Biz news
'กาแฟพันธุ์ไทย'รุกCLMVสยายปีกเออีซี เปิดตัว'ปันคาเฟ่'แห่งแรกในสปป.ลาว

กรุงเทพฯ-บริษัท กาแฟพันธุ์ไทยจำกัดเดินหน้าขยายสาขาในต่างประเทศ รุกตลาดCLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาและเวียดนาม)ผนึกกำลังกับ บริษัท มัลติเพล็กซ์ จำกัด สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวผู้ได้รับสิทธิ์บริหารร้านกาแฟแบรนด์ “ปันคาเฟ่”ภายใต้การบริหารของ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัดปูพรมเปิดสาขาแรกบนทำเลศักยภาพภายในสถานีรถไฟความเร็วสูงเวียงจันทน์ขบวนรถไฟโดยสารข้ามประเทศระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว กับนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งเป้าขยายไปยังเมืองอื่นๆ เพิ่มเติมอีก 5 สาขา ภายในปี 2567 นี้
คุณสุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า “กาแฟพันธุ์ไทย เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการขยายสาขาทั่วประเทศไทยในปัจจุบันพันธุ์ไทยมีจำนวนกว่า900สาขา การเปิดประตูสู่ตลาดอาเซียน โดยปักหมุดที่ สปป.ลาว เป็นประเทศแรกนี้ด้วยเล็งเห็นศักยภาพทางเศรษฐกิจ เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน มีความคล้ายคลึงกันทั้ง
ด้านภาษาและวัฒนธรรม ทำให้การติดต่อสื่อสารและการเดินทางขนส่งเป็นไปได้ง่ายอีกทั้งยังมีโอกาสเติบโตในระยะยาวจากหลากหลายปัจจัย ทั้งการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงสปป.ลาว–จีน ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยเป็นส่วนหนึ่งของระเบียงเศรษฐกิจจีน - อินโดจีน ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรัฐบาลของ สปป. ลาวได้ตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจถึง4.5%ในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ที่ 4.2%ในปี 2566กาแฟพันธุ์ไทยจึงเชื่อมั่นว่า จะสามารถขยายกลุ่มตลาดลูกค้าใหม่ๆและสร้างยอดขายให้เติบโต พร้อมผลักดันให้แบรนด์กาแฟไทยก้าวไปไกลขึ้นอีกขั้น”
คุณอิงคลดา ไชเจริญทรัพย์กรรมการ บริษัท มัลติเพล็กซ์ จำกัด (สปป.ลาว)ผู้ได้รับสิทธิ์บริหารร้านกาแฟแบรนด์ ปันคาเฟ่กล่าวว่า“ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มองหาแบรนด์ต่างประเทศใหม่ๆ ที่มีศักยภาพทั้งด้านคุณภาพ ความนิยม และการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ เพื่อนำมาบุกเบิกเปิดตลาดใน สปป. ลาว ซึ่งกาแฟพันธุ์ไทยตอบโจทย์ทั้งด้านรสชาติที่อร่อย ถูกปากลูกค้ากลุ่มประเทศCLMV ราคาเป็นมิตรจับต้องได้ และระบบการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมทำการตลาด แนะนำกลยุทธ์ต่างๆ เรียกได้ว่ามาแบบสำเร็จรูปพร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้าอย่างสะดวกสบาย”
“สำหรับการตัดสินใจเลือกโลเคชันนี้ในการเปิดสาขาเป็นแห่งแรก เนื่องจากมองเห็นโอกาสและศักยภาพของทำเลที่มีความพร้อม ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS เปิดเผยว่าจีนและ
ลาว เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่เปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงข้ามประเทศจากเวียงจันทน์สปป.ลาว ถึงนครคุนหมิงของจีน ในเดือนธันวาคม 2564 – ธันวาคม 2566 มีการขนส่งผู้โดยสารมากถึง 24.2 ล้านคน และมีปริมาณการขนส่งสินค้ามากถึง 29.1 ล้านตัน ซึ่งเป็นการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน 6 ล้านตัน ดังนั้นการขนส่งทั้งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างจีน ลาว และไทยจึงเป็นแรงสนับสนุนในการขยายโอกาสทางการค้า การบริการ และการลงทุน กระจายตัวภายในภูมิภาคเดียวกันมากขึ้นปันคาเฟ่ จึงเชื่อมั่นว่าทำเลดังกล่าวมีศักยภาพที่แข็งแกร่ง ประกอบกับชื่อเสียงของแบรนด์ที่ดีและคุณภาพของสินค้าที่เป็นที่นิยม จะสามารถผลักดันยอดขายและสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้ในอนาคต”คุณอิงคลดา กล่าวเสริม
“จากวิสัยทัศน์ขององค์กรที่อยากให้ทุกภาคส่วน ‘อยู่ดี มีสุข’ มุ่งเน้นการสนับสนุนชุมชนด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ คืนกำไรกลับสู่สังคมพันธุ์ไทยและปันคาเฟ่จึงส่งเสริมรายได้ให้แก่พนักงานที่มีภูมิลำเนาในประเทศ มีเชื้อชาติลาว สัญชาติลาว 100% ประกอบกับชุดแต่งกายของพนักงานที่สวมใส่ผ้าซิ่นทอมือ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากภูมิปัญญาของชาวบ้านในชุมชนชาวลาวที่สืบต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย” คุณสุขวสา กล่าวทิ้งท้าย
“ปันคาเฟ่” แห่งแรกของ สปป. ลาว เปิดให้บริการภายในสถานีรถไฟความเร็วสูงเวียงจันทน์ พร้อมเสิร์ฟความสดชื่นให้กับเหล่านักเดินทางด้วยหลากหลายเมนูแสนอร่อยทั้งกาแฟและเครื่องดื่ม ร้อน เย็น ปั่น ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดคือ เมนูตาลโตนด หอมหวานละมุน และ ส้มมะปี๊ด เปรี้ยวจี๊ดถึงใจที่ขนความอร่อยมาให้ทั้งสายกาแฟและคนรักชา รองท้องก่อนเดินทางด้วยเบเกอรีหอมกรุ่น ทั้งแซนวิช วาฟเฟิล และพาย หรือ อิ่มจัดหนักกับเมนูโจ๊กหมู โจ๊กไก่ และข้าวพร้อมทาน อาทิ ข้าวกะเพราไก่ ข้าวผัดแฮม ฯลฯ รวมถึงของพรีเมียมต่างๆ ที่สามารถซื้อเป็นของฝากได้ ซึ่งภาพสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของ ปันคาเฟ่ นั้นมีการสื่อสารทั้งภาษาลาว ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า พร้อมประหยัดเวลาในการเข้ารับบริการของลูกค้าและนักท่องเที่ยวสามารถแวะมาเติมพลังก่อนออกเดินทาง ผ่อนคลายในบรรยากาศสบายๆ พร้อมบริการฟรี Wi-Fi ได้ทุกวันที่ร้านปันคาเฟ่ตั้งแต่เวลา 06.30 – 16.00 น. นอกจากนี้ ในอนาคตยังขยายการให้บริการจัดอาหารว่างหรือสแน็คบ๊อกซ์ให้กับหน่วยงานราชการและลูกค้าที่ต้องการจัดเลี้ยง จัดประชุม รวมถึงบริการงานออกบูธนอกสถานที่อีกด้วย