Authority & Harm
'กัน จอมพลัง'ลุยช่วยหญิงถูกพระดังข่มขู่ แอบถ่ายคลิปประจาน
กาฬสินธุ์-กันจอมพลังลงพื้นที่กาฬสินธุ์ พร้อมประสานงานตำรวจสภ.กุฉินารายณ์ และฝ่ายปกครองลุยช่วยหญิงถูกพระชื่อดังถ่ายคลิปและข่มขู่
เมื่อเวลา 13.30 น วันที่ 31 มีนาคม 2567 กันจอมพลัง หรือนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ลงพื้นที่ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมประสานงานกับ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เมธาพงษ์ บุญศรี ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ ร่วมกับ นายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมอบหมายให้ นายประสงค์ จันทร์กระจ่าง ป้องกัน จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ร่วมกับนายวีรดนย์ ศิริ นายอำเภอกุฉินารายณ์ พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอกุฉินารายณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าติดตามความคืบหน้ากรณีพระสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ แอบมีสัมพันธ์กับหญิงสาววัย 48 ปี แล้วถ่ายคลิปแบล็คเมย์ ส่งภาพโป๊เปลือยตอนมีสัมพันธ์กับหญิงให้คนในครอบครัว และส่งไปหยามใจสามี
นอกจากนี้พระยังมีอาวุธปืน โดยจะใช้ปืนประกอบพิธีลองของโดยจะยิงใส่หลังคนมาร่วมพิธี พระเคยใช้อาวุธปืนตบเข้าที่บริเวณใบหน้าของหญิง และยิงถากไปที่แขน และบังคับให้หญิงบอกเลิกกับสามีถ้าไม่เลิกไม่ยอมมาอยู่ด้วยก็ขู่จะขู่ฆ่า และจะยิงหัวสามี และยังมีพฤติกรรมเสพยา กระทั่งลูกสาวของหญิงส่งเรื่องมาขอความช่วยเหลือกับกันจอมพลัง และแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ. กุฉินารายณ์
จากนั้น กัน จอมพลัง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ได้เข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์พระธาตุภูหินกอง ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ ซึ่งเป็นที่พักของพระ และติดตามตัวพระชัยชนะ ธนชัยภิวัฒนกุล อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ จ 179/2567 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2567 ข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงของคู่ถูกข่มขืนใจหรือของผู้อื่นจนผู้ถูกข่มขืนใจยินยอมโดยมีอาวุธ
โดยจากการตรวจสอบไม่พบตัวของพระรูปดังกล่าวคาดว่าน่าจะหลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้จากการตรวจสอบบริเวณด้านหลังสำนักสงฆ์ดังกล่าว พบแผ่นกระเบื้องที่ใช้เป็นเป้ายิงปืน พบแมกกาซีนและปลอกกระสุน จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บเป็นหลักฐานเพื่อประกอบการดำเนินคดี
กันจอมพลัง หรือนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ กล่าวว่า วันนี้มีน้องผู้หญิงขอความช่วยเหลือมา บอกว่าคุณแม่กับคุณพ่ออยู่ที่ จ.กาฬสินธุ์ มีพระที่มีชื่อเสียงใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ มีลูกศิษย์เป็นถึงระดับผู้ใหญ่ พระมีพฤติกรรมแอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทางแม่ของน้อง ซึ่งทางคุณพ่อก็ไม่รู้ ระหว่างพระและแม่ มีสัมพันธ์กับ 2 ปี โดยระว่างแอบคบกันพระได้ทำร้าย ข่มขู่ และแอบถ่ายคลิประหว่างมีเพศสัมพันธ์เอาไว้จำนวนมากเพื่อแบล็คเมล์ และบอกให้แม่ของน้องเลิกกับพ่อ โดยส่งคลิปอนาจารไปให้กับทางพ่อและคนในครอบครัวดู ซึ่งน้องเขารู้สึกว่ามันหยามใจเกินไปและรู้สึกสงสารพ่อ ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่พระยังลอยหน้าลอยตาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยไม่อยากให้ทำแบบนี้กับใครอีก น้องจึงมาขอความช่วยเหลือให้ติดตามคดีนี้
กันจอมพลัง กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวตนเห็นว่า พระก็ทำไม่ถูก เพราะผิดกฎหมายหลายอย่าง ส่วนแม่ก็ทำผิดศีลธรรม ตนพูดตามความจริง ไม่ได้เข้าข้างใคร แต่น่าเห็นใจคือลูกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่ต้องมารับกรรม ที่ไม่ใช่คนก่อ ตนจึงยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ในส่วนคดีให้ไปตามหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวแล้วและอยู่ระหว่างการนำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำต่อไป
ด้านหญิงวัย 48 ปี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนยอมรับในการทำผิดพลาดพลั้งเผลอผิดศีลธรรมจริยธรรมในช่วงแรก รู้สึกผิด อยากที่จะกลับตัวกลับใจ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะตลอดระยะเวลาที่คบกันกับพระรูปดังกล่าวนั้น ตนพยายามที่จะหยุดความสัมพันธ์ที่เกินเลย แต่ก็ถูกขู่ด้วยปืน และทำร้ายร่างกายบ่อยครั้งถูกบังคับให้ทำเรื่องดังกล่าวจนมาถึงปัจจุบัน จึงได้ปรึกษาทางครอบครัวนำเรื่องไปจะแจ้งความดำเนินคดีกับพระและขอความช่วยเหลือกับกัน จอมพลัง เพราะไม่อยากทำผิดไปมากกว่านี้และไม่อยากให้พระรูปดังกล่าวไปกระทำกับคนอื่นอีก
ขณะที่พ.ต.อ.เมธาพงษ์ บุญศรี ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวผู้เสียหายได้ไปแจ้งความ ที่ สภ.เขาวง พื้นที่ใกล้เคียงในวันที่ 18 มีนาคม 2567 ซึ่งวันนั้น พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาวงพอดี ทางพนักงานสอบสวนได้สอบสวนเบื้องต้นพบว่าที่เกิดเหตุอยู่เขตรับผิดชอบของ สภ.กุฉินารายณ์ ดังนั้น ทางพล.ต.ต.ตรีวิทย์ จึงได้แนะนำ และอำนวยความสะดวกให้มาแจ้งความที่ สภ.กุฉินารายณ์ พร้อมกับกำชับมาที่ตน และสั่งการให้พนักงานสอบสวนสภ.กุฉินารายณ์ รับคำร้องทุกข์ และเร่งสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับในวันที่ 19 มีนาคม 2567 และเข้าตรวจค้นสำนักสงฆ์ และกุฏิในวันที่ 20 มีนาคม 2567 และเร่งจับกุมตัว แต่ปรากฏว่าพระรูปดังกล่าวได้ไหวตัวทัน หลบหนีไป ซึ่งหลังเกิดเหตุทางตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ติดตามตัวมาดำเนินคดี
อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 4 ชุดสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ได้จับกุมตัวพระรูปดังกล่าวได้ในพื้นที่ วัดแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี พร้อมอาวุธปืนและยาเสพติดจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.กุฉินารายณ์