In Bangkok

อัปเดตการเปลี่ยนศูนย์สัตว์จรประเวศเป็น 'บ้านน้องหมาน้องแมวชั่วคราว'



กรุงเทพฯ-ติดตามความคืบหน้าการเปลี่ยนศูนย์สัตว์จรประเวศ เป็น "บ้านน้องหมาน้องแมวชั่วคราว" เพื่อหาครอบครัวสุดท้ายให้น้อง

"การลงพื้นที่วันนี้ เป็นการมาติดตามภาพรวมทางกายภาพของการก่อสร้างว่ามีอะไรที่ควรปรับปรุง อะไรที่ยังไม่เหมาะสมและควรเร่งแก้ไขก่อนที่จะส่งมอบทั้งหมด เพราะเราต้องการทำให้ที่นี่เป็น 'บ้านน้องหมาน้องแมวชั่วคราว' ไม่ใช่แค่ศูนย์สัตว์จร" รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์ควบคุมสุนัขกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) วันนี้ (21 ก.ย. 66)  โดยมี นายจิรัฏฐ์ ม้าไว ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ พญ.ภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย น.สพ.ศิษฏ์พล เอี่ยมวิสูตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข ผู้แทนจากสำนักการโยธา ผู้แทนบริษัทผู้รับจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะและให้ข้อมูล

รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวด้วยว่า เนื่องจากการก่อสร้างอาคารศูนย์ควบคุมสุนัขกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ในวันนี้จึงเป็นการมาตรวจติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างในส่วนต่าง ๆ รวมถึงเป็นการมาดูในรายละเอียดและเงื่อนไขที่เกี่ยวกับการอุปการะสัตว์ด้วย เพราะเรากำลังจะปรับกลไกการบริหารจัดการศูนย์พักพิงสัตว์จรจัดให้เป็นศูนย์ Adoption รับดูแลน้องหมาน้องแมวชั่วระยะเวลาหนึ่งเพื่อหมุนออก โดยจะเปิดให้ประชาชนสามารถรับอุปการะน้อง ๆ กลับไปดูแลต่อไป

สำหรับการปรับปรุงโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์ควบคุมสุนัขกรุงเทพมหานคร (ประเวศ) ดำเนินการภายใต้พื้นที่ 13 ไร่ ประกอบด้วย อาคารสำนักงานกลุ่มงานควบคุมและพักพิงสุนัข 1 หลัง อาคารคอกเลี้ยงสุนัข 18 หลัง รองรับสุนัข 1,000 ตัว อาคารคอกเลี้ยงแมว 3 หลัง รองรับแมว 300 ตัว อาคารเก็บอาหาร 1 หลัง และอาคารและเตาเผาสุนัข 1 หลัง โดยโครงการฯ มีความคืบหน้าคิดเป็นร้อยละ 98.97 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย. 66

จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม รองผู้ว่าฯ ทวิดา ได้กำชับให้เร่งดำเนินการในเรื่องการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ การระบายความร้อนบริเวณคอกสุนัขและแมว เช่น การติดตั้งพัดลมระบายอากาศ รวมถึงให้มีการเก็บข้อมูลในเรื่องการเผาซากอย่างถูกวิธีในระยะเวลาและอุณภูมิที่้เหมาะสม เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและพื้นที่ใกล้เคียงน้อยที่สุด

นอกจากนี้ยังให้พิจารณาในเรื่องของการก่อสร้างต่อเติมรั้วกันเสียง โดยหากจะทำจะต้องมีความรอบคอบ ต้องใช้ข้อมูลต่าง ๆ ประกอบก่อนดำเนินการอย่างถี่ถ้วน ทั้งเรื่องความสูงรั้วตามกฎหมาย ความสูงรั้วที่สามารถกันเสียงที่อาจจะไปรบกวนพื้นที่ใกล้เคียงได้ รวมถึงต้องดูในเรื่องของทิศทางลม อีกทั้งยังให้มีการตรวจสอบระบบน้ำประปา/น้ำเสียในพื้นที่เพื่อไม่ให้รบกวนพื้นที่ใกล้เคียงหรือเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมแนะนำในเรื่องคุณภาพชีวิตน้องหมาน้องแมว เช่น ควรมีการติดตั้งกันสาดยื่นออกมาเพิ่มเติมเพื่อกันแดดและฝนที่อาจสาดมาถึงน้อง ๆ ด้วย