In News

ครม.ไฟเขียวกฎฯสธ.การอนุญาตโฆษณา บำบัดรักษา-ฟื้นฟูของผู้ติดยาเสพติด



กรุงเทพฯ-ครม.ไฟเขียวกฎกระทรวงกำหนดเกณฑ์การอนุญาตโฆษณาเกี่ยวกับการบำบัดรักษา หรือการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ติดยาเสพติด วางเกณฑ์กำกับให้เป็นไปตามเจตนารมณ์กฎหมายสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้เข้ารับการบำบัด และสธ. จัดประชุมวิชาการยาเสพติด บูรณาการทุกภาคส่วนระดับประเทศและนานาชาติ ขับเคลื่อนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดอย่างเป็นระบบ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 8 ส.ค. 66 ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการอนุญาตโฆษณาเกี่ยวกับการบำบัดรักษา หรือการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ติดยาเสพติด พ.ศ..... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาต การออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการโฆษณาการบำบัดรักษา หรือการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด รวมทั้งกำหนดค่าธรรมเนียมในการโฆษณาซึ่งไม่เกินอัตราค่าธรรมเนียมที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ การออกร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าวนี้เนื่องมากจากที่ผ่านมายังไม่มีการควบคุมกำกับการโฆษณาของสถานพยาบาลยาเสพติดและสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด คงแมีแต่การโฆษณาเกี่ยวกับสถานพยาบาลที่ถูกควบคุมโดย พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 จึงทำให้ไม่สามารถกำกับดูแลให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้จะทำให้มีหลักเกณฑ์และวิธีการที่ชัดเจนในการควบคุมและกำกับดูแลโฆษณาเกี่ยวกับการบำบัดรักษาหรือการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด เพื่อป้องกันการโฆษณาที่เป็นเท็จ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจในการเข้ารับการบำบัดรักษาให้แก่ผู้ติดยา ตามเจตนารมณ์ของประมวลกฎหมายยาเสพติด  และการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการโฆษณานั้นจะนำเข้าเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การเสนอขออนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงนี้เป็นการปฏิบัติราชการตามปกติ เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายแม่บทได้บัญญัติให้อำนาจไว้และไม่ได้เป็นกรณีที่ ครม.กระทำการอันเป็นผลการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อ ครม. ชุดต่อไป ตามมาตรา 196(1) ของรัฐธรรมนูญ ครม. จึงสามารถพิจารณาอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงนี้ได้

สธ. จัดประชุมวิชาการยาเสพติดบูรณาการทุกภาคส่วนระดับประเทศและนานาชาติ

วันนี้ (8 สิงหาคม 2566) ที่อิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมวิชาการ International Drug Forum ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566จัดโดยสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และปาฐกถาพิเศษ “นโยบายการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด” โดยมีนายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาลที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านสาธารณสุข)และผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุขคณะผู้บริหาร และบุคลากร ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ WHO, UNODC, UHosNET, สำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงกลาโหม, กองทัพไทย, กองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรุงเทพมหานคร, สถาบันการศึกษา และ NGOs เข้าร่วมประชุมกว่า 1,000 คน

นายแพทย์โอภาสกล่าวว่า ยาเสพติดถือเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องมีการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งในระดับพื้นที่ ระดับประเทศ และนานาชาติ เพื่อขับเคลื่อนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการบูรณาการภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนเพื่อให้ผู้ติดยาเสพติดหรือผู้ผ่านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพสามารถกลับมาดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และไม่กลับมาใช้ยาเสพติดซ้ำอีก ทั้งนี้ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดให้สามารถบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดได้อย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน จึงเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่การ “คืนคนดีสู่สังคม” ได้ตามเป้าหมาย

“หลังดำเนินงานมาประมาณ 1 ปี พบว่า จากเดิมที่มีการคัดกรองผู้ป่วยเป็น 3 ระดับ คือ สีแดง สีเหลือง และสีเขียว ควรต้องเพิ่มการแบ่งระดับของผู้ป่วย โดยผู้ป่วยสีแดงอาการรุนแรง ที่ดูแลในโรงพยาบาล เมื่อดีขึ้นจะจัดเป็นสีส้ม ให้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ ส่วนผู้ป่วยสีเขียวซึ่งอาการน้อย ดูแลในชุมชน เมื่อดีขึ้นจัดเป็นสีเขียวอ่อน จะได้รับการติดตามอย่างต่อเนื่อง และฟื้นฟูสมรรถนะทางสังคม เพื่อกลับเข้าสู่สังคมได้ตามปกติซึ่งหน่วยบริการต่างๆ จะได้มีการปรับระบบต่อไป”  นายแพทย์โอภาสกล่าว

โดยในการประชุมครั้งนี้ นอกจากบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิของหน่วยงานต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในด้านนโยบาย กระบวนการบำบัดรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด การลดอันตรายจากยาเสพติด ระบบส่งต่อเพื่อการดูแลผู้ป่วยอย่างครอบคลุม เกิดการบูรณาการและสนับสนุนการทำงานในพื้นที่ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ยังเป็นโอกาสในการเผยแพร่ผลงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรมด้านการดูแลผู้ป่วยยาเสพติด ครอบครัวและชุมชน รวมทั้งยังมีการประกวดศูนย์คัดกรอง สถานพยาบาลยาเสพติด สถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม และการประกวดผลงานวิชาการยาเสพติดดีเด่น ซึ่งทั้งหมดสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทในพื้นที่ได้อย่างดี