Biz news

'พลัสฯ'เทียบฟอร์มอสังหาฯครึ่งแรกปี66 เดินหน้าครึ่งปีหลังตลาดอสังหาฯคึกคัก



กรุงเทพฯ-พลัส พร็อพเพอร์ตี้ประเมินทิศทางอสังหาฯ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ธุรกิจโดยรวมส่งสัญญาณฟื้นตัวดี ซึ่งดูได้จากผลประกอบการของอสังหาฯรายใหญ่หลายรายมีการโตสวนกระแส และทำผลงานได้ดีขึ้นท่ามกลางความท้าทายของสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่ทยอยฟื้นตัวตามลำดับ

นายอนุกูลรัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า“ในรอบครึ่งปีที่ผ่านมาเริ่มเห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยอย่างชัดเจน ทั้งนโนบายกระตุ้นเศรษฐกิจ การเปิดรับนักท่องเที่ยว ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการได้อย่างเต็มที่  คาดว่าสำหรับครึ่งปีหลัง ตลาดอสังหาฯไทยยังคงมีทั้งโอกาสทางธุรกิจที่จะทำกำไรอย่างต่อเนื่องเติบโตสูงขึ้น โดยเฉพาะแนวราบและแนวรถไฟฟ้าถึงชานเมือง กลุ่มระดับบนยังแข็งแรง แต่กลุ่มระดับกลาง-ล่างยังเปราะบาง อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าติดตามและเตรียมรับมือในอีกหลายประเด็น ด้วยสถานการณ์ทางการเมือง  ราคาพลังงาน  ราคาวัสดุก่อสร้าง และราคาโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นกดดันให้ต้นทุนและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยกู้และดอกเบี้ยปรับขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในโค้งสุดท้ายของปีนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยังคงเดินหน้าทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 อย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลบล.กสิกรไทย พบว่าในครึ่งปีหลัง ของปี 2566 จะมีการการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 3.08 แสนลบ.จาก 1.22 แสนลบ.ในครึ่งปีแรก โดยโครงการใหม่ ๆ จะไปตอบสนองลูกค้าในทำเลที่มีความต้องการ และกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทำให้เรามองว่าโมเมนตั้มกำไรไตรมาส 3/2566 และไตรมาส 4/2566 จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พัฒนาการดังกล่าวจะนำมาซึ่งแนวโน้มอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากผลประโยชน์ของการประหยัดต่อขนาด และโครงสร้างต้นทุนของโครงการใหม่เพื่อทำผลกำไรที่ดีที่สุดในปีนี้ อย่างไรก็ดีTop 10 อสังหาฯที่ทำกำไรในครึ่งปีแรกรวมได้มากกว่า1.85 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทที่คว้าแชมป์กำไรและอัตรากำไรสุทธิ(YOY)  สูงสุดคือแสนสิริ, บริษัทที่คว้าแชมป์รายได้รวมสูงสุด คือ เอพี ไทยเลนด์ และบริษัทที่มีการอัตรากำไรสุทธิสูงสุดในครึ่งปีคือ ควอลิตี้เฮ้าส์ เป็นต้น

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ รวบรวมผลประกอบการครึ่งปีแรกปี 2566 ของบริษัทยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ ทำการเปรียบเทียบให้เห็นว่าแต่ละบริษัท มีตัวเลขกำไร รายได้ และอัตราการเติบโตมากน้อยแค่ไหน และสิ่งนี้ส่งสัญญาณอะไรต่อตลาดอสังหาฯ ในครึ่งปีหลังที่ยังต้องติดตาม

 

ทั้งนี้ ตัวเลขของอสังหาฯ รายใหญ่ ทั้งหมดนี้จะเป็นสัญญาณของการพลิกฟื้นตัวที่ดีขึ้นของอสังหาฯ ไทย ในครึ่งปีหลังจึงเป็นสิ่งที่น่าติดตามขณะที่ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย ในปี 2566 REIC คาดการณ์ว่าดัชนีราคาที่อยู่อาศัย เป็นหนึ่งในข้อมูลที่สำคัญสำหรับใช้ช่วยประกอบการตัดสินใจในการลงทุนอสังหาฯ ซึ่งหลักๆ แล้วจะบอกแนวโน้มราคาที่อยู่อาศัยในขณะนั้น รวมถึงช่วยให้เราประเมินสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนกำลังซื้อของผู้คนในสังคมได้ในปีนี้

*ข้อมูลที่พลัสฯ รวบรวมนำเสนอยังไม่รวมข้อมูลตั้งแต่ มกราคม – มิถุนายน 2566