In News
กทม.นัดกลุ่มเสี่ยงย่านตลาดบางแค10% ฉีดวัคซีนโควิดเข้ม2ใน19-21เม.ย.นี้
กรุงเทพฯ-ปลัดกทม.นัดกลุ่มเสี่ยงย่านตลาดบางแคอีก 10% ที่เหลือมารับวัคซีนโควิด–19 เข็มที่ 2 ช่วง 19-21 เม.ย.นี้
(12 เม.ย.64) เวลา 11.30 น. นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักอนามัย และสำนักงานเขต ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เข็มที่ 2 แก่ผู้ค้าและผู้ช่วยค้าย่านตลาดบางแค รวมถึงประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่โดยรอบ ณ โรงเรียนวัดนิมมานรดี เขตภาษีเจริญ
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 17-22 มี.ค.64 ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้จัดเจ้าหน้าที่ออกหน่วยบริการเชิงรุกฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เข็มแรกให้กลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้ค้าและผู้ช่วยค้าในตลาดย่านตลาดบางแค รวมถึงประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่โดยรอบ ณ ตลาดสิริเศรษฐนนท์ เขตบางแค และวัดนิมมานรดี เขตภาษีเจริญ จำนวน 6,824 ราย และเพื่อให้การรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เจ้าหน้าที่ได้กำหนดให้ผู้ที่เคยรับวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก มารับวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 7-12 เม.ย.64 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 7-11 เม.ย.64 มีผู้มารับการฉีดวัคซีน จำนวน 4,949 ราย คิดเป็นร้อยละ 72.52 ส่วนในวันนี้คาดว่าจะมีผู้มารับการฉีดวัคซีน ประมาณ 1,400 ราย ยอดรวมตั้งแต่วันที่ 7-12 เม.ย.64 มีผู้มารับการฉีดวัคซีน จำนวน 6,000 กว่าราย คิดเป็นร้อยละ 90 สำหรับผู้ที่รับวัคซีนซิโนแวคเข็มแรกแล้ว แต่ยังไม่มารับวัคซีนเข็มเข็มที่ 2 ตามกำหนดนัด เนื่องจากมีความจำเป็นต้องเดินทางในช่วงสงกรานต์ สามารถมารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ได้ในวันที่ 19-21 เม.ย.64 เมื่อได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว จะได้รับเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของประเทศไทย
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคเท่านั้น หากได้รับเชื้อโควิด-19 เข้าไป บางรายอาจไม่แสดงอาการ แต่ยังสามารถที่จะแพร่เชื้อไปยังผู้ที่ใกล้ชิดได้ จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เช่น การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงหรือที่ชุมนุมคนจำนวนมาก หากมีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าไปพื้นที่เสี่ยง ขอให้กักตัวเป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการตนเอง และปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อให้การป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนำผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาได้มากขึ้น ป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายในวงกว้าง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกตรวจสถานบริการในพื้นที่เป็นประจำ หากพบสถานบริการใดฝ่าฝีนไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวไปก่อนหน้านี้แล้ว