Travel & Entertain

'เดอะคอฟฟี่คลับ'เผยภาพปี66โตตามเป้า ลุยสู่เป็น'Neighborhood Café'



กรุงเทพฯ 28มีนาคม2567 - เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) เผยภาพรวมผลการดำเนินธุรกิจตลอดปี 66 เป็นไปตามเป้าหมาย จากการดำเนินกลยุทธ์อย่างครอบคลุม อาทิ การพัฒนาเมนูใหม่ต่อเนื่องที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคการขยายสาขาตามแหล่งธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยวเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าเดิม พร้อมเดินหน้าตอกย้ำการเป็นNeighborhood Café ในปี 2567 ประเดิมด้วยการเปิดตัว“Summer Faves”เมนูอาหารพร้อมเครื่องดื่มใหม่รับช่วงหน้าร้อน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลาย ตลอดจนการมอบโปรโมชันพิเศษและสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกทั้งใหม่และสมาชิกเดิมตลอดทั้งปี โดยเชื่อว่าจากการดำเนินการทั้งหมด จะทำให้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ สามารถครองใจผู้บริโภคทั้งคนไทยและชาวต่างชาติในทุกวันทุกโอกาส ตลอดจนบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจที่วางแผนไว้

นางนงชนกสถานานนท์ผู้จัดการทั่วไปเดอะคอฟฟี่คลับภายใต้การดำเนินการของบริษัทเดอะไมเนอร์ฟู้ดกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) กล่าวว่าจากผลการดำเนินงานของธุรกิจร้าน เดอะ คอฟฟี่ คลับใน ปี 2566 ที่ผ่านมา ที่มีการเติบโตอยู่ที่32% เมื่อเทียบกับปี2565 ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่วางไว้อันเป็นผลมาจากการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลายทั้งการตอบโจทย์ลูกค้าผ่านการพัฒนาเมนูใหม่ๆ อาทิเมนูชาไทยปังเย็น เฟรปเป้เครื่องใหม่ที่พัฒนาจากอินไซด์คนไทยที่ปัจจุบันนิยมบริโภคชาไทยมากขึ้น การขยายฐานลูกค้าด้วยการมอบสิทธิพิเศษต่างๆ ผ่านระบบสะสมแต้มและการขยายสาขาให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้มีการขยายสาขาเพิ่ม 5สาขา ประกอบด้วย สาขาโบ๊ท ลากูน สาขาโอลด์ทาวน์สาขาพาร์คสีลม สาขาสเตย์บริดจ์ทองหล่อ และเดอะปาร์ค สาขาใหม่ล่าสุดในปี 2567ซึ่งเป็นบริเวณย่านธุรกิจของกรุงเทพฯรวมถึงจังหวัดท่องเที่ยว ทำให้ปัจจุบันเดอะ คอฟฟี่ คลับมี สาขารวมกว่า 40สาขา แบ่งเป็น 39 สาขาในประเทศไทย และ 1 สาขาในต่างประเทศตลอดจนการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมอาทิ การปรับใช้Eco-Friendly Packaging แก้วกระดาษใส่เครื่องดื่มร้อนและแก้วไบโอผลิตขึ้นจากวัสดุธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายสำหรับใส่เครื่องดื่มเย็นการใช้ฝาแก้วแบบSip Lid ที่สามารถยกดื่มได้ไม่ต้องใช้หลอดตลอดจนการให้ความสำคัญด้านสวัสดิภาพสัตว์ผ่านการใช้ไข่ไก่แบบCage Free Eggs ที่ผ่านวิธีการเลี้ยงแม่ไก่แบบปล่อยอิสระในโรงเรือนระบบปิดที่สะอาดปลอดภัยช่วยให้แม่มีอิสระ อารมณ์ดี ทำให้ได้ไข่ไก่ที่มีสารอาหารครบถ้วน มาเป็นวัตถุดิบในการทำเมนูอาหารให้ลูกค้าเป็นต้น

ขณะที่ทิศทางในปี 2567  เดอะ คอฟฟี่ คลับ ตั้งเป้าตอกย้ำการเป็นNeighborhood Caféสำหรับลูกค้าทุกคน เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวเมนูอาหารและเครื่องดื่มใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าโดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือช่วงหน้าร้อน ที่พบว่าอินไซด์ของผู้บริโภคส่วนใหญ่จะมีการวางแผนใช้เงินเพื่อบริโภคอาหารและเครื่องดื่มมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆของปีจึงพัฒนาเมนูSummer Favesที่เป็นเน้นวัตถุดิบอาหารทะเลมาตอบโจทย์ดังกล่าว ประกอบด้วย ฟิชแอนด์ดับเบิ้ลชิป (Fish & Double Chips)เนื้อปลาพอลล๊อกชิ้นใหญ่ทอดเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งสองสไตล์ อย่างเฟรนช์ฟรายส์ และมันหวานฟรายส์ทานคู่กับซอสทาร์ทาร์ หรือซอสมะเขือเทศสลัดอะโวคาโดกุ้งน้ำสลัดวาซาบิ (Avocado & prawn salad)สลัดอะโวคาโดและกุ้งที่อัดแน่นด้วยคุณประโยชน์มากมายจากผักหลากชนิดอาทิโอ๊ค แรดิช มะเขือเทศเชอร์รี่ แตงกวา สาหร่ายวากาเมะและอะโวคาโดราดด้วยน้ำสลัดซอสถั่วเหลืองวาซาบิ ที่ใส่วาซาบิในปริมาณที่เหมาะสมทำให้ให้รสชาติกลมกล่อมไม่เผ็ดจนเกินไปทุกคนสามารถรับประทานทานได้ง่ายและเมนู ครัวซองกุ้งซอสฮันนี่มัสตาร์ดมายองเนส (Overload Prawns croissant)ครัวซองต์รสสัมผัสกรอบอร่อยอัดแน่นด้วยกุ้งเต็มคำราดซอสฮันนี่มัสตาร์ดมายองเนสที่บีบมะนาวควบคู่จนได้ความอร่อยแบบลงตัวด้านเมนูเครื่องดื่มดับร้อนต้อนรับช่วงซัมเมอร์ที่มีเทศกาลสำคัญอย่างเทศกาลสงกรานต์ ประกอบด้วย โมฮิโต้ม๊อกเมลเฟรปเป้ (Mojito Crush Frappe) เครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจจากโมฮิโต้เครื่องดื่มยอดฮิตนำมาดัดแปลงเป็นรูปแบบปั่นแบบไม่ผสมแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มจะได้ความหอมของกลิ่นมิ้นต์ตัดด้วยรสเปรี้ยวจากมะนาว และ พาฟโลวาเฟรปเป้ (Pavlova Frappe) เมนูได้รับแรงบันดาลใจมาจากของหวานประจำชาติออสเตรเลียที่มีส่วนผสมของเมอร์แรงก์ปั่นคู่กับมะม่วงเสาวรสและวานิลลา ที่ได้ทั้งความหวานจากมะม่วงความเปรี้ยวจากเสาวรสความมันจากเมอร์แรงก์เติมเต็มทั้งความอร่อยและสดชื่นได้ในเวลาเดียวกัน

พร้อมกันนี้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยังให้ความสำคัญกับการขยายสาขาในทำเลที่มีศักยภาพที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายยิ่งขึ้นทั้งในพื้นที่แหล่งย่านธุรกิจกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยวทั่วประเทศเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่และมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไทยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น คนวัยคนทำงาน ตลอดจนครอบครัวไปพร้อมการให้ความสำคัญกับลูกค้าต่างชาติเช่นเดิม ผ่านลอยัลตีโปรแกรม เช่นการมอบโปรโมชันพิเศษสำหรับสมาชิกทุกระดับบนแอปพลิเคชัน The Coffee Club Thailandไม่ว่าจะเป็นระดับGold,Silver และ Memberที่สามารถรับเครื่องดื่มฟรีได้เมื่อสั่งอาหารในรายการที่กำหนดการมอบโปรโมชันดับเบิ้ลพ้อยรับแต้มคูณสองเมื่อใช้บริการในช่วงเวลาที่กำหนด รวมถึงการมอบสิทธิพิเศษในการชิมเมนูใหม่สำหรับสมาชิกการทำระบบCoffeeSubscriptionสำหรับซื้อเครื่องดื่มชนิดใดก็ได้ที่ร่วมรายการในราคาแพคเกจสุดพิเศษ ตลอดจนการสะสมพอยท์เพื่อแลกรับส่วนลดเมนูอาหารเครื่องดื่มฟรี หรือสินค้าเอกซ์คลูซิฟ เช่น สิทธิพิเศษล่าสุดสมาชิกสามารถแลกแก้วน้ำ tumbler ฟรีได้ด้วยการใช้ 200 คะแนนผ่านแอปพลิเคชัน THE COFFEE CLUB Thailandเป็นต้นทั้งหมดนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์เพื่อส่งมอบความคุ้มค่าสูงสุดสำหรับผู้บริโภคที่เป็นสมาชิก โดยในปีที่ผ่านมาการทำลอยัลตีโปรแกรมดังกล่าว ช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกในระบบเป็นจำนวน170,000 รายและคาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะสามารถเพิ่มยอดสมาชิกในปี 2567 ได้รวมทั้งสิ้น250,000 ราย

“จากการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าว เดอะ คอฟฟี่ คลับ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจเติบโตเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ทั้งนี้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเมนูใหม่พร้อมการบริการให้ตอบโจทย์อยู่เสมอและมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่เป็นส่วนสำคัญของโลก เพื่อตอกย้ำความเป็น Neighborhood Café สำหรับลูกค้าคนไทยและต่างชาติ ให้ทุกคนสามารถสัมผัสประสบการณ์โมเมนต์ดีๆ ที่มีได้ทุกวัน ทุกโอกาส” นางนงชนก กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) โทรศัพท์ 02-365-6999 เฟซบุ๊กแฟนเพจhttps://www.facebook.com/thecoffeeclubthailandหรือเว็บไซต์https://thecoffeeclub.co.th/