In Thailand
น้ำล้นเขื่อนลำปาวกาฬสินธุ์หวั่นเขื่อนแตก จำเป็นต้องระบายให้กระทบพื้นที่น้อยสุด
กาฬสินธุ์-ฝนตกเหนือเขื่อนน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำลำปาวต่อเนื่อง ส่งผลให้มีประมาณน้ำเกินระดับกักเก็บ 100 เปอร์เซ็นต์ ประกาศจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำวันละ 8.64 ล้าน ลบ.ม. ยันให้มีผลกระทบพื้นที่น้อยที่สุด พร้อมแจ้งเตือนพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน และบริเวณสองฝั่งลำน้ำปาวติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้านผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ย้ำตัวสันเขื่อนยังมั่นคงแข็งแรง และเขื่อนยังสามารถรับน้ำได้อีก
เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ติดตามสถานการณ์ในอ่างเก็บน้ำลำปาว พร้อมติดตามการพร่องน้ำบริเวณอาคารระบายน้ำ และตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของสันเขื่อนอย่างต่อเนื่อง หลังจากยังคงมีฝนตกบริเวณเหนือเขื่อน ทำให้ปริมาณน้ำไหลเติมเข้าเขื่อนลำปาวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่งผลให้ปัจจุบันเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำ 1,999 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 100.96 ของความจุที่ระดับเก็บกัก 1,980 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมีปริมาณน้ำเกินระดับเก็บกัก 19 ล้าน ลบ.ม.ทำให้ทางเขื่อนมีความจำเป็นต้องระบายน้ำ และยืนยันจะให้กระทบพื้นที่ด้านล่างน้อยที่สุด
นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว กล่าวว่า จากภาวะฝนที่ตกลงมาหลายพื้นที่ และต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ ทำให้ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำลำปาว หรือ เขื่อนลำปาว มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,9999 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 100 .96 ของความจุที่ระดับเก็บกัก 1,980 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมีปริมาณน้ำเกินระดับเก็บกัก 19 ล้าน ลบ.ม. รวมทั้งจากการติดตามสถานการณ์ปัจจุบันยังมีฝนตกในพื้นที่ด้านเหนือเขื่อน จึงทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้า อ่างเก็บน้ำอย่างต่อเนื่อง และจากค่าเฉลี่ยในเดือนตุลาคมทุกๆปีจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำอีกประมาณ 240 ล้าน ลบ.ม.เมตร
นายสำรวย กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทางโครงการฯได้ประกาศแจ้งถึงความจำเป็นต้องระบายน้ำ (Service Spillway) ในอัตราวันละ 7 ล้าน ลบ.ม.ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีแนวโน้มลดลง จึงมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำเป็นวันละ 8.64 ล้านลบ.ม.ในวันที่ 23 กันยายน 2566 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำลำน้ำปาวด้านท้ายเขื่อน มีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยืนยันว่าจะให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ด้านล่างน้อยที่สุด จึงขอประกาศให้ ประชาชนด้านท้ายเขื่อน บริเวณสองฝั่งลำน้ำปาว ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการส่งน้ำและ บำรุงรักษาลำปาว จะประกาศสถานการณ์น้ำให้ได้ทราบต่อไป
นายสำรวย กล่าวอีกว่า แม้ขณะนี้เขื่อนลำปาวจะมีปริมาณน้ำเกินระดับกักเก็บ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งตัวสันเขื่อน และอาคารระบายน้ำ ยังคงมีความมั่นคงแข็งแรง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบ และมีการบำรุงรักษามาโดยตลอด จึงยืนยันว่ามีความแข็งแรงปลอดภัย ขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกและวิตกกังวัล และให้ติดตามข่าวสารจากทางโครงการฯ และหน่วยงานภาครัฐ อย่างไรก็ตามสำหรับปริมาณน้ำที่มีอยู่ขณะนี้ จะส่งผลดีไปถึงช่วงหน้าแล้ง เพราะจะมีปริมาณน้ำเพียงต่อการอุปโภค บริโภคอย่างแน่นอน