวัดด้วยแนวทาง 3 – 5 -7 – 9 คือ 3 พันธกิจ 5ส 7 ขั้นตอน 9 พื้นที่ ที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม โดยใช้หลัก 5 ส (สะสาง สะดวก สะอาด สร้างมาตรฐาน สร้างวินัย) และบูรณาการควบคู่ไปกับการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ต่อยอดและขยายผลรณรงค์ส่งเสริมการสร้างทักษะชีวิต วิถีใหม่เยาวชนไทยสร้างอาหารเป็น โดยกิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย กิจกรรมปลูกผักสวนครัว /พืชสมุนไพร และกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวัด โดยคณะครูสามเณร/นักเรียน และอาสาพัฒนาชุมชน ร่วมกันเก็บขยะบริเวณวัดท่ามกลางแสงแดดในยามเช้าอย่างพร้อมเพรียง
นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงการจัดกิจกรรมฯว่า เป็นการพัฒนาวัดขยายแนวคิดหลัก 5ส.(สะสาง สะดวก สะอาด สร้างมาตรฐาน สร้างวินัย) ไปสู่การปรับปรุงภูมิทัศน์ การจัดการสิ่งแวดล้อม เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นให้วัดเป็นพื้นที่สัปปายะ และการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นกับบุคคล อันจะนำไปสู่พัฒนาการเรียนรู้ทางสังคมวิถีพุทธ รวมทั้งการมีจิตอาสาเพื่อการพัฒนาสังคม และเป็นการสร้างกลไกการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมให้มีวินัยสามารถขับเคลื่อนไปได้ด้วยตนเอง เป้าหมายสำคัญคือ “วัดสวยด้วยความสุข” และ “การสร้างวัดในใจคน”สร้างสุขภาวะทางปัญญา
กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา โดยกำหนดดำเนินการในช่วงเวลา 5 ปี (พ.ศ.2563- 2568) และได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข”ระหว่างมหาเถรสมาคม (ฝ่ายสาธารณูปการ) มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ และ บริษัทเนเจอร์กิฟ จำกัด ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชนมีหน้าที่ตามภารกิจบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)ติดต่อประสานงาน พัฒนาวัด ชุมชน/ประชาชนและสถานศึกษา และประชาสัมพันธ์เผยแพร่การดำเนินโครงการวัด ประชา รัฐ “ระดับพื้นที่” ผ่านทางเวบไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์ของหน่วยงาน หรือเอกสารวิชาการต่างๆ
นายนพรัตน์ ธำรงทรัพย์ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ได้กล่าวเสริมถึงการจัดกิจกรรมดังกล่าว ว่า “วัด” คือ ศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน “ประชา” คือประชาชน/ช่าวบ้านในชุมชน “รัฐ” คือ ภาคส่วนราชการต่างๆ ภาคีเครือข่ายที่เป็นกำลังสำคัญ และยังเป็นการดำเนินงาน ตามหลัก “บวร” มาใช้ในการพัฒนาชุมชน คือ บ้าน วัด โรงเรียน ทั้งนี้ได้กล่าวทิ้งท้ายในนาม กรมการพัฒนาชุมชน ขอขอบคุณภาคีทุกภาคส่วนที่มีส่วนให้การสนับสนุนขับเคลื่อนการดำเนินกิจกรรมงานพัฒนาชุมชน และหวังว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะสร้างความมั่นคงทางอาหาร ให้เกิดกับชาวบ้านในชุมชนและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างยั่งยืน