In Global

'ปธน.สี จิ้นผิง'เยี่ยมเยือนเวียดนามกระชับ ความร่วมมือจีน-เวียดนามแน่นแฟ้น



การเดินทางเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระหว่างวันที่ 12-13 ธันวาคมนี้ เป็นการเดินทางเยือนเวียดนามครั้งแรกในรอบ 6 ปี  และปีนี้เป็นปีครบรอบ 15 ปีของความร่วมมือความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างจีนและเวียดนาม โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ร่วมหารือกับนายเหงียน ฟู้ จ่อง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ถึงการสร้างประชาคมจีน-เวียดนาม ที่มีอนาคตร่วมกัน และจะร่วมกันยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมให้แนบแน่นยิ่งขึ้น

โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนและเวียดนามได้สนับสนุนซึ่งกันและกันมาโดยตลอด และนับจากนี้จีนและเวียดนามจะพัฒนาความร่วมมือกันในหลายด้านเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ รวมถึงการร่วมมือกันในระดับพหุภาคีที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และจัดการความแตกต่างได้ดีขึ้น

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังกล่าวถึงข้อเสนอของจีนเพื่อสร้างประชาคมจีน-เวียดนามที่มีอนาคตร่วมกัน ดังนี้ 

จีนและเวียดนามควรเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับการปกครองของพรรคอมมิวนิสต์ การปกครองแบบสังคมนิยมและการพัฒนาสังคม  โดยจีนยังคงสนับสนุนความร่วมมือในโครงการข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางคุณภาพสูง  การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว

จีนและเวียดนามควรร่วมกันพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระดับภูมิภาค ผลักดันการสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่มั่นคง เปิดกว้าง ครอบคลุม และเป็นประโยชน์ร่วมกัน  โดยจีนจะยังคงสนับสนุนให้ภาคธุรกิจของจีนลงทุนในเวียดนาม และหวังว่าเวียดนามจะสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดีสําหรับภาคธุรกิจของจีนเช่นกัน

จีนและเวียดนามควรพัฒนาความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น เยาวชน การท่องเที่ยว เสริมสร้างความเข้าใจของประชาชนที่มีต่อประชาคมจีน-เวียดนามให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเสริมสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างคนรุ่นใหม่ของทั้งสองประเทศเพื่อสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ ร่วมกันต่อไป

จีนและเวียดนามควรร่วมกันจัดการความแตกต่างในประเด็นทางทะเล และส่งเสริมการพัฒนาทางทะเลร่วมกัน และเปลี่ยนความท้าทายที่เกิดจากปัญหาทางทะเลให้เป็นโอกาสของความร่วมมือระหว่างกัน

ขณะที่นายเหงียน ฟู้ จ่อง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม กล่าวว่าเวียดนามยินดีร่วมมือกับจีนเพื่อสร้างประชาคมเวียดนามและจีนที่มีอนาคตร่วมกัน ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้าความมั่นคง เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ 

ส่วนประเด็นเรื่องข้อพิพาททางทะเลเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามและจีน และเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายสามารถจัดการข้อพิพาทเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสมด้วยความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

นอกจากนี้ เวียดนามยังเห็นด้วยกับการเสริมสร้างความร่วมมมือแบบพหุภาคี และสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างการพัฒนา อาทิ โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง Global Development Initiative  Global Security Initiative และ Global Civilization Initiative ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา 

โดยจากนี้ไป จีนและเวียดนามจะกระชับความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือในหลายด้าน อาทิ โครงการข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ความมั่นคง  ความร่วมมือทางทะเล การพัฒนาด้านการขนส่ง  การพัฒนาเศรษฐกิจดิจทัล  การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว เป็นต้น
-----------------------------
บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย