Biz news
'ซูกิชิ'บุกขยายธุรกิจแฟรนไชส์เปิดโอกาส ให้นักลงทุนทั้งใน-นอกและกลุ่มCLMV

กรุงเทพฯ-ซูกิชิ อินเตอร์กรุ๊ป ที่มีผลตอบรับอย่างดีเช่นกัน โดยเฉพาะ Sukishi Korean Charcoal Grill ซึ่งปีที่ผ่านมาได้ขยายธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศได้ตามเป้าหมาย ตั้งเป้าปี2567 เปิดแฟรนไชส์ 10 สาขาทั้งในและต่างประเทศ คาดรายได้โต 36%จากรายได้รวมของบริษัทฯ กว่า 2,000 ล้านบาท
คุณนพดลจิรวราพันธ์กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ซูกิชิ อินเตอร์กรุ๊ปจำกัด ผู้นำธุรกิจ ร้านปิ้งย่างและอาหารเกาหลีกล่าวว่าSukishi Korean Charcoal Grillร้านปิ้งย่างและอาหารเกาหลีมีจุดเด่นเรื่องของวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมที่คัดสรรมาจากทั้งในและต่างประเทศ พร้อมด้วยการพัฒนาสูตรอาหารเกาหลีต่างๆอย่างต่อเนื่องซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมี39สาขาการดำเนินธุรกิจอาหารเกาหลีมาอย่างยาวนานนี้ ทำให้เข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภค และการบริหารงานด้านร้านปิ้งย่างและอาหารเกาหลีเป็นอย่างดี ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการขยายสาขาในรูปแบบนี้
ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้6 สาขา ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นและเห็นภาพในการทำธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น เข้ามาขอข้อมูลเพื่อศึกษาการลงทุนSukishi Korean Charcoal Grillเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเมกะ เทรนด์ (Mega Trend) กระแสความชื่นชอบอาหารเกาหลีที่ได้รับความนิยมทั่วโลกบริษัทฯ จึงเตรียมขยายแฟรนไชส์Sukishi Korean Charcoal Grillร้านปิ้งย่างและอาหารเกาหลี ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าในปีนี้จะเพิ่มสาขาแฟรนไชส์อย่างน้อย10 สาขา แบ่งเป็นในประเทศ 8 สาขา กลุ่มประเทศ CLMVประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม2 สาขา
จุดแข็งของบริษัทฯ คือเรื่องขององค์ความรู้ในการประกอบธุรกิจร้านปิ้งย่างและอาหารเกาหลีทั้งการบริหารจัดการร้านและพนักงาน สนับสนุนนักลงทุนด้วยระบบมาตรฐานแฟรนไชส์ที่เป็นสากล รวมถึงทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทฯ มีการลงทุนระบบครัวกลางประมาณ
1,000ล้านบาททำให้สามารถควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบและรสชาติอาหารที่ได้มาตรฐานเดียวกันทุกสาขา ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำธุรกิจร้านอาหารทั้งนี้ จากความมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบแฟรนไชส์ตามมาตรฐานสากล ส่งผลให้ปีที่ผ่านมา SukishiKorean Charcoal Grillคว้ารางวัลแฟรนไชส์ไทยขนาดใหญ่ยอดเยี่ยม (Best Large Franchise) จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ช่วยตอกย้ำความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ให้กับนักลงทุนที่สนใจเข้าร่วมธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ CLMV
นอกจากนี้การเปิดแฟรนไชส์Sukishi Korean Charcoal Grillยังได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าโดยคาดว่าระยะเวลาการคืนทุนของธุรกิจประมาณ 4 ปีรวมถึงบริษัทฯจะมีCash Return ตามรอบให้กับนักลงทุนเป็นรายเดือน เพื่อเกิดกระแสเงินสดหมุนเวียนเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ
กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวต่อว่า ธุรกิจร้านปิ้งย่างและอาหารเกาหลีในประเทศไทยยังมีอนาคตที่สดใส โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Sukishi Korean Charcoal Grillจะอยู่ในระดับ Bมีอัตราค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารแต่ละครั้งเฉลี่ยต่อหัว600-800 บาท แม้ว่าปัจจุบันจะมีแบรนด์ธุรกิจร้านปิ้งย่างเกิดขึ้นมากมายก็ไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ ในปี 2567 เป้าหมายการเติบโตธุรกิจภาพรวมของซูกิชิอยู่ที่24% และธุรกิจแฟรนไชส์อยู่ที่ 36%
สำหรับการเปิดสาขาSukishi Korean Charcoal Grill ในกลุ่มประเทศ CLMV จะเป็นรูปแบบการร่วมลงทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่น(Joint Venture) และการขายแฟรนไชส์(Master Franchise)โดยทางซูกิชิเองตระหนักดีว่าการทำตลาดในต่างประเทศมีความแตกต่างจากประเทศไทย จึงมีการศึกษาวัฒนธรรมการกินไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมผู้บริโภคในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และการสื่อสารการตลาดให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
ดังนั้น ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจร้านปิ้งย่างและอาหารเกาหลีกว่า 2 ทศวรรษของบริษัทฯ จึงเชื่อมั่นว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่สนใจในธุรกิจแฟรนไชส์Sukishi Korean Charcoal Grill อย่างแน่นอน