In News

นายกฯท่องเที่ยวชุมชนกระบี่แจ้งจับไกด์



กระบี่-นายกฯท่องเที่ยวชุมชน จ.กระบี่ แจงปมดราม่า แจ้งจับไกด์นำเที่ยว ผิด พรบ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคเทศน์  ในพื้นที่ บ้านแหลมสัก ไกด์ทำผิดจริง  

วันที่ 8 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายชาญฤทธิ์  เพิ่มทรัพย์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดกระบี่และเป็นประธานชุมชนท่องเที่ยวแหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ นางสาววรรณวิภา ภานุมาต ผอ.สำนักงานท่องเที่ยวโดยชุมชน องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยังยืน (อพท.) นายสุคนธ์ หนูช่วย นายกสมาคมมัคคุเทศก์ ประจังหวัดกระบี่ นางจรัญา แดงน้อย ผอ.สภาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน นายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี นายอำมฤต ศิริพรจุฑากุล ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวปมความขัดแย้งระหว่างชุมชนท่องเที่ยวบ้านแหลมสัก และไกด์นำเที่ยว จนนำไปสู่การแจ้งจับ

นายชาญฤทธิ์  เพิ่มทรัพย์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดกระบี่และเป็นประธานชุมชนท่องเที่ยวแหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ กล่าวว่า ชี้แจงกรณี ประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ ทำการจับกุมตัว ไกค์นำเที่ยว จำนวน 3 คน ของ บริษัทนำเที่ยว แห่งหนึ่ง จากกรุงเทพมหานคร ขณะนำนักท่องเที่ยวจำนวนกว่า 30 คนเดินทาง มาท่องเที่ยวในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และที่วัดมหาธาตุแหลมสัก ตำบลแหลมสัก เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา เนื่องจาก ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ การท่องเที่ยว ในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งตำบลแหลมสัก ได้รับการประกาศเป็นเขตพื้นที่ ท่องเที่ยวชุมชน จากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาตาม พรบ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ มาตรา 51 

โดยกำหนดไว้ว่า ในพื้นที่ได้รับการประกาศเป็นเขตพื้นที่ท่องเที่ยวชุมชม ที่มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ต้องให้มัคคุเทศก์ท้องถิ่นทำหน้าที่ นำเที่ยวแทน มัคคุเทศก์ ของบริษัทนำเที่ยว ที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ เพื่อให้ชุมชนบริหารจัดการพื้นที่ของตัวเอง เพื่อสร้างรายได้ กระจายรายได้ สิ่งที่สำคัญเพื่อให้ชุมชน ช่วยกันอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต วัฒนธรรมของชุม พร้อมกันนี้ก็ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันก่อนแล้ว แต่ดูเหมือนว่าทางมัคคุเทศก์ ที่มากับกลุ่มทัวร์ ไม่สนใจ ท้าให้จับ ตนจึงได้แจงให้ ทาง จนท.ตำรวจท่องเที่ยว จับกุมดำเนินคดี เบื้องต้น ทาง จนท.ได้ทำการเปรียบเทียบปรับไกด์ คนละ 1,000 บาท ตามความผิด พรบ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ มาตรา 51

นายกสมาคมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดกระบี่และเป็นประธานชุมชนท่องเที่ยวแหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ กล่าวด้วยว่า ใจจริงตนไม่อยากแจ้งจับไกด์ ทั้ง 3 คน อยากที่จะพูดคุยกันมากกว่า เพราะต่างคนต่างก็ทำมาหากิน แต่ในเมื่อพูดคุยกันไม่ได้ ตนก็ต้องใช้กฎหมาย และว่าคดีนี้เป็นคดีแรกของประเทศ และไม่คิดว่าทางกลุ่มไกด์หรือบริษัทนำเที่ยวจะนำเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไปลงข่าวผ่านช่องทางต่างๆทำให้ชุมชนแหลมสัก เกิดความเสียๆหาย และข้อมูลบางอย่างเกินความจริงตนจึงต้องออกมาแถลงข่าวในครั้ง เพื่อให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง และยืนยันว่าเป็นข้อมูลเป็นจริงไม่แต่งแต้ม และอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นจบด้วยดีไม่อยากให้เป็นกระแสดราม่า เพราะไม่ได้เกิดผลดีกับใคร  

ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง-กระบี่ รายงาน