Think In Truth
ร่วมกันคิดร่วมกันทำ...เพื่อเศรษฐกิจชาติ โดย : หมาเห่าการเมือง
ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลตามระบอบการปกครอง ที่ต้องเปลี่ยนผู้ปกครองทุกๆ สี่ปี และผู้ปกครองมีสิทธิ์อยู่ต่อเนื่องไม่เกินแปดปีหรือสองสมัย ก็เป็นธรรมชาติของผู้ที่อยู่เดิมรู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ย่อมทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจเดิม ส่วนคนที่คาดหวังว่าจะเข้ามานั่งในอำนาจคนใหม่ ก็ทำทุกอย่างที่จะได้เข้ามามีอำนาจ กระแสแห่งการเปลี่ยนแปลง จึงทำให้คนที่อยู่ตามขั้วอำนาจต่างๆ แสดงบทบาทเพื่อรักษาอำนาจและให้ได้มาซึ่งอำนาจ ผลกระทบของพฤติกรรมทางการเมืองของข้าราชการประจำ ก็ส่งผลต่อประชาชนและประเทศชาติ
ภาวะการเมืองแบบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ว่า บนพื้นฐานทางวัฒนธรรม “บุญคุณต้องทดแทน” บางครั้งก็มีผลกระทบต่อการเมืองการปกครองที่มีผลกระทบต่อประเทศและประชาชนมาก ถ้าเราจะเอาเรื่องภาวะทางการเงินของประเทศ ประเมินจากการบริหารการเงินการคลังย้อนหลัง มาถึงประปัจจุบัน เราก็จะพบว่า การบริหารการเงินการคลังไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติของภาวะเศรษฐกิจของโลกที่เป็นจริงมากนัก แต่เป็นการบริหารการเงินการคลังตามสภาวะทางการเมืองที่เป็นอยู่มากกว่า
หากย้อนกลับไปทบทวนถึงการบริหารบ้านเมืองในยุคของลุง(ต้องขออภัยที่อ้างอิงย้อนในยุคสมัย ไม่ได้มีเจตนาเพื่อดีสเครดิตแต่อย่างได แต่เป็นการประมวลเหตุการณ์เพื่อเป็นเหตุผลสนับสนุนประเด็นของของบทความเท่านั้น) ยุคของลุง มีการกู้เงินเพื่อนำมาตั้งงบประมาณในการพัฒนาและบริหารประเทศในหลายครั้ง จนหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นจาก 5 ล้านล้านบาท เป็น 10 ล้านล้านบาท แต่ค่าเงินบาทยังแข็งแกร่ง รักษาระดับค่าเงินบาทได้ใหแกว่งอยู่ในช่วงแคบๆ ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีการย้ายฐานการผลิต ทำให้แรงงานต้องตกงาน ขาดรายได้ ดัชนีการส่งออกลดลงอย่างมาก แต่ค่าเงินบาทก็ยังคงมีเสถียรภาพ นี่คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้มองว่าค่าเงินบาทกับภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศไม่สัมพันธ์กันอย่างเป็นธรรมชาติ หากใครจะแย้งว่า เพราะฝีมือของลุงที่มีความสามารถในการบริหาร นั่นก็เป็นเหตุผลที่อ้างได้
ไม่ว่าจะเป็นการย้ายฐานการผลิต แรงงานถูกเลิกจ้าง หุ้นตกแดงทั้งกระดาน ดัชนีส่งออกลดลง จีดีพีลดต่ำลงจากเดิมมาก รวมทั้งเกิดโรคระบาดจนทั้งโลกเกิดวิกฤตโควิด ปัจจัยที่ว่ามาทั้งหมด ส่งผลต่อค่าของเงินบาททั้งนั้น แต่เงินบาทยังคงมีเสถียรภาพตลอดมา ก็จะมีอยู่เพียงแค่ปัจจัยเดียวที่พอจะทำให้สภาวะของค่าเงินบาทมีเสถียรภาพ คือ การใช้อำนาจของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในการแทรกแซง ให้ค่าของเงินบาทยังคงอยู่ ซึ่งนั่นก็เป็นปัจจัยที่คนไทยทุกคนสามารถที่จะคิดได้ เพราะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทได้
ลองหัวกลับไปมองดูถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนปัจจุบัน ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ลองย้อนดูการศึกษาของผู้ว่าการท่านี้ 2537 Ph.D. (Economics), Yale University สหรัฐอเมริกา , 2534 M.Phil. (Economics), Yale University สหรัฐอเมริกา , 2529 B.A. (Highest Honors) (Economics), Swarthmore College สหรัฐอเมริกา นั่นคือฐานคิด วิถีชีวิต มากจากวัฒนธรรมทุนนิยมระดับควบคุมทิศทางของเศรษฐศาสตร์ของโลก อีกทั้งยังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในอเมริกา ที่โดดเด่นด้านศาสตร์ อีกด้วย
ความเชี่ยวชาญและชำนาญด้านการเงิน การคลัง ทั้งฐานคิดและประสบการณ์นั้นถือว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถระดับต้นๆ ของประเทศ ดังนั้น ตรรกะวิธีคิดในการที่จะทำให้เสถียรภาพของค่าเงินบาท ที่ยืนอยู่ได้มายาวนาน อย่างต่อเนื่อง แม้ประเทศจะเกิดวิกฤติทั้งทางด้านการลงทุน แรงงาน และวิกฤตโควิด การรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทจึงน่าจะมาจากความรู้ ความสามารถของผู้ว่าการธนาครแห่งประเทศไทยท่านนี้ โดยยอมปล่อยให้เกิดการย้ายฐานการผลิต แรงงานถูกเลิกจ้าง หุ้นตกแดงทั้งกระดาน ดัชนีส่งออกลดลง จีดีพีลดต่ำ เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไว้ ก็ไม่อยากที่จะสรุปแบบเดาเอาว่าท่านเลือกปฏิบัติ ท่านก็คงจะมีเหตุผลบางอย่างที่ไม่เคยเปิดเผย ซึ่งอาจจะเป็นความลับทางกลยุทธในการรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทของท่านก็ได้ แต่ก็เอาหละถือว่าท่านก็ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทของท่าน
แต่พอมีการเปลี่ยนรัฐบาล ได้เพียงแค่เดือนเดียว เกิดความขัดแย้งในหลักการด้านนโยบายเงินดิจิทัล 10000 บาทของรัฐบาลเศรษฐา 1 สิ่งที่เห้นชัดคือหุ้นร่วงเป็นร้อยกว่าจุด ค่าเงินบาทร่วง ทั้งที่โดยธรรมชาติแล้ว การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลทั่วโลก ที่เปลี่ยนรัฐบาลจากรัฐบาลหนึ่งมาสู่ฝ่ายหนึ่ง โดยส่วนใหญ่แล้ว หุ้นจะพุ่งขึ้นมารองรับ เพราะรัฐบาลที่ได้รับโอกาสเข้ามาบริหาร เพราะประชาชนในประเทศเลือกมาด้วยความเชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ปัญหาที่สะสมมาจากรัฐบาลเดิม ถึงแม้นว่าดัชนีการส่งออกจะยังไม่ดีขึ้น ภาวะการจ้างงานก็ยังไม่ดีขึ้น ยังไงดัชนีตลาดหุ้นก็ต้องขึ้นโดยธรรมชาติ แต่นี่ปรากฏว่า หุ้นร่วง ราคาเงินบาทดิ่ง ซึ่งมันผิดธรรมชาติเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์การเมือง จึงทำให้สังคมมีข้อสงสัยและมีสมมติฐานว่า มันน่าจะมาจากการใช้อำนาจผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในการแทรกแซงตลาดหุ้นและเสถียรภาพทางการเงินหรือไม่ ที่สังคมมีสมมติฐานลักษณะอย่างนี้เกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์และสถานการมันย้อนแย้งกับสภาวะการเมืองการปกครอง ที่เปลี่ยนรัฐบาลเพียงเดือนเดียว
ผู้เขียนเองก็ไม่ได้มีเจตนาเอาสมมติฐานของสังคมมาปักปรำให้ใครต่อใครรวมทั้งท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยให้เสียหายนะครับ เพียงแต่สภาวะปัจจุบันที่เป็นอยู่ มันกระทบกับคนไทยครับ ไม่ว่าความแตกแยกทางความคิด และการละเลยหน้าที่โดยทำอย่างหนึ่งไม่ทำอย่างหนึ่ง เพื่อให้เกิดสถานการณ์ที่กระทบทางการเมือง โดยไม่สนใจผลกระทบต่อประชาชน มันก็จะเป็นการเอาประชาชนเป็นตัวประกันทางการเมืองมากเกินไปไหม??..ผมยังเชื่อในความรู้ ความสามารถ ความำนาญ ความเชี่ยวชาญของบุคคลากรของประเทศ ที่จะทำงานร่วมกันรัฐบาลผ่าวิกฤตของชาติไปได้ด้วยดีนะครับ อะไรที่จะกระทบต่อประชาชนและประเทศชาติ ก็ร่วมมือกันทำเถอะนะครับ ให้สมกับเกียรติที่ท่านได้รับเลือกท่านเป็นตัวแทนให้ดำรงตำแหน่งนั้น อย่าได้ผลักให้ประชาชนเป็นเพียงแค่กบเลือกนายเลยนะครับ แต่ช่วยทำให้ประชาชนเป็นมนุษย์ที่เลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถมาเป็นตัวแทนเพื่อทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติเถอะนะครับ