Travel Sport & Soft Power

เปิดกรุ!สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกาฬสินธุ์ 'ตะไลไม้ไผ่สู่ตำนานบั้งไฟตะไลล้าน'



กาฬสินธุ์-ชาวตำบลกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น จัดแข่งขันบั้งไฟตะไลที่ทำจากบั้งไม้ไผ่ชิงถ้วยรางวัล ถือเป็นการโหมโรงก่อนเปิดงานประเพณีวัฒนธรรมผู้ไทบุญบั้งไฟตะไลล้าน หนึ่งเดียวในโลก

วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ที่บริเวณลานจุดบั้งไฟตะไลล้าน บ้านกุดหว้า ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านกุดหว้า และหมู่บ้านใกล้เคียงได้รวมตัวกันจัดแข่งขันบั้งไฟตะไลไม้ไผ่ โหมโรงก่อนพิธีเปิดงานประเพณีวัฒนธรรมผู้ไทบุญบั้งไฟตะไลล้านหนึ่งเดียวในโลกวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 เพื่อสืบสานภูมิปัญญาของท้องถิ่น โดยการนำวัสดุจากธรรมชาติด้วยการคัดสรรไม้ไผ่ที่มีความคงทนแข็งแรง มีเนื้อไม้หนา สามารถทนต่อความร้อนจากการเผาไหม้ของดินประสิวหรือดินปืน ที่นำมาบรรจุใส่บั้งไม้ไผ่ ในการผลิตเป็นบั้งไฟตะไลไม้ไผ่ ที่เป็นต้นแบบของการผลิตบั้งไฟตะไลล้าน จนทำให้ชื่อเสียงของงานประเพณีวัฒนธรรมผู้ไทบุญบั้งไฟตะไลล้าน ที่มีอยู่หนึ่งเดียวในโลก ของบ้านกุดหว้า ดังไปทั่วโลกที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติต่างก็อยากมาสัมผัสบรรยากาศงานประเพณีท้องถิ่นในช่วงก่อนฤดูฝน เพื่อบูชาพญาแถนตามความเชื่อของคนอีสาน

นายธนพล บุญศรี อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 304 หมู่ 8 ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเป็นชาวบ้านกุดหว้าโดยกำเนิด ได้เห็น ได้สัมผัสกรรมวิธีการทำบั้งไฟตะไลไม้ไผ่ โดยการคัดสรรไม้ไผ่ที่มีความคงทน แข็งแรง มีเนื้อที่หนา สามารถทนความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้ของดินประสิวหรือดินปืน ซึ่งวันนี้มีการจุดบั้งไฟ เพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บริเวณฐานจุดบั้งไฟตะไลล้าน เพื่อเป็นการบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ให้การจัดงานมีความราบรื่น ไม่เกิดอุบัติเหตุในระหว่างการจุดบั้งไฟที่คาดไม่ถึง พร้อมกันนี้ ยังมีการแข่งขันบั้งไฟที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเพื่อเป็นการอนุรักษ์รักษาภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น ที่ได้คิดค้นวิธีการทำตะไลจากภูมิปัญญา จนต่อยอดพัฒนาเป็นบั้งไฟตะไลล้าน ตะไลสิบล้านในปัจจุบัน

โดยกรรมวิธีการทำคือ นำไม้ไผ่ไปเผาให้ยางไม้ระเหยออก จนมีสภาพที่แห้ง มีความทนทานต่อความร้อน จากนั้นได้นำดินประสิวหรือดินปืนอัดแน่นเข้าไป ตนมีความภาคภูมิใจที่ประเพณีบั้งไฟตะไลล้านโด่งดังไปทั่วโลก สร้างความสนุกสนานความสามัคคีในชุมชน มีการรวมตัวกันของแต่ละชุมชนทำบั้งไฟขึ้นมา เพื่อขอฝนบอกกล่าวพญาแถนตามความเชื่อของคนอีสาน

ด้านนายแสวง อุทรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลกุดหว้า กล่าวว่า นี่คือบั้งไฟที่ทำจากไม้ไผ่ที่มีขนาดเล็ก ด้วยการนำวัสดุธรรมชาติมาผลิตเป็นบั้งไฟเพื่อรักษาภูมิปัญญาของท้องถิ่น ทางเทศบาลตำบลกุดหว้าเห็นความสำคัญของการสืบสานการผลิตบั้งไฟที่ทำจากไม้ไผ่ เป็นการรักษาไว้ให้เยาวชนได้รู้ได้เห็นว่า ก่อนที่จะมีบั้งไฟตะไลล้านในยุคปัจจุบันนี้ เราเคยผลิตหรือทำบั้งไฟจากอะไรมาก่อน โดยการคิดค้นของคนในท้องถิ่น ต่อยอดพัฒนาให้ใหญ่ยิ่งขึ้น มีความยาวมากขึ้น วัสดุที่เคยทำจากไม้ไผ่ไม่มีความคงทนแข็งแรง จึงไม่ต้านทานความร้อนจากดินประสิวที่มีปริมาณมาก จึงได้พัฒนาเป็นท่อพีวีซีหรือท่อเหล็ก เวลาที่อัดบรรจุดินประสิวเข้าไปแล้วทำให้ทนทานความร้อนได้ดี ซึ่งปีนี้งานประเพณีวัฒนธรรมผู้ไทบุญบั้งไฟตะไลล้าน ได้จัดเตรียมงานไว้อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 15 – 19 พฤษภาคม 2567  เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมความเป็นอัตลักษณ์ชองชาติพันธุ์ผู้ไท ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ซึ่งจะมีพิธีเปิดวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 นี้

 จึงขอเรียนเชิญทุกท่านเข้ามาสัมผัสงานบั้งไฟตะไลล้านที่มีอยู่หนึ่งเดียวในโลกและเพื่อรักษาประเพณีอีสานคือการจุดบั้งไฟขอฝนบูชาพญาแถนสืบสานประเพณีของคนไทยอีสานร่วมกันต่อไป