Biz news
OutSystems ประกาศฟิวเจอร์AIใหม่ แก้ไขและปรับแอปฯที่สำคัญต่อองค์กร

กรุงเทพมหานคร -10กรกฎาคม 2566– OutSystemsผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่มีประสิทธิภาพสูง ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ ซึ่งรวมถึงความพร้อมใช้งานทั่วไปของตัวเชื่อมต่อใหม่สำหรับ Azure OpenAI ที่สร้างขึ้นร่วมกับ Microsoft และแผนงานสำหรับชุดความสามารถใหม่ในการสร้าง generative AI โดยใช้ชื่อรหัสว่า “Project Morpheus”
ฟีจเจอร์ใหม่นี้เป็นผลงานล่าสุดของศูนย์วิจัย AI ของ OutSystems ที่ทุ่มเทเพื่องานนี้โดยเฉพาะและเป็นการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีสิทธิบัตรหลายฉบับและความเชี่ยวชาญเชิงลึกเกี่ยวกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่และโครงข่ายประสาทเทียมแบบกราฟ การใช้ AI ของ OutSystems ก่อให้เกิดการปรับปรุงอย่างมากในด้านคุณภาพของโค้ดที่เขียน ประสิทธิภาพการพัฒนาโดยรวม และด้านความปลอดภัยและการกำกับดูแลที่จำเป็น
เปาโล โรซาโด ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ OutSystems กล่าวว่า "OutSystems มุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนาอย่างแท้จริงโดยไม่ยอมลดทอนประสิทธิภาพบางด้านไป" “เมื่อเราพัฒนาผลิตภัณฑ์แรกของเรา ซอฟต์แวร์เป็นกระบวนการที่ต้องพัฒนาด้วยแรงคนและโครงการพัฒนาส่วนใหญ่ในทุกอุตสาหกรรมและทุกขนาดของบริษัทมักส่งมอบล่าช้าและเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ เราได้ยินเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่คือจุดที่เรากำหนดพันธกิจของเราในตอนนั้น และอาศัยจุดกำเนิดนั้นเป็นวิถีทางให้เราพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ แพลตฟอร์ม AI ของเราทำให้ทีมนักพัฒนามีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นที่ทำเพียงให้ติ๊กเลือกเครื่องมือ AI และช่วยเร่งให้ทำงานได้เร็วขึ้นก็เพียงพอ แต่เรารู้สึกว่านี่เป็นการใช้ประโยชน์จาก AI น้อยมาก การลงทุนเชิงลึกของเราในแพลตฟอร์มที่ประกอบไปด้วยAI พร้อมการตรวจสอบเข้มงวดและรวมถึงการจัดการด้านGovernance ช่วยให้มั่นใจว่าทุกแอปพลิชันที่ได้มานั้นตรงตามมาตรฐานสูงสุดเพื่อให้องค์กรพร้อมใช้งานได้ทันที”
เพิ่มประสบการณ์แอปพลิเคชั่นด้วยตัวเชื่อมต่อ Azure Open AI ใหม่
ตัวเชื่อมต่อ OutSystems ใหม่สำหรับ ChatGPT ขณะนี้พร้อมใช้งานทั่วไปแล้ว ทำให้การสร้างแอปพลิเคชั่นที่ขับเคลื่อนด้วย AI เป็นเรื่องง่ายด้วยการใช้รูปแบบการพัฒนา Low-code ในเวลาไม่กี่นาที เสริมให้นักพัฒนาสามารถควบคุมพลังของ generative AI ภายในแอปพลิเคชั่นของตนได้อย่างง่ายดายพวกเขาสามารถขยายไปสู่กรณีการใช้งานใหม่และปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ๆ ด้วยประสบการณ์การสนทนาแบบโต้ตอบ ตัวอย่างเช่น งานช่วยเหลือและสนับสนุนลูกค้า ผู้ช่วยเสมือน แอปพลิเคชั่นจองทริปท่องเที่ยวและการเดินทาง การแปลภาษา และอื่นๆ ซึ่งล้วนได้รับการเสริมประสิทธิภาพ
เติมเต็มประสิทธิภาพ Generative AI โดยไม่ต้องสูญเสียการควบคุมที่ดีไป
จากโครงการ Morpheus ไม่ว่านักพัฒนาจะมีทักษะระดับใดก็ตาม พวกเขาก็สามารถสร้างแอปพลิเคชั่นที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของตนเองผ่านการทำซ้ำอย่างรวดเร็วและความช่วยเหลือจาก AI Generative ซึ่งระบบ AI จะสร้างเวอร์ชันเริ่มต้นของแอปพลิเคชั่นภายในเวลาไม่กี่นาที จากนั้นอนุญาตให้นักพัฒนาปรับแต่งแอปพลิเคชั่นได้อย่างรวดเร็วด้วยกลไก AI ที่ให้คำแนะนำการเปลี่ยนแปลงตามเวลาจริง โดยรวมแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดตามมาตรฐานอุตสาหกรรมนั้นๆ
คุณลักษณะที่สำคัญของRoadmap การสร้าง AI ของ OutSystems ประกอบด้วย:
- การสร้างแอปพลิเคชั่นโดยป้อนข้อมูลคำสั่งเชิงการสนทนา: แทนที่จะเขียนโค้ดโปรแกรม นักพัฒนาสามารถใช้การป้อนข้อมูลคำสั่งด้วยภาษาธรรมชาติ เพื่ออธิบายลักษณะของแอปพลิเคชั่น และ Generative AI จะทำหน้าที่สร้างแอปพลิเคชั่น ซึ่งจะเห็นถึงการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ และเปิดโอกาสให้กลุ่ม talent ในด้านต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาแอปพลิเคชั่น
- ตัวแก้ไขแอปพลิเคชั่นที่ขับเคลื่อนด้วย AI เสนอคำแนะนำอย่างต่อเนื่อง: ใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศปัจจุบันของแอปพลิเคชั่น OutSystems เพื่อปรับแต่งโมเดล Generative AI ที่ซับซ้อนอย่างละเอียดโดย OutSystems จะให้คำแนะนำแบบครบวงจรตั้งแต่ข้อมูลไปจนถึงออกแบบหน้าตา UI ซึ่งสามารถใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงแอปในประสบการณ์แบบที่ไร้ข้อผิดพลาด
- การแสดงภาพการเปลี่ยนแปลงแอปพลิเคชั่นแบบเรียลไทม์แบบครบวงจร: เพื่อขจัด "ปัญหาที่หาสาเหตุยาก(Black box problem)" ที่สร้างขึ้นโดย Generative AI ซึ่งการสร้างโค้ดจำนวนมากอาจทำให้ยากต่อการตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นภายในระบบ การเขียนCoding ด้วยการdrag and drop (Visual Developement)ของOutSystems จะทำให้การตรวจสอบเอาต์พุตของ Generative AI ได้ง่าย ในขณะที่เทคโนโลยีคอมไพเลอร์ที่ล้ำสมัย จะช่วยให้สามารถตรวจจับภัยคุกคามและรูปแบบโค้ดที่กำหนดขึ้นโดยกลไก generative AI ได้
- ระบบนิเวศของตัวเชื่อมต่อที่ครอบคลุม: ลูกค้าสามารถสร้างแอปพลิเคชั่นที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้อย่างง่ายดายภายในเวลาไม่กี่นาทีด้วยตัวเชื่อมต่อไปยังบริการทั่วไปจาก Microsoft, Google, Amazon และผู้ให้บริการบุคคลที่สามอื่นๆ ได้
ฟีเจอร์ใหม่นี้เน้นที่การสร้างประสบการณ์ของแอปพลิเคชั่นที่ปรับเปลี่ยนได้สูง ซึ่งใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของ Generative AI ในการเร่งเวลาออกสู่ตลาดให้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มศักยภาพให้ทั้งนักพัฒนาหน้าใหม่และนักพัฒนาที่ไม่เคยใช้โค้ดมากขึ้นและเปิดใช้งานการเปลี่ยนแปลงและการโต้ตอบที่รวดเร็ว ทั้งหมดนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าแอปพลิเคชั่นใดๆ ที่สร้างโดย AI ยังคงให้คุณสมบัติในระดับเดียวกันกับที่ใช้ในองค์กรและการปรับแต่งที่ไร้ขีดจำกัดตามที่ลูกค้าต้องการ เพื่อตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้นของฝ่ายไอที
"คำแนะนำที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ OutSystems ช่วยให้นักพัฒนาหน้าใหม่ของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วขึ้นมาก และช่วยให้นักพัฒนามือใหม่ปรับใช้แอปพลิเคชั่นได้เหมือนนักพัฒนาอาวุโสที่มีประสบการณ์สูง สำหรับเราแล้วในขณะที่เรากำลังขยายขนาดของทีมการพัฒนาแบบ Low-Code และการสรรหานักพัฒนาจำนวนหลายร้อยคน การเพิ่มผลิตภาพแบบนั้นถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งเช่นกัน”Igor Rigotti หัวหน้าศูนย์การพัฒนาแบบ Low-Code ของ Petrobras กล่าว