Authority & Harm
ทหารสนธิกำลังจับกุมกระเทียมแห้ง5ตัน ลักลอบนำเข้าทางเรือจากฝั่งสปป.ลาว
มุกดาหาร- กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี สนธิกำลังหน่วยความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร จับกุมกระเทียมแห้งลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 274 กระสอบ น้ำหนัก 5,480 กิโลกรัม พร้อมด้วยเรือกีบ และเครื่องยนต์ 1 ลำ ด้านภรรยาผู้สูญหาย (นายลำพอง สมทิจัก) เข้าแจ้งความ
ที่ สภ.เมืองมุกดาหาร ให้ตามหาสามีจมน้ำหาย จากกรณีจับกระเทียมแห้งในลำน้ำโขง 25 04 67 พ.อ.กัญญณัต ไชยโอชะ รอง เสธ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี พร้อมด้วย เฉพาะกิจพญานาคราช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , ร้อยทหารพรานที่ 2105 ,ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ,ด่านศุลกากรมุกดาหาร, ด่านตรวจพืช , ด่านกักกันสัตว์, ร้อย ตชด.234 , ฝ่ายปกครอง, สถานีเรือมุกดาหารและ ตำรวจน้ำ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมกระเทียมแห้งลักลอบน้ำจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 274 กระสอบ น้ำหนัก 5,480 กิโลกรัม เรือกีบพร้อมเครื่องยนต์ 1 ลำ
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 24 เมษายน 67 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.นรธิป โพยนอก ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี ,พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย ผบ.บก.ควบคุมที่ 1 ( ร.3 ) กกล.สุรศักดิ์มนตรี ,พ.อ.กัญญณัต ไชยโอชะ รอง เสธ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี, พ.อ.ศรณัฐ นวลมณี รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 1 ( ร.3 ) ( รอง 1 ) กกล.สุรศักดิ์มนตรี มอบหมายให้ ร้อย.ร. บก.ควบคุมที่ ๑ กกล.สุรศักดิ์มนตรี (ร.๓) โดยชุดตรวจยึดประกอบด้วย ร.อ.อนุพงษ์ พรหมส่วน ผบ.ร้อยร. บก.ควบคุมที่ ๑ กกล.สุรศักดิ์มนตรี พร้อมด้วยหน่วยงานความมั่นคง และหน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ ได้ร่วมกันตรวจยึดสินค้าหลบเลี่ยงภาษี (กระเทียมแห้ง) จำนวนจำนวน 274 กระสอบ น้ำหนัก 5,480 กิโลกรัม
ด้วยกองร้อยทหารราบ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งจาก ชปข.5 ว่าจะมีการลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษี(กระเทียมแห้ง)ข้ามมายังฝั่งประเทศไทย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง หมู่ 1 บ.บางทรายใหญ่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร ร้อย.ร.กกล.ฯ ได้จัดกำลังพล ร่วมกับกรมประมง ออกซุ่มบริเวณพื้นที่ที่ได้รับแจ้งดังกล่าว
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบ เรือต้องสงสัยจำนวน 1 ลำ แล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว ข้ามมายังฝั่งประเทศไทย จุดตรวจการณ์จึงแจ้งไปยัง เรือตรวจประมงน้ำจืดน้ำอุ่น 12 เข้าตรวจสอบเรือดังกล่าว ตรวจพบเรือต้องสงสัยบรรทุกสินค้าหนีภาษี (กระเทียมแห้ง ) บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงดังกล่าว จากนั้น เรือลำดังกล่าวเห็น เรือตรวจประมงน้ำจืดน้ำอุ่น 12 จึงได้แล่นออกจากฝั่งประเทศไทยระยะห่างจากฝั่งประมาณ 30 เมตร กำลังจะแล่นข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว เรือตรวจประมงน้ำจืดน้ำอน 12 ประกบเรือสินค้าฯ พร้อมแสดงตัวว่าเป็น เจ้าหน้าที่ และส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปยังเรือบรรทุกสินค้า เพื่อควบคุมสถานการณ์ บนเรือพบผู้ควบคุมเรือ จำนวน 1 คน เป็นคนขับเรือ ได้พยายามขัดขวางต่อสู้กับเจ้าหน้าที่
จากนั้นได้มีกลุ่มคนประมาณ 15-20 คน นำเรือติดเครื่องยนต์ จำนวน 2 ลำ เข้ามาประกบเรือสินค้าผิดกฎหมาย ( กระเทียม ) และทำการชนเรือตรวจประมงน้ำจืดน้ำอูน 12 เพื่อที่จะผลักดันเรือสินค้าผิดกฎหมาย ( กระเทียม ) ข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ( สปป.ลาว ) และพยายามจะพาผู้ควบคุมเรือกระเทียมหลบหนีการจับกุม อีกทั้งพยายามจะนำเรือกระเทียมของกลางหลบหนีการจับกุมตรวจยึดของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากขณะนั้นเจ้าหน้าที่มีจำนวนน้อย อีกทั้งเกรงจะเกิดอันตราย อีกทั้งเรือตรวจประมงน้ำจืดน้ำอุน 12 ได้รับความเสียหาย จึงทำให้ผู้กระทำความผิดหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสินค้าในเรือพบเป็นกระเทียมแห้ง จำนวน 274 กระสอบ ประมาณน้ำหนัก 5,480 กิโลกรัม ตรวจค้นเพิ่มเติมภายในเรือลำดังกล่าว พบกระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ ข้างในกระเป๋ามีบัตรประจำตัว ทราบชื่อ ท้าวสีโสพา ขุขาวัง เลขที่ GPS 8031357059 คาคว่าน่าจะเป็น ของคนขับเรือ พร้อมกับมี จีพีเอส 2 เครื่อง และวิทยุสื่อสารจำนวน 1 เครื่อง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งด่านศุลกากรมุกดาหาร เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ด้าน นางเดือน สีสะหว่าง อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 097 บ้านจอมแก้ว เมืองนะคอนไกสอนพมวิหาน สะหวันนะเขต ภรรยาผู้สูญหายและเป็นคนขับเรือกีบบรรทุกกระเทียมแห้ง บอกว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 เวลา 22.00 น. เพื่อนของนายลำพอง สมทิจัก สามี ซึ่งเป็นคนลาว และมาทำงานรับจ้างอยู่กับนายจ้างที่แขวงสะหวันนะเขต ได้โทรศัพท์ไปบอกว่า นายลำพองฯ สามี ตกจากเรือขนสินค้าที่บริเวณกลางแม่น้ำดขง ยังไม่พบศพ วันนี้ได้ข้ามมาที่มุกดาหาร และมาพบตำรวจ เพื่อให้ช่วยติดตามหาศพนายลำพองฯ ผู้เป็นสามี ..
จากการสอบถาม นายอดิศร สุพร ผู้เห็นเหตุการณ์ อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 234 หมู่ 1 บ้านบางทรายใหญ่ ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เล่าว่า ตนเองได้นั่งเล่นกับเพื่อน ๆ อยู่ริมโขง ได้รับโทรศัพท์ จากนายจอก ซึ่งเป็นคนเรือสินค้า บอกว่าให้มาช่วยอยู่กลางแม่น้ำโขง ตนเองพร้อมเพื่อนได้ขับเรือออกๆไปช่วย พอไปถึงเห็นเจ้าหน้าที่กำลังคุยกับท้าวกระจ๋อง และทำร้ายร่างกาย และเห็นใช้เท้าถีบตกเรือ ตนเองได้กระโดดลงน้ำลงไปช่วย เขามาคนเดียวและได้คุยกับเจ้าหน้าที่ว่าทำเกินไป มีการทะเลาะวิวาทอย่างหนัก ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเอาเพื่อกลับได้ไหม ไม่คุยด้วย ได้ทำร้ายร่างกายเพื่อนอย่างเดียว มีเจ้าหน้าที่อยู่ในเรือ 3 คน และอีก 1 คนได้เข้ามาในเรือสินค้า เห็นเจ้าหน้าที่ถีบเพื่อนลงน้ำ ตนเองได้ยื่นมือให้เพื่อนจับ แต่เพื่อนจับไม่ถึง แล้วก็จมหายไปในน้ำโขงต่อหน้า วันนี้ได้มาเรียกร้อง ขอให้เจ้าหน้าที่ทำให้ถูก ทำเกินำป คนเหมือนกัน ทำเกินกว่าเหตุ ชีวิตคนคนหนึ่ง และได้พากันค้นหาทั้งคืนก็ยังไม่เจอ ...
อนุศักดิ์ - เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร