Travel Sport & Soft Power
'ปั้นดินให้เป็นเงิน'เปิดภูมิปัญญาสู้โควิด
สิงห์บุรี - ยุคโควิดต้องอยู่รอดให้ได้ !! ผู้เฒ่าปั้นดินเหนียวให้เป็นเงิน ทำลูกกระสุนขายพร้อมหนังสติ๊ก
ผู้สื่อข่าวฯ ผ่านไปพบบ้านหลังหนึ่งมีถุงแขวนอยู่หน้าบ้านหลายถุง ดูไกลๆ คิดว่าบ้านนี้เขาขายลำไย หรือขายลูกชิ้นกันแน่ จึงเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าที่แท้จริงคือ ลูกกระสุนดินเหนียว แขวนพร้อมที่หนังสติ๊กไม้ จึงได้คุยกับ คุณตา หอม สีทับทิม อายุ 87 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ที่ 1 ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ซึ่งกำลังปั้นดินเหนียวให้เป็นก้อนกลมๆ โดยมีภรรยา คือ คุณยาย เสงี่ยม สีทับทิม อายุ 82 ปี ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นผู้ป่วยติดเตียง นั่ง นอนได้แต่เดินไม่ได้ นั่งให้กำลังใจคุณตาหอม อยู่ตรงที่นอน โดยที่พักมีลักษณะเป็นเพิงสังกะสี ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยมีบ้านอีกหลังอยู่ด้านในโดยเป็นที่พักอาศัยของลูกหลานของคุณตาหอม
คุณตาหอม ซึ่งอายุ 87 ปีแล้วแต่ยังดูสุขภาพดี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนมีภรรยาคือ คุณยายเสงี่ยม ซึ่งก่อนจะเป็นผู้ป่วยติดเตียงนี้ คุณยายก็จะขายข้าวแกง ส่วนตนจะทำงานรับจ้างทั่วไป งานก่อสร้าง อยู่เรือบ้าง ถักแหขายบ้าง โดยมีลูก 4 คน แต่ตอนนี้ลูกทั้ง 4 คนโตทำงานกันหมดแล้ว จนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณยายเสงี่ยมเริ่มมีอาการเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต จนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ตนก็เลยอยู่ดูแล และไปหาดินเหนียวมาจากชายท่าซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดินไม่ไกลจากตัวบ้านเท่าไหร่ เลือกหาดินเหนียวมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ เพื่อทำเป็นลูกกระสุนดินเหนียว ปั้นเสร็จก็นำไปตากแดด 1 แดด และต้องแดดจัดๆ ถึงจะได้ที่
คุณตาเล่าต่อว่า ขายลูกกระสุนดินเหนียวในราคา 100 ลูก เพียง 20 บาท หนังสติ๊กขาย 30 บาท พอขายได้และมีคนมาซื้อบ้าง ส่วนแหขายปากละ 700 บาท ใช้เวลาถักแหปากนึงประมาณ 1 เดือน แต่มาช่วงนี้ขายไม่ค่อยได้เพราะน้ำแล้งปลาไม่ค่อยมี ทำให้ลูกค้าห่างหายไป ยิ่งมาช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด ถึงแม้จังหวัดสิงห์บุรี คนที่ติดยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น แต่ผู้คนก็ไม่ค่อยออกมานอกบ้าน แต่ก็ยังพอได้เงินจากการขายชุดหนังสติ๊กกับลูกกระสุนดินเหนียวมีเงินพอค่ากับข้าว 2 คนตายยายบ้าง และยังมีเงินผู้สูงอายุและเงินคนพิการที่ทำให้อยู่รอดไปได้ในช่วงยุคนี้ ในส่วนของการปั้นดินเหนียว จะใช้เวลาว่างก็จะมานั่งปั้น นอนไม่หลับก็ลุกมาปั้น อายุมากขึ้นก็จะขึ้นลงไปเก็บดินเหนียวที่หน้าท่าก็ไม่ค่อยจะไหว แต่ก็ต้องทำ เพราะไม่รู้จะทำอะไรกินกัน อายุก็มากขนาดนี้กันแล้ว ซึ่งอาชีพนี้ก็ไม่ค่อยจะมีใครทำ
ณัฏฐนารา ปานมี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี