Authority & Harm

จนท.กาญจน์สนธิกำลังจับต่างด้าว73คน หนีเข้าเมืองแฉจ่ายค่าจ้างหัวละ3หมื่น



กาญจนบุรี-ตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี สนธิกำลังตำรวจพื้นที่ทหาร และตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี กก.สส.ภ. 7 ฝ่ายปกครอง จับต่างด้าวเถื่อนรายวัน 73 คน พร้อมคนติดตาม 4 คนและอาวุธปืนเครื่องกระสุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล.,พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.2 บก.ทล. , พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล. ,พ.ต.ต.โจ เสาร์ประโคน สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. 

สั่งการให้ ร.ต.อ.อำนาจ  สีนวล ร.ต.อ.พินัย บุญรัตน์ รอง สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. , ร.ต.ท.กุศล ยะฟั้น รอง สว.(ป.)ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. , ด.ต.สุรศักดิ์ จิตมณีผบ.หมู่ ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. สนธิกำลังร่วมกับตำรวจสภ.ทองผาภูมิ และ ตชด.ที่ 135 กับ ตม.จว.กาญจนบุรี ,กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี , กก.ปพ.บก.สส.ภ.7 ,
ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ค่ายสุรสีห์ , ฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ นำกำลังเข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวจำนวน 73 คน ผู้ติดตามจำนวน 4 คน ภายในสวนยางพารา บ้านขนุนคลี่ ซอย 4  ม.4 ต.ท่าขนุน  อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้อมตรวจยึดของกลาง เป็นรถยนต์กระบะคอกยี่ห้ออีซูซุ รุ่น ดีแม็คสีขาว หมายเลขทะเบียน ฒท.3489 กรุงเทพมหานครฯ จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ รุ่น 110 ไอ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขธก.784 กาญจนบุรี จำนวน 1 คันรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ รุ่น 110 ไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กฉ. 5197 กาญจนบุรี จำนวน 1 คัน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟรุ่น125 ไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน ขงว.139 เพชรบุรี อีก 1 คัน และอาวุธปืนสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ SIGSAUER รุ่น P.320 ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก แม็กกาซีน ขนาด 9 มม. จำนวน 2 อัน กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 22 นัด ( บรรจุอยู่ภายในแม็กาซีน จำนวนแม็กละ 11 นัด )

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้จตั้งจุดสกัดเพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของบุคคลต่างด้าว และป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดในระหว่างออกตรวจไปถึงสวนยางพารา บ้านขนุนคลี่ ซอย 4 ต.ท่าขนุน พบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว และรถจักรยานยนต์อีก 3 คัน
จอดอยู่และเห็นกลุ่มคนลักษณะคล้ายกลุ่มบุคคลต่างด้าวกำลังเดินขึ้นรถยนต์กระบะคอก 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมซึ่งคาดว่า จะเป็นการแอบลักลอบขนบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงกระจายกำลังและได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อทำการเข้าตรวจสอบ แต่กลุ่มคนดังกล่าวได้พบเห็นเจ้าหน้าที่ ก็ได้พยายามที่วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า แต่เจ้าหน้าที่ซึ่งได้กระจายกำลังปิดล้อมไว้แล้วจึงได้ทำการวิ่งติดตามไปในทันที

จึงสามารถควบคุมตัวกลุ่มคนดังกล่าวไว้ได้ทัน แต่ไม่สามารถควบคุมตัวผู้ขับขี่ไว้ได้จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มคนดังกล่าวพบว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 73 คน(เป็นชายจำนวน 55 คน และ หญิงจำนวน 18 คน ) และผู้ติดตาม อีก 4 คน เป็นผู้ชายทั้งหมดเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงขอทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และบัตรประจำตัว แต่ผู้ต้องหาที่ 1 – 73 ไม่สามารถนำมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ 

จากการตรวจสอบพบว่าบุคคลต่างด้าวดังกล่าวไม่สามารถพูดและรับฟังภาษาไทยได้เลย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ประสานล่ามแปลภาษา ทำการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 – 73 แจ้งกับเจ้าที่ชุดจับกุมว่า พวกตนไม่มีเอกสารหรือบัตรประจำตัวใดๆ ทั้งสิ้นและยังไม่เคยได้รับเอกสารประจำตัวใดๆ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเกรงว่าอาจจะมีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ภายในรถคันดังกล่าวอีก จึงได้ทำการตรวจค้นภายในรถและบริเวณรอบข้างอย่างละเอียด 

ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ SIGSAUER รุ่น P320 ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วย แม็กกาซีน จำนวน 2 อัน (บรรจุกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวนแม็กละ 11 นัด) ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องเก็บของด้านข้างเบาะผู้ขับขี่ภายในรถยนต์กระบะคอก

จากการสอบถามบุคคลต่างด้าวผ่านล่าม ให้การว่า รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ กับอาวุธปืนที่ยึดได้นั้น เป็นของขบวนการรับจ้างขนคนเถื่อน สำหรับใช้จักรยานยนต์ 3 คัน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุเป็นรถที่ใช้ทยอยรับบุคคลต่างด้าวที่นั่งเรือมาส่งที่ฝั่งตามแนวชายฝั่งแม่น้ำบ้านขนุนคลี่ 

จากนั้นบุคคลต่างด้าวจะนั่งรถจักรยานยนต์ ทยอยทีละ 3-4 คน ไปลงที่บริเวณภายในสวนยางพาราบ้านขนุนคลี่ ซอย 4 หมู่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อนั่งรถยนต์กระบะพาไปส่งในพื้นที่ชั้นในต่ออีกที 

สำหรับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอาวุธที่ชุดจับกุมยึดมาได้ จะทำการตรวจสอบหาตัวผู้ครอบครอง เพื่อสอบปากคำว่ามีผู้ใดเป็นเจ้าของ และมีส่วนเกี่ยวข้องในการนำพาบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองในครั้งนี้บ้าง และคาดว่าเป็นขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยมีการเตรียมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในลำเลียงบุคคลต่างด้าวจากประเทศเมียนมา โดยมีนายหน้าคนไทยในการติดต่อกับนายหน้าเมียนมาเพื่อลักลอบขนบุคคลต่างด้าว

จาการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1-73 โดยล่ามแปลภาษา ให้การยอมรับว่า พวกตนได้เดินทางหลบหนีเข้าเมืองมาจากประเทศเมียนมา มาตามช่องทางธรรมชาติ บ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี และได้นั่งเรือมากจาก อ.สังขละบุรี จนมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อรอขึ้นรถที่จะเดินทางเข้าไปทำงานในตัวเมืองชั้นใน โดยจะเสียค่าเดินทางให้กับนายหน้าประมาณคนละ 15,000 ถึง 30,000 บาท จะจ่ายก็ต่อเมื่อเดินทางถึงที่หมายได้แล้ว เบื้องต้นทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวให้ทราบว่า กระทำความผิดฐาน (ข้อหา) “เป็นบุคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากนั้นจึงได้คุมตัวคนต่างด้าวทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายเพื่อผลักดันออกนอกประเทศ ส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และอาวุธปืนได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบว่า ใครเป็นเจ้าของจะได้นำตัวมาสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป