In Bangkok
เขตหนองแขมสั่งห้ามใช้ตึกโรงงานเทียน หลังเกิดเพลิงไหม้ขอวสท.ร่วมตรวจสอบ
กรุงเทพฯ-นางมณีวรรณ ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการเขตหนองแขม กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ซอยสุนทร 5 ถนนบางบอน 3 เขตหนองแขม ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายเทียนไขว่า สำนักงานเขตหนองแขม ได้ประสานสถานีตำรวจนครบาล (สน.) หนองแขม และกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้โรงงานดังกล่าว รวมทั้งประสานความร่วมมือสำนักการโยธา กทม.และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ร่วมตรวจสอบโครงสร้างอาคาร เนื่องจากอาคารดังกล่าวเกิดเพลิงไหม้รวมระยะเวลาเกินกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งอาจส่งผลต่อโครงสร้างหลักของอาคารได้ เบื้องต้นสำนักงานเขตฯ ได้ปิดกั้นแสดงอาณาเขตเพลิงไหม้และห้ามเข้าใช้อาคารไว้ หากผลการตรวจสอบอาคารดังกล่าวเป็นภัยอันตราย สำนักงานเขตฯ จะออกคำสั่งห้ามมิให้เจ้าของอาคาร หรือผู้ครอบครองอาคารใช้ หรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคาร ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 พร้อมปิดกั้นแสดงอาณาเขตเพลิงไหม้และปิดประกาศให้ประชาชนที่สัญจรไปมาบริเวณใกล้เคียงทราบว่า อาคารอาจเป็นภัยอันตราย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงานเขตฯ ร่วมกับสถานีดับเพลิงและกู้ภัยหนองแขมลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยและระบบป้องกันอัคคีภัยในอาคารของอาคารแต่ละประเภทอย่างต่อเนื่อง รวมถึงควบคุมกำกับให้สถานประกอบการปฏิบัติตามกฎกระทรวงควบคุมสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ.2560 โดยเคร่งครัด
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม.กล่าวว่า สปภ.ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ 84 นาย พร้อมรถดับเพลิง 19 คัน เข้าดับเพลิงสถานที่ดังกล่าวจนกระทั่งเพลิงสงบลง จึงได้ตรวจสอบพบว่า ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายเทียนไข ซึ่งเพลิงได้ลุกไหม้อาคารพาณิชย์เสียหาย 3 คูหา รวมระยะเวลาเพลิงไหม้ 3 ชั่วโมง 55 นาที ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้และค่าเสียหายอยู่ระหว่างการสอบสวนของ สน.หนองแขม สำหรับการดับเพลิงในครั้งนี้ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน เนื่องจากวัสดุที่เพลิงลุกไหม้เป็นสารจำพวกพาราฟิน และเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ดังนั้น เพื่อให้อาคารทุกแห่งอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้งานได้อย่างปลอดภัย จึงขอความร่วมมือเจ้าของอาคารและผู้ประกอบการต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบ ดูแล ปรับปรุงอาคาร และปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคารอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะระบบป้องกันและระงับอัคคีภัยของอาคารแต่ละประเภทให้ติดตั้งอุปกรณ์และปฏิบัติตามที่ทางราชการกำหนด เพราะนอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานอาคารได้นานขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เกิดความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้อาคารและผู้อยู่อาศัยในอาคารเหล่านั้น ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ หรือเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าระงับเหตุโดยเร็ว