Biz news
Glenfiddich‘THE WHERE Next Club’ เปิดเผยSingle Best Qualityของคุณคิด

กรุงเทพฯ ประเทศไทย–Glenfiddich (เกลนฟิดิค) แบรนด์ซิงเกิลมอลต์ภายใต้บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สุดหรูการันตีคุณภาพด้วยรางวัลมากมายอย่างWilliam Grant & Sons จำกัดกลับมาพร้อมกับแคมเปญ “THE WHERE NEXT CLUB”เป็นปีที่สาม พร้อมเชิญชวนทุกคนร่วมค้นหา ‘Your Single Best Quality’ หรือคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของคุณที่“THE WHERE NEXT CLUB”คลับที่จะพาผู้คนจากหลากหลายวงการมาแชร์เรื่องราวและค้นหา‘Single Best Quality’ของตนเองเพื่อส่งต่อเป็นแรงบันดาลใจไปสู่Next ในแบบฉบับที่ดีที่สุดโดยครั้งนี้Glenfiddich ชวนคุณคิดคณชัยเบญจรงคกุลมาร่วมเปิดเผย‘Single Best Quality’ในงาน “Unveiling Leather” นิทรรศการที่แสดงถึงเส้นทางความฝันมุมมองการใช้ชีวิตผ่านงานศิลปะอันเป็นที่รักของคุณคิดพร้อมเผยให้เห็นความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัดของวัสดุที่อยู่เหนือกาลเวลาอย่าง ”หนัง”และเรื่องราวการค้นพบ‘SingleBest Quality’ที่นำคุณคิดคณชัยไปสู่ความสำเร็จไม่รู้จบที่Four Seasons ART Space by MOCA BANGKOK ณ โรงแรมFour Seasons Hotel Bangkok
Ambitiousหรือความทะเยอทะยานซึ่งเป็นSingle Best Quality ของคุณคิดคณชัย
ความสำเร็จเป็นสิ่งที่ใครๆก็อยากจะไปให้ถึงแต่การจะไปสู่ความสำเร็จได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายไม่ใช่ใครๆก็ไปได้มีแต่คนที่ไปถึงแล้วเท่านั้นที่รู้เคล็ดลับและสร้างความสำเร็จที่ไม่รู้จบให้เกิดขึ้นท่ามกลางโลกที่รายล้อมไปด้วยคนที่มีความสามารถมากมายการเริ่มต้นสู่ความสำเร็จแรกและความสำเร็จครั้งต่อๆไปต้องหาตัวเองให้เจอว่า ‘Quality’ หนึ่งสิ่งในตัวเราที่เราถนัดที่เราทำได้ดีที่เราหลงใหลคืออะไร?เพราะ ‘Single Best Quality’ นั้นๆจะเป็นกุญแจดอกสำคัญไปสู่ “Next”ในแบบของเราเองGlenfiddichจึงอยากชวนทุกคนร่วมค้นหา‘Your Single Best Quality’กับแคมเปญ “THE WHERE NEXT CLUB”เพื่อนำชีวิตไปสู่Nextในแบบของตัวเอง
คิด-คณชัย เบญจรงคกุลช่างภาพมากความสามารถ ที่มีความชอบและหลงไหลในศิลปะที่หลากหลาย โดยอาศัยความทะเยอทะยาน และความกระตือรือร้นในการทำตามความฝันได้อย่างสำเร็จ ทำให้คุณคิดไม่ได้มีผลงานแค่ด้านการถ่ายภาพเพียงแต่อย่างเดียว แต่ในช่วงหนึ่งของชีวิตได้ทำเพลงของตนเอง นอกจากนี้คุณคิดยังมีความสนใจในงานศิลปกรรม(Fine Arts)จนล่าสุดได้ผันตัวมาช่วยคุณพ่อดูแลพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัยMOCA Bangkok ในฐานะManaging Director
โดยคุณคิดเล่าถึงทิศทางการดำเนินงานของพิพิธภัณฑ์ฯตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งว่า “ผมอยากให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้นในอดีตคนที่แวะเวียนมาที่พิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นคุณพ่อและนักท่องเที่ยวมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์หลังจากผมเข้ามาดูจึงพยายามปรับเปลี่ยนทิศทางให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ในประเทศผ่านการจัดนิทรรศการแบบหมุนเวียนซึ่งจะมีการเปลี่ยนธีมไปเรื่อยๆตามวาระหรือเทศกาลสำคัญรวมไปถึงจัดกิจกรรมที่อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับอาร์ตโดยตรงแต่ช่วยดึงคนเข้ามาที่พิพิธภัณฑ์”ความสำเร็จที่ผ่านมามากมายซึ่งอาจทำให้คำว่า‘AMBITIOUS’ไม่ใช่คำจำกัดความเดียวที่สามารถอธิบายตัวตนของเขาได้แต่เป็นSingle Best Qualityที่ทำให้เขาคนนี้ยังคงค้นหาNextเพื่อไปสู่ความสำเร็จต่อไป
“Unveiling Leather: The Artistic Journey of Craftsmanship”
หนึ่งในนิทรรศการที่แสดงถึงเส้นทางชีวิตของคุณคิด คณชัย จัดขึ้นเพื่อนำเสนอวิจิตรศิลป์อันน่าทึ่งของงานออกแบบและหัตถศิลป์จากเครื่องหนังในมุมมองใหม่ซึ่งจุดประกายจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ทั้งนี้นิทรรศการนี้ได้รวบรวมเอาผลงานศิลปะและวัตถุที่ทำจากหนังมาจัดแสดง โดยทุกชิ้นล้วนประกอบสร้างอย่างประณีตบรรจงเผยให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัดของวัสดุที่อยู่เหนือกาลเวลาอย่าง “หนัง” นิทรรศการครั้งนี้เป็นงานที่ศิลปินหยิบเอาเอกลักษณ์และเสน่ห์ของหนังมาเป็นตัวชูโรงในการสร้างสรรค์ผลงานตามสไตล์ของแต่ละศิลปิน ซึ่งมีผลงานจัดแสดงจาก 12 ศิลปินได้แก่ กิติก้องติลกวัฒโนทัย, ลูกปลิวจันทร์พุดซา, ปราชญ์นิยมค้า, รักกิจควรหาเวช, สมิตารุ่งขวัญศิริโรจน์, สมยศหาญอนันทสุข, เต็มใจชลศิริ, ไทวิจิตพึ่งเกษมสมบูรณ์, Trey Hurst, อุดมอุดมศรีอนันต์, วศินบุรีสุพานิชวรภาชน์และพฤษ์พลมุกดาสนิท (MAMAFAKA) ภายใต้แนวคิดร่วมสมัยของคุณคิด ที่อยากผลักดันให้วงการศิลปะไปได้ไกลยิ่งขึ้นโดยผลงานที่แต่ละศิลปินสร้างสรรค์ออกมาแสดงถึงโอกาสที่ได้ทดลองก้าวข้ามขนบงานฝีมือในสื่อที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นประติมากรรมงานถักทอหรือภาพวาดหนังในฐานะวัสดุสร้างศิลป์สื่อให้เห็นถึงรูปทรง (Form) การใช้งาน (Function) และอารมณ์ความรู้สึก (Emotion) ซึ่งเริ่มต้นจากความชื่นชมของศิลปินผสมเข้ากับความเคารพในทักษะของช่างฝีมือที่สืบทอดต่อกันมาและพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามยุคสมัย
นอกจากศิลปะและวัตถุที่ทำจากหนังภายในนิทรรศการ แขกผู้มีเกรียติยังได้โอกาสลิ้มรสค๊อกเทลวิสกี้สุดพิเศษ 3 เมนูที่ถูกรังสรรค์มาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ โดยทั้ง3 เครื่องดื่มสะท้อนถึงSingle Best Quality ความซึ่งก็คือความทะเยอทะยานของคุณคิด ในแต่ละช่วงชีวิต เรื่อมต้นที่chapter แรกภายใต้ชื่อ Impressionism ซึ่งสื่อถึงความสวยงามที่เข้าใจง่ายธรรมชาติ และความรู้สึกที่ตรงไปตรงมาเปรียบเสหมือนช่วงเวลาเด็กที่คุณคิดชื่นชอบการถ่ายภาพโดยค๊อกเทลตัวนี้ทำมาจากGlenfiddich12 ปี ที่มีสัมผัสโดดเด่นด้วยกลิ่นธัญพืชดอกไม้มิเนอรัลมอลต์น้ำผึ้งซีทรัสสไปซี่และโอ๊คกรุ่นๆให้รสสัมผัสที่หอมหวานและความรู้สึกสดชื่นเวลาดื่ม ต่อด้วย Chapter ที่สอง ภายใต้ชื่อ Surrealismเปรียบเสหมือนความฝันจิตนาการและความเหนือจริง ซึ่งสื่อถึงช่วงที่คุณคิดเริ่มจริงจังกับการถ่ายภาพและช่วงเวลาที่ทำให้อะไรหลายๆอย่างมีความเข้มข้นมากขึ้นโดยเรื่องราวนี้ถูกถ่ายทอดผ่านรสชาติที่มีความเปรี้ยวหวานจัดจ้านด้วยส่วนผสมหลักอย่างGlenfiddich15 ปีที่โดดเด่นเรื่องของความInnovation ที่ไม่เหมือนใครกับความเข้มข้น และรสสัมผัสที่หนักแน่นจากการบ่มด้วยถังทั้งหมด 3 ถังจบด้วย Chapter สุดท้ายกับค๊อกเทลที่มีชื่อว่า Abstract Expressionismเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความรู้สึกและอารมณ์ที่หลากหลายแล้วแต่คนจะตีความ ที่มีส่วนผสมหลักคือGlenfiddich18 ปีซึ่งโดดเด่นในเรื่องของความเข้มข้นและความนุ่มลึกเฉพาะตัว
Glenfiddich(เกลนฟิดิค)ได้ผลักดันขอบเขตอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะเติบโตต่อไปโดยเป็นแบรนด์กลุ่มวิสกี้ซิงเกิลมอลต์ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในโลกซึ่งครองใจผู้ชื่นชอบวิสกี้มากว่า 130 ปี ตั้งแต่การประดิษฐ์ถังบ่มSolera Vat ที่ใช้ในการผลิตวิสกี้ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆไปจนถึงการเป็นโรงกลั่นสก๊อตแห่งแรกที่สร้างชื่อเสียงให้เครื่องดื่มประเภทซิงเกิลมอลต์กลับมาเป็นที่นิยมในปี 1963 ทำให้เห็นว่า Single Best Quality ของแบรนด์คือความ "Innovative" หรือการปรับใช้นวัตกรรมล้ำสมัยและสิ่งนี้ก็ได้ผลักดันการค้นหา "Where Next" ของแบรนด์ต่อไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดพร้อมมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะผลักดันทุกคนให้มาเริ่มค้นหากุญแจดอกสำคัญหรือ Single Best Quality ของตัวเอง เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จภายใต้แคมเปญ “THE WHERE NEXT CLUB”