Authority & Harm

ผบ.มทบ.12ส่งพลทหารดิ่งโรงนอนชั้น2 ส่งรักษารพ.พระมงกุฏญาติรอปาฏิหารย์



ปราจีนบุรี -ปมใหม่ความเชื่อเรือนนอนทหารในค่ายจักรพงษ์ พลทหารโดดจากระเบียงชั้น 2  สร้างคร่อมต้นโพธิ์เก่าแก่ ระบุโรงนอนเพิ่งเปิดใช้งานหมาด ๆ  ย้ำซ้ำ!  นายทหารเชิญนักข่าวออกนอกพื้นที่โรงนอน  จุดเกิดเหตุพลาดงาน  เรื่องหลักการประชาสัมพันธ์   “3 ก .“อย่างใหญ่หลวงควร ก.1ก่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในเหตุการณ์ แก่ประชาชน และผู้ปกครอง-สื่อ  ก.กันภาพลักษณ์  ที่เคยตกต่ำ-ติดลบ ในความสึก หรือ เข้าใจ การทำหน้าที่มาเป็นทหารของพลเมือง    และ  ก.3 การแก้ไข – ปรับปรุงประยุกต์ใช้การสื่อสาร ที่เป็นการพัฒนากับองค์กรอย่างยั่งยืน  ตามยุคสมัยที่ไม่ใช่จะรบแค่ข้าศึกอย่างเดียว     เพราะต้นเดือน เม.ย. นี้ จะมีการเกณฑ์ทหารทั่วประเทศแล้ว 

เมื่อเวลา 21.35 น.วันนี้ 22 มี.ค.67  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้า  จากกรณี   ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้ากรณีมีการแชร์สนั่นโลกโซเชียล เมื่อพลทหารฯน้องเต (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี    ส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากน้องสาว ระบุ ถูกรุ่นพี่ในค่ายทหารฯรังแก แต่ยังไม่ทันได้เจอหน้าพูดคุย พี่ชายตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดจากอาคารนอน ขั้น 2 ตกลงมาพื้นหน้ากองร้อยอาการสาหัส 

อันเป็นแช็ตข้อความที่น้องสาวของพลทหาร อายุ 23 ปี นำมาโพสต์ มีข้อความลักษณะขอความช่วยเหลือ ว่าพี่โดนทุกคนกด ช่วยพี่ด้วย สั่นกลัวไปหมดแล้วตอนนี้ น้องสาวถามว่า เขาทำอะไร บอกจ่าได้ไหม พี่ชายตอบกลับมาว่า ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย เป็นแช็ตข้อความที่ส่งมาหาน้องสาวช่วงเวลา 14.39 น. วานนี้ 21 มี.ค. 

หลังจากนั้น เวลา 17.32 น. ห่างกันประมาณ 3 ชั่วโมง พี่ชายส่งข้อความบอกน้องสาวว่า ขอแค่เชื่อใจ เขารู้ว่าพี่พิมพ์อยู่ แค่ไม่รู้ว่าพิมพ์อะไร จากนั้นก็ส่งรูปถ่ายหน้าของตัวเองมาให้น้องสาว และนั่นเป็นข้อความสุดท้าย 

จากการสอบถามไปที่น้องสาวถึงรู้ว่า พี่ชายเป็นพลทหารฯ ที่กองพันสารวัตรทหารที่ 12 ค่ายจักรพงษ์ ต.ดงพระราม อ.เมืองปราจีนบุรี  จ.ปราจีนบุรี   ให้ข้อมูลว่า พี่ชายแช็ตมาขอความช่วยเหลือ เวลาประมาณ 20.00 น. ครอบครัวถึงทราบข่าวว่าพี่ชายกระโดดลงมาจากอาคารนอนได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ แพทย์ต้องทำ CPR และใส่เครื่องช่วยหายใจ ยังต้องดูอาการในห้อง ICU 

ตอนนี้ ทั้งครอบครัวยังเฝ้าดูอาการ และ  ติดใจในเรื่องนี้ แม้ว่าหลังเกิดเหตุจะมีนายทหารมายืนยันว่า พี่ชายกระโดดลงมาเอง และ  ยังย้อนถามด้วยว่า ที่บ้านมีปัญหาครอบครัวหรือไม่  ก่อนหน้านี้ 

ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 มี.ค.)   พล.ต.ไพรัช แก้วศรี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 (ผบ.มทบ.12) ได้เปิดห้องรักษาผู้ป่วยทางศัลยกรรม    หน้าห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.ค่ายจักรพงษ์   ให้การต้อนรับพ่อ แม่ น้องสาวของพลทหารฯ “น้องเต” (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ที่บาดเจ็บสาหัสยังไม่รู้สึกตัวกำลังรักษาอาการ ใส่เครื่องช่วยหายใจ ยังต้องดูอาการในห้อง ICU.  ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน 

พร้อมชี้แจง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบ และ  มีไฟล์วงจรปิดเหตุการณ์ช่วงน้องพลทหาร โดดจากระเบียง หน้าโรงนอนพลทหาร ชั้น 2 ลงมาพื้นซีเมนต์ด้านล่าง ความสูงราว 8 เมตรเศษ มีพลทหารสังกัดเหล่าสารวัตรทหารประมาณ 30 นาย , รายงานแจ้งผลการตรวจเลือดของพลทหารฯ “น้องเต” (นามสมมุติ) ของทาง รพ.ค่ายจักรพงษ์ ให้กับทางครอบครัวโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง ใช้เวลานานกว่า 30 นาที จากนั้นออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่รอทำข่าวด้วยความสนใจของประชาชาชน

พล.ต.ไพรัช  กล่าวว่า  จากเหตุการณ์สันนิษฐาน ไว้ 3 ประเด็น คือ 1.สาเหตุมาจากความกดดันของงาน 2. สาเหตุภาวะป่วย และ 3 สาเหตุครอบครัว   ทางหน่วย  ขอแสดงความเสียใจ ทั้งนี้ผู้บาดเจ็บ  เป็นน้องคนเล็กของหน่วยฯ (ทหารใหม่ผลัด 2 ปี 2566)   เพิ่งกลับมาจากพักผ่อนที่บ้านเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 67 ได้ให้ญาติ ดูกล้องวงจรปิดไปแล้ว   เพื่อให้ได้ความยุติธรรม ความสบายใจ พร้อมแนะนำให้ พ่อ – แม่ ร้องทุกข์ ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี มีคำสั่งมณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12) ทำการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุดเพื่อให้ญาติสบายใจ และ ให้การดูแลรักษาอาการนำส่งต่อ รพ.พระมงกุฎ กรุงเทพฯทันที   พล.ต.ไพรัช กล่าว

ต่อมาเวลา 16.00 น.ทางครอบครัว ประกอบด้วยพ่อ แม่ น้องสาว และ ญาติของพลทหารฯ “น้องเต” (นามสมมุติ) ได้มาลงบันทึกแจ้งความที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี พร้อมมีนายทหารรัฐธรรมนูญที่ดูด้านคดีความทางทหารร่วมสังเกตการณ์  

ล่าสุดเวลา 17.00 น.พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี ,ครอบครัว - ญาติ ของพลทหารฯ “น้องเต” (นามสมมุติ) ได้เดินทางมาที่อาคารโรงนอนทหารของกองพันสารวัตรทหารที่ 12 นำมาชี้ให้ดูจุดที่น้องเต้ปีนขึ้นบนราวระเบียงหน้าอาคาร ก่อนโดดลงมาชั้นที่ 1  ทั้งนี้  มีเจ้าหน้าที่ทหารยศร้อยเอกได้มาสอบถามบัตรนักข่าว และไม่อนุญาตให้ตามไปถ่ายภาพด้วย ให้ถ่ายได้ด้านนอก โดยผู้สื่อข่าวได้แจ้ง  มารู้ข่าวเร่งด่วนเมื่อมาทำแผลห้องทำแผล รพ.จึงเป็นเหตุฉุกเฉินไม่ได้พกบัตรสื่อมวลชน หลังถ่ายภาพเสร็จได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาแจ้งให้ไปได้แล้ว   ทั้งนี้ก่อนการมาถ่ายสถานที่เกิดเหตุ  ผู้สื่อข่าวได้แจ้งให้ทางทหาร โดยเฉพาะกับทาง พล.ต.ไพรัช แก้วศรี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 (ผบ.มทบ.12) ขณะที่ท่านกำลังส่งพลทหารฯขึ้นรถฉุกเฉินเพื่อไปรักษาอาการต่อด่วน ที่ รพ.พระมงกุฏเกล้า กรุงเทพฯ  ได้ทราบแล้ว และได้รับการอนุญาตด้วยวาจา โดยให้ทางผู้สื่อข่าวให้แจ้งกับทางสิบเวรฯหน่วยทหารทราบด้วยก่อน  ซึ่งทางผู้สื่อข่าวได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และแจ้งให้ทราบอดีตก็เคยเป็นทหารมาก่อนนานกว่า20 ปี มาแล้วด้วย รู้ กฎ กติกา รู้อาวุโส-รุ่น  การได้มาซึ่งภาพ เสียง เป็นอย่างดี 

ด้านน้องสาวของพลทหาร กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุพี่ชายได้แขทคุยกับตนเองที่เป็นน้องสาว ก่อนหน้าเมื่อเร็ว ๆ นี้พี่ที่เป็นพลทหารใหม่ผลัด 2 / 2566   เพิ่งกลับมาจากบ้าน วันที่ 29 ก.พ. 67   จะลา วันที่ 21 มี.ค. (วันนี้ )  แต่ได้วันที่ 1 เมษายน พี่คุยแชทไลน์บอกว่า พี่โดนทุกคนกด  ช่วยพี่ด้วย น้องสาวอ่ะ  กดแค่พี่เหรอพี่ชายบอกว่าใช่   กลัวสั่นไปหมดแล้ว น้องสาวบอกจ๋า ช่วย ได้ไหม พี่ชายบอกไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย พี่ชายบอกอย่างนี้

และ กล่าวต่อไปว่า ตอนกลับบ้านก็คุยกันปกติ คุยกันเรื่องรถ เมื่อวานเวลา 17:40 น  พี่ชาย พูดว่า ช่วยพี่ด้วย  เวลา ประมาณ 20:00 น กำลังจะ ทำกับข้าว กินข้าว มีคน โทรหาพ่อ ตอนยืนอยู่หน้าบ้าน   พ่อตะโกนบอกพี่ชายโดดตึก น้องสาว กล่าว

ด้านนางติ๋ม อายุ 46 ปี แม่ของน้องพลทหารกล่าวว่า    ครอบครัวเป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบันมาอยู่จังหวัดนนทบุรี มีอาชีพ รับจ้าง มีลูก 2 คน คนโตเป็นพลทหาร คนเล็กลกสาวที่คุยแชทกับพี่ชาย   

ลูกชายจบ ม. 6 ไม่ได้เรียนต่อช่วงโควิด  บอกจะส่งน้องเรียน  ก่อนเข้าเป็นทหาร  ตัดดสินใจจับสลากได้ใบแดง เพิ่งเข้ามาเป็นทหารเกณฑ์ ทบ.ผลัด 2/2566   เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 66    โดยก่อนเป็นพลทหารฯ  ประกอบอาชีพเป็น LINE Man   ลูกชายชื่อ พลทหารประกิต อาจใจ “น้องเต้ย” อายุ 23 ปี   ยังไม่มีครอบครัว นิสัยเป็นคนร่าเริง 

แม่ อยากให้ลูกหาย ลูกเคยบ่นให้พูดให้ฟังว่า ถูกกดดัน ปกตินิสัยดีก่อนนอนสวดมนต์ ให้พ่อแม่ ดูจากที่เขาบันทึกในสมุดบอกว่า“รักพ่อรักแม่” อยากให้ลูกฟื้น ความจริงอยู่ที่เขา “พลทหารประกิต อาจใจ”  ความจริงอยู่ที่ลูกชาย คนเดียวหากปาฏิหารย์ทำให้ฟื้นคืนขึ้นมา  นางติ๋มกล่าว

คืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว โรงนอน  หรือเรือนนอน สำหรับพลทหารเหล่าสารวัตรสังกัดกองสารวัตรทหารที่ 12  นั้น เพิ่งก่อสร้างเสร็จ      

ในจุดใกล้ ๆ เคียงกับหน้าคลังอาวุธ (ชั้น 2 ) โรงนอนเคยมีต้นโพธิ์โบราณขนาดหลายคนโอบขึ้นมานานแสนนานหลายชั่วคน   โดยค่ายจักรพงษ์ นี้    เป็นค่ายทหารที่จัดการรบแบบยุโรปเป็นค่ายทหารแห่งแรกของไทย    แต่  ต้นโพธิ์ดังกล่าว   ได้มีการดันต้นโพธิ์ใหญ่โบราณต้นนี้ออกไป    มีหลายคนที่ติติง ให้มีการทำพิธี  แต่มาเกิดเรื่องราวดังกล่าวกับพลทหารที่เป็นน้องใหม่สุด (ผลัด 2 / 2566 ) โดดลงมาจากระเบียงชั้น 2 ลงมาพื้นด้านล่าง    ล่าสดอาการยังสาหัสถูกนำส่งรักษาต่อที่  รพ.พระมงกุฎเกล้า กทม.

ผู้สื่อข่าวรายานเพิ่มเติม  และหลังผู้สื่อข่าวมาทำการถ่ายภาพในจุดด้านหน้าคลังอาวุธหน้าโรงนอนทหาร  จุดที่พลทหารโดดลงมาได้รับบาดเจ็บสาหัสเสร็จ  ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาแจ้ง  ให้ไปได้แล้วหลังการถ่ายภาพเสร็จ   ตามรายละเอียด  ที่เสนอนั้น    

พลาดงานเรื่องหลักการประชาสัมพันธ์หลัก“3 ก .อย่างใหญ่หลวงควรก.1 ก่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในเหตุการณ์ แก่ประชาชน และผู้ปกครอง-สื่อ  ก.กันภาพลักษณ์  ที่เคยตกต่ำ-ติดลบ ในความสึก หรือ เข้าใจ การทำหน้าที่มาเป็นทหารของพลเมืองและก.3 การแก้ไข – ปรับปรุงประยุกต์ใช้การสื่อสาร   ที่เป็นการพัฒนากับองค์กรอย่างยั่งยืน ตามยุคสมัยที่ไม่ใช่จะรบแค่ข้าศึกอย่างเดียว   เพราะต้นเดือน เม.ย. นี้ จะมีการเกณฑ์ทหารทั่วประเทศแล้ว 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปพบในโพสต์ของทวิตเตอร์  โดยผู้ใช้ชื่อว่า  Red Skull @RedSkullxxx  ( https://twitter.com/redskullxxx/status/1771133560218636751?s=53  ) ได้โพสต์คลิปภาพ-ข้อความแชทระบุว่า. เปิดคลิป“พลทหารประกิต”ดิ่งเรือนนอนในค่ายและแชทของพลประกิตก่อนตัดสินใจดิ่งเรือนนอนในค่ายจักรพงษ์ 

จากคำบอกเล่าเพื่อนทหารต่างพูดไม่ตรงกันหลายเรื่องและอ้างว่าทางกิตมีปัญหากับทางบ้านเลยเกิดความเครียด แต่ทางครอบครัวยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง แชทเมื่อก่อนเกิดเหตุ วันที่ 20 ซึ่งพลฯประกิตจะขอลากลับบ้านวันที่ 21 โดยพลฯประกิตเดินไปขอใบลา แต่จู่ๆก็กระโดดลงมาจากอาคารเรือนนอน 

มานิตย์  สนับบุญ / ปราจีนบุรี