Travel Sport & Soft Power
กาฬสินธุ์จัดงานเทศกาลวิสาขปุณณมีปูชา เมืองฟ้าแดดสงยางบูมการท่องเที่ยว
กาฬสินธุ์-หลายภาคส่วนในจังหวัดกาฬสินธุ์ เตรียมความพร้อมจัดงานเทศกาล "วิสาขปุณณมีปูชา" ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 22-26 พฤษภาคม 2567 ที่โบราณสถานพระธาตุยาคู เมืองฟ้าแดดสงยาง
วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ที่บริเวณโบราณสถานพระธาตุยาคู เมืองฟ้าแดดสงยาง ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นางสาวอ้อมอารีย์ ยี่วาศรี นายอำเภอนามน จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายปิยะพงษ์ สมโคตร ปลัดอาวุโส พร้อมด้วย น.ส.นันทนา สร้อยเสนา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตร อ.นามน และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.สงเปลือย ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซม “เฮือนนามน” สำหรับจัดงานเทศกาล "วิสาขปุณณมีปูชา" ประจำปี 2567
น.ส.นันทนา สร้อยเสนา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตร อ.นามน กล่าวว่า ตามที่ จ.กาฬสินธุ์ และทุกภาคส่วน กำหนดจัดงาน "วิสาขปุณณมีปูชา" หรือวันวิสาขบูชา ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 22-26 พ.ค.67 ที่จะถึงนี้ ที่บริเวณโบราณสถานพระธาตุยาคู เมืองฟ้าแดดสงยาง ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา จ.กาฬสินธุ์ได้ร่วมกับหลายภาคส่วน เช่น ฝ่ายปกครอง 18 อำเภอ และส่วนราชการต่างๆ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมประกอบหลายกิจกรรม เช่น ทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม จำหน่ายสินค้าภาคการเกษตร สินค้าพื้นเมืองและสินค้าโอทอป ทั้งนี้ เพื่อต่อยอดบวรพระพุทธศาสนา สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษกิจชุมชน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านและผู้ประกอบการด้วย
“ในส่วนของการปรับปรุงซ่อมแซมเฮือนนามนดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมภายในงาน ซึ่งได้กำหนดเป็นโซนนิ่งเมืองโบราณ หรือการจำลองเป็นเมืองโบราณร่วมสมัยกับเมืองฟ้าแดดสงยาง ในยุคทวารวดีของทั้ง 18 อำเภอในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเป็นเรือนไม้ทรงไทยโบราณชั้นเดียว ใต้ถุนยกสูง มีการของของดีหรือผลิตภัณฑ์ของแต่ละอำเภอมาจัดแสดงและจำหน่ายด้วย ดังนั้น ในช่วงการจัดงานวิสาขปุณณมีปูชา หรือวันวิสาขบูชา ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 22-26 พ.ค.67 ที่จะถึงนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว มาร่วมทำบุญและเลือกซื้อสินค้าภายในงาน โดยเลือกชมสินค้า เช็คอิน ถ่ายภาพ อุดหนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผืนผ้าพื้นเมือง ผ้าแปรรูป เครื่องจักสาน อาหารแปรรูป ที่เฮือนนามนอย่างพร้อมเพรียงกัน” น.ส.นันทนากล่าว
สำหรับพระธาตุยาคู เมืองฟ้าแดดสงยาง เป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดี ที่เคยเจริญรุ่งเรืองเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 12-16 นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงโบราณคดี มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของภาคอีสานแล้ว ยังเป็นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสักการะกราบไหว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางจังหวัดได้กำหนดจัดงานใหญ่เป็นงานประจำทุกปี โดยเฉพาะในช่วงวันสำคัญทางศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา โดยจัดงานวิสาขปุณณมีปูชา รวมทั้งวันเข้าพรรษา วันออกพรรษา และเป็นสถานที่สวดมนต์ข้ามปีอีกด้วย