In Bangkok
กทม.เสริมความรู้ให้ผู้ควบคุมตรวจอาคาร เล็งติดตั้งเครื่องมือวัดความสั่นสะเทือน
กรุงเทพฯ-นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบความปลอดภัยและการควบคุมดูแลอาคารในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมา สนย.ได้ประสานหน่วยงานในการอบรมให้ความรู้เจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติงานควบคุมและตรวจสอบอาคารอย่างสม่ำเสมอ โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ย.66 สนย.ร่วมกับสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย (สวคท.) จัดสัมมนา “การออกแบบและเสริมกำลังอาคารต้านแผ่นดินไหว” เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการออกแบบอาคาร การเสริมกำลังอาคาร รวมถึงการเสริมกำลังสะพานต้านแผ่นดินไหวให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปปฏิบัติงานตรวจสอบ ควบคุมอาคารให้มีความถูกต้องและประสิทธิภาพต่อไป ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลอาคารที่ออกแบบตามกฎกระทรวงแผ่นดินไหว พบว่า อาคารตามกฎกระทรวงแผ่นไหว ปี 2550 (ปี 2551- 2564) จำนวน 2,887 อาคาร อาคารตามกฎกระทรวงแผ่นดินไหว ปี 2564 (ปี 2565-2566) จำนวน 259 อาคาร รวม 3,146 อาคาร และอาคารก่อนกฎกระทรวงแผ่นดินไหว (ปี 2531-2550) จำนวน 11,482 อาคาร (อาคารตั้งแต่ 6 ชั้นขึ้นไป)
นอกจากนี้ สนย.ได้จัดทำโครงการงานจ้างที่ปรึกษาประเมินกำลังต้านทานแรงแผ่นดินไหวอาคารสูงในสังกัด กทม. โดยจะดำเนินการติดตั้งชุดเครื่องมือวัดความสั่นสะเทือนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดทำรายงานประเมินกำลังต้านทานแรงแผ่นดินไหวของอาคารสูงในสังกัด กทม. ตามกฎกระทรวง กำหนดการรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคาร และพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ. 2564 และจัดทำรายงานการตรวจวัดระดับการสั่นสะเทือนของพื้นอาคารสูงในสังกัด กทม. ในรูปแบบของความเร่งและแสดงค่าระดับความเร่งของพื้นแต่ละทิศทาง รวมถึงระบบแสดงค่าความเร่งสูงสุดของพื้นในแต่ละช่วงเวลาในรูปแบบของระบบออนไลน์ โดยระบบสามารถแจ้งเตือนผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทันที กำหนดสถานที่ดำเนินการ ได้แก่ อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง อาคาร 72 พรรษา โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ อาคารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โรงพยาบาลตากสิน อาคารธนบุรีศรีมหาสมุทร โรงพยาบาลตากสิน อาคารเพชรรัตน์ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และอาคารคณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการขออนุมัติจัดสรรงบประมาณ คาดว่า จะได้รับงบประมาณภายในเดือน พ.ค.67 และเริ่มกระบวนการจัดจ้างได้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.นี้