Authority & Harm

ลูกชายร้องสื่อพ่อพิการถูกหลานทาสยา คลั่งใช้ไม้กระหน่ำตีสลบ/ชาวบ้านผวา



นครปฐม-ชายพิการ ช่างแกะกะลาพระราหู วัดศรีษะทองถูกหลานชายใช้ไม้หน้าสามพาดกระหน่ำไม่ทั้งนอนจมกองเลือดริมถนน ลูกชายบอกคนก่อเหตุเป็นหลานชายคนบาดเจ็บ ชาวบ้านผวาบอกตำรวจต้องเร่งจับตัวเพราะทั้งติดยาและก้าวร้าว 

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้เกิดเหตุชายใช้ไม้กระหน่ำตีหนุ่มใหญ่พิการขาขาดเลือดอาบหน้านอนสลบแน่นิ่ง โดยมีพลเมืองดีช่วยเรียกรถกู้ภัยเร่งเข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลที่หน้าโรงเรียนศรีษะทองพร้อมทั้งเร่งนำส่งต่อโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาตัวด้วยอาการสาหัส 

ต่อมาได้มีสื่อโซเชียล เฟสบุ๊ก ได้ระบุว่าพื้นที่เกิดเหตุ อยู่ที่ ม.2 ต.ศรีษะทอง ทราบชื่อคือ นายทวีศักดิ์ พูลลำเภา อายุ 53 ปี  เป็นช่างเแกะสลักกะลามะพร้าวรูปพระราหูที่มีฝีมือคนหนึ่ของวัดศรีษะทอง (ราหู) มีความพิการขาข้างซ้ายขาด นอนสวมกางเกงขาสั้นไม่สวมเสื้อ บริเวณใบหน้าเบ้าตาขวามีเลือดไหลออกมาและที่ลำตัวมีรอยถูกทำร้ายหลายแห่ง โดยมีไม้ค้ำคนพิการอีก2 อันอยู่ข้างตัวห่างมาเล็กน้อยพบไม้หน้าสามตกอยู่ด้วย

จากการสอบถามนายชูเกรียติ พูลลำเภา (อัน) อายุ 23 ปีลูกชายเล่าให้ฟังว่า ตนเองได้รับทราบข่าวจากพี่ชายว่าพ่อถูกทำร้ายตีที่ใบหน้าจนหมดสติ เมื่อคืนวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านจากนั้นได้ขับรถจากที่ทำงานในห้างสรรพสินค้าพื้นที่ศาลายามายังบ้านที่ตำบลศรีษะทองทราบว่ารถกู้ภัยได้นำตัวนำพ่อส่งโรงพยาบาลนครชัยศรีและส่งต่อไปที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐมทางแพทย์พยาบาลได้เร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งตรวจบาดแผลที่มีหลายแห่งและส่งเอ็กชเรย์สมองเนื่องจากพ่อถูกตีที่ใบหน้าดั้งจมูกมีแผลลึกและยังต้องรอฟังผลการตรวจอีกครั้งว่าจะบาดเจ็บในระดับใด 

นายอันได้บอกอีกว่า ผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ชื่อนายโจ อายุประมาณ 28-29 ปี เป็นผู้ลงมือใช้ไม้กระหน่ำตีพ่อของตนเองจนหมดสติซึ่งนายโจผู้ก่อเหตุ  มีศักดิ์เป็นน้องของตนเองเนื่องจากพ่อของนายโจ เป็นน้องชายของพ่อตนเอง โดยเคยก่อเหตุใช้ไม้ตีย่าของตนเองจนได้รับบาดเจ็บมาแล้วครั้งหนึ่งได้มีการแจ้งความดำเนินคดีจนได้รับโทษติดคุกมาแล้วประมาณปีกว่าและออกมาและมีทะเละวิวาทกับเพื่อนบ้านในระแวกหมู่บ้านและก็รับโทษติดคุกอีกประมาณ 2 ปีและได้พ้นโทษออกมายังไม่ได้ 2 อาทิตย์และมาก่อเหตุใช้ไม้กระหน่ำตีพ่อตนเองจนเกือบตายในครั้งนี้อีก 

สอบถามต่ออีกทราบว่านายโจเป็นผู้ป่วยจิตเวชอาการคล้ายคนเสพยาและชอบพูดคนเดียวบ้างครั้งมีคลุ้มคลั่งซึ่งทางนายอันต้องการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำนายโจไปรักษาหรือนำตัวออกนอกพื้นที่ไปยิ่งดีเพื่อความปลอดภัยคนในครอบครัวนายโจและเพื่อนบ้านด้วยซึ่งนับว่าเป็นบุคคลอันตรายคนหนึ่งที่จะก่อเหตุได้ตลอดเวลา

ทางด้าน เจ้หน่อย (นามสมมติ) อายุ 47 ปี   ชาวบ้านได้เล่าให้ฟังว่าผู้ก่อเหตุพึ่งจะออกคุกมาได้ 5 วันแต่ตนเองก็เห็นทั้งสองฝ่ายยังดีกันอยู่เพราะว่าพ่อผู้ก่อเหตุไปทำงานที่ กทม.และได้โทรศัพท์มาคุยฝากให้ผู้บาดเจ็บร่างกายพิการรายนี้ดูแลทั้งข้าว อาหารและอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้คาดว่าเมื่อคืนคงทะเลาะกันและผู้บาดเจ็บรายนี้ออกมาปิดประตูหน้าบ้านตนเองคิดว่าหมาที่บ้านคนเจ็บออกมาและได้ยินเสียงดังตุบตับถูกไม้หน้า 3 ฟาดหลายครั้งและใช้เท้ากระทืบชาบพิการรายนี้จนได้รับบาดเจ็บหมดสติหน้าประตูหน้าบ้านตนเองจึงได้มามองดูจึงทราบว่านายทวีศักดิ์ ผู้บาดเจ็บ ถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บมีเลือดไหลออกมาที่ใบหน้านอนหมดสติ ซึ่งเท่าที่ตนเองทราบมาว่าผู้ก่อเหตุรายนี้ป่วย  จิตเวช ซึ่งผู้ก่อเหตุรายนี้เป็นคนโมโหง่ายโวยวายทำอะไรไม่ถูกใจจะปาทิ้งซึ่งชาวบ้านในระแวกใกล้เคียงต่างกลัวนายโจผู้ก่อเหตุชาวบ้านอยู่อย่างหวาดระแวงบ้านติดกันไม่กล้านเข้ามานอนพักที่บ้านกลัวจะโดนหาเรื่องและอาจจะมาทำร้ายถึงชีวิตได้จึงต้องให้หน่วยงานเข้ามาดูแลเข้มงวดอย่างจริงจังเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน

ซึ่งอาการล่าสุดของนายทวีศักดิ์บาดแผลลึกที่จมูกเลือดไหลไม่หยุดและต้องผ่าตัดกระดูกโครงใบหน้ากระดูกคอร้าวศรีษะแตกอาการอยู่ในการดูแลของแพทย์รอการผ่าตัดและยังอยู่ในอาการสาหัส เนื่องจากเดิมก็มีความพิการอยู่แล้ว

เบื้องต้น นายอัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับแจ้งความเนื่องจากให้รอสรุปจากทางแพทย์อีกครั้งว่านายทวีศักดิ์บาดเจ็บอยู่ในระดับใด ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านต่างหวาดผวากับพฤติกรรมของนายโจ เนื่องจากมีพฤติกรรมติดยาและมีพฤติกรรมก้าวร้าว จึงอยากให้ตำรวจดำเนินการโดยเร็วด้วย