In News

หดหู่! เผาศพโควิดนครปฐมไร้ญาติร่วม



นครปฐม-ไม่มีล่ำลา ไม่มีสั่งเสีย ไม่แม้มาส่งดวงวิญาณพ่อ ลูกชายฝากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เป็นตัวแทนเผาร่างบิดาติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เสียชีวิต เหตุคนในบ้านติดเชื้อกำลังรับการรักษา โดยตัวแทนบอกภูมิใจที่ได้รับภารกิจครั้งนี้ และไม่เคยทำมาก่อน ขณะที่หลวงพี่น้ำฝน บอกว่าน่าหดหู่ใจ แต่ขอให้ทุกคนอดทน อยู่ให้ได้ อยู่ให้เป็น เย็นให้ได้ ตามหลักของพระพุทธเจ้าเรื่องการปลงกับชีวิต 

 วันนี้ 6 พฤษภาคม 64 ที่ฌาปนสถาน วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้นำคณะสงฆ์ประกอบพิธีฌาปนกิจศพกรณีเร่งด่วน ให้กับนายสุระวี ไตรวิชชานันท์ อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเสียชีวิตด้วยการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีอาการปอดอักเสบรุนแรง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 64 ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลมหาชัย 2 จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนำร่างที่บรรจุใส่โลงตามกรรมวิธีด้านสาธารณสุขมาส่งด้วยบรรยากาศเงียบสงบ

โดยเมื่อรถตู้ที่บรรจุโลงศพมาถึงหลวงพี่น้ำฝน ได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในระรอกที่ 3 ที่มีการติดเชื้ออย่างรุนแรงในประเทศไทย ซึ่งก่อนที่จะมีการทำพิธีการทางศาสนา ได้สอบถามหาญาติที่มาร่วมในพิธีเพื่อขอตรวจสอบเอกสารสำคัญ เช่น ใบมรณะบัตร ซึ่งได้ทราบข้อมูลที่น่าสลดใจ เมื่อทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมหาชัย 2 ได้แจ้งกลับมาว่า ไม่มีญาติผู้เสียชีวิตมาร่วมพิธีได้ เพราะทุกคนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และกำลังอยู่ในช่วงของการรักษาตัว และลูกชายผู้ตายได้ฝากให้มาประกอบพิธีส่งดวงวิญญาณของพ่อ แทนทุกคนในครอบครัว ซึ่งหลวงพี่น้ำฝน ได้นิ่งไปสักพัก และเจ้าหน้าที่วัดและคณะสงฆ์ ที่เข้าร่วมพิธี รับฟังทำให้มีจังหวะนิ่งเงียบตามไปพร้อมกัน ก่อนหลวงพี่น้ำฝน จะสั่งการให้มีการดำเนินการตามแผนที่วางไว้ กระทั่งพิธีเสร็จสิ้นภายใน 30 นาที 

ทางด้าน นายพักตร์ บุญตา เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมหาชัย 2  หนึ่งในสี่ของเจ้าหน้าที่ที่ได้มาร่วมพิธี บอกว่า ตนเองและทีมงานได้รับการแจ้งให้มาส่งร่างของนายสุระวี ซึ่งก่อนออกมาได้รับการแจ้งว่าไม่มีญาติมาร่วมงานฌาปนกิจศพที่วัดไผ่ล้อม ซึ่งก่อนที่จะมาได้มีการประสานกับบุตรชายของผู้ตายได้ฝากมาให้ส่งดวงวิญญาณคุณพ่อทดแทนให้ ซึ่งปกติเรื่องแบบนี้ไม่สามารถทำทดแทนกันได้ แต่เมื่อเขาฝากมาก็ยินดีที่จะมารับหน้าที่แทนให้ดีที่สุดและไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และรู้สึกเป็นเกียรติในภารกิจนี้

ด้านพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า เรื่องที่ทราบนี้ถือว่าเป็นความเจ็บปวด ที่ลูกชายฝากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมหาชัย 2 มาทำการเผาศพให้บิดา ซึ่งได้มีการประสานมาโดยการมอบอำนาจให้ทำการแทนให้ กรณีน่าหดหู่เพราะไม่มีการร่ำลา สั่งเสีย และสุดท้ายคือการไม่ได้มาส่งดวงวิญญาณ แต่สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นแล้วในสังคมยุคการแพร่ระบาดขอไวรัสโควิด1-19 สิ่งที่ต้องทำคือทำใจ  คืออยู่ให้ได้ อยู่ให้เป็น เย็นให้ได้ ทำใจให้ได้ และอยู่กับหลักการปลงของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และอะไรมันจะเกิดมันต้องเกิดเราต้องรับมันให้ได้