In News
'หมุดปริศนา'ปักกลางสวนปาล์มชาวบ้าน หวั่นถูกนายทุนหุบที่ดิน
กระบี่-ชาวสวนปาล์มเหนือคลอง ร้องหลักหมุดที่ดินปริศนา โผล่กลางสวนปาล์ม ทั้งที่ครอบครองมากว่า 19 ปี และไม่เคยยื่นขอออกเอกสารสิทธิ์ เชื่อมีนายทุนต้องการฮุบที่ และมีการทำเป็นขบวนการ
วันที่ 6 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน จากนายเวโรจน์ เอ่งฉ้วน อ.51 ปี บ้านเลขที่ 190 ถ.ศรีตรัง ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมือง จ.กระบี่ ว่า ที่ดินของแม่ตนชื่อนางพาพิมพ์ เอ่งฉ้วน อ.73 ปี เป็นสวนปาล์มน้ำมัน ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.2 บ้านเกาะปู ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง มีหลักหมุดที่ดินปริศนา มาโผล่อยู่ในที่ดิน ทั้งที่ไม่ได้ยื่นขอเอการสิทธิ์ เชื่อว่ามีการจงใจบุกรุก เพื่อฮุบเอาที่ดินของแม่ตนอย่างแน่นอน เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความไว้ ที่ สภ.คลองขนาน อ.เหนือคลอง และได้เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากเกรงว่าจะมีการออกเอกสารสิทธิ์ ทับที่ดินของแม่ตน
นายเวโรจน์ เปิดเผยว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวของแม่ตน ได้มีการครอบครองทำกิน มาไม่น้อยกว่า 19 ปี บนเนื้อที่ 15 ไร่ เป็นที่ดินมือเปล่า ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ปัจจุบันได้มีการปลูกปาล์มน้ำมัน อายุ ประมาณ 7-8 ปี มีการทำแนวเขต โดยกั้นรั้วหนามตลอดแนวเขต ชัดเจน เพื่อป้องกันการบุกรุกจากแปลงข้างเคียง แต่เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีหลักหมุดปักรุกล้ำ เข้ามาอยู่ในที่ดินของตน ประมาณ 7 เมตร ยาวกว่า 100 เมตร แม่ของตนรู้สึกตกใจมาก และเกิดความไม่สบายใจ เกรงว่าที่ดินของตัวเอง ที่ครอบครองทำกินมากว่า 19 ปี จะถูกคนอื่นออกเอกสารทับ จึงได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
นายเวโรจน์ กล่าวด้วยว่า เท่าที่ทราบการยื่นขอออกเอกสารสิทธิ์ เจ้าพนักงานที่ดิน ที่ทำการรังวัดจะต้องแจ้งให้กับที่ดินแปลงข้างเคียงทราบด้วย แต่ที่ผ่านมาแม่ของตน ไม่เคยได้รับหนังสือแจ้งจากพนักงานที่ดินแม้แต่ฉบับเดียว ตนเชื่อว่าการนำหลักหมุดที่ดินมาปักในที่ดินของตน จะต้องมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือผู้นำท้องที่บางคนรู้เห็นเป็นใจ เพราะคงไม่มีใครกล้ารุกที่ดินของคนอื่น ทั้งที่มีอนาเขตแสดงอย่างชัดเจน และเชื่อว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
นายเวโรจน์ ยังได้กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีคนมาติดต่อบอกว่าสามารถออกเอกสารเป็นโฉนดให้ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนโดยต้องแบ่งที่ดิน ให้ 3-4 ไร่ ตนได้ยินแล้วรู้สึกแปลกใจกับข้อเสนอ และเชื่อว่าไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้จริง เป็นการหลอกลวงมากกว่า จึงไม่ตกลง และหากว่ามีการยื่นออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ของแม่ตนจริง ตนก็ขอคัดค้านให้ถึงที่สุด เพราะที่แปลงนี้แม่ตนครอบครองมานาน และไม่ใช่เป็นที่บุกรุก เป็นที่ดินที่ที่ซื้อต่อมาอีกทอดหนึ่ง
ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง/กระบี่ รายงาน