In News

นายกฯเยือนโรมวันแรกพบบ.เอกชน5ราย ต่อยอดผลิตภัณฑ์การเกษตรและแฟชั่น



กรุงเทพฯ-​นายกฯ สัมภาษณ์กำหนดการที่โรม วันแรก พร้อมพบเอกชนสำคัญ 5 ราย เชื่อมั่นจะต่อยอดความร่วมมือได้อีกมากและยังได้ประกาศผลสำเร็จ 2 ประการ เรียนรู้เพื่อเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์การเกษตร และความร่วมมือเพื่อสร้างแรงบันดาลใจด้าน Fashion ส่งเสริม Soft Power Thailand

เมื่อ 19 พฤษภาคม 2567เวลา 17.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองมิลาน ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เกี่ยวกับภารกิจในวันแรกที่โรม (20 พฤษภาคม 2567) ซึ่งนายกฯ จะพบหารือกับเอกชนรายสำคัญของโรม เป็นกำหนดการที่รัฐบาล โดย BOI และกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมพิจารณาเห็นว่าเป็นประโยชน์กับความร่วมมือด้านการลงทุนกับไทย โดยมี 1) บริษัท Leonardo ซึ่งเป็นผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ และปัจจุบันมีการทำงานร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2) Generali บริษัทเกี่ยวกับการทำประกันภัยครบวงจร ซึ่งมีความสนใจขยายธุรกิจในไทย 3) Eni บริษัทด้านน้ำมันและก๊าซ ซึ่งสนใจทำเรื่อง Biofuel โดยใช้ผลิตภัณฑ์จากยางพารา 4) Barilla บริษัททำเส้นพาสต้าที่ใหญ่ที่สุดบริษัทหนึ่ง ซึ่งต้องการมีความร่วมมือกับไทย เพราะไทยมีผลิตภัณฑ์เกษตร อาหารสำเร็จรูป ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกรไทยได้อีกรูปแบบหนึ่ง และ 5) Ducati บริษัทผลิต Big Bike โดยบริษัทมี Show room ในไทยอยู่แล้ว และต้องการทราบข้อเสนอการลงทุนจาก BOI

ประกาศผลสำเร็จ2ประการ เรียนรู้เพื่อเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์การเกษตร 

เวลา 17.40 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองมิลาน ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เกี่ยวกับบทสรุปของภารกิจที่มิลาน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ตอนเช้าได้พบผู้บริหารการเงินธนาคาร นาย Nicola Doninelli ของธนาคาร Intesa Sanpaolo ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านไฟแนนซ์ ได้พูดเมื่อเช้าเรื่องความเป็นไปได้ในการสนับสนุนทางด้านการเงิน ทั้งโครงการก่อสร้างสุวรรณภูมิของไทย ได้แก่ที่ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง อีกประเด็นคือ เรื่องคือ Green Bond เรื่องหุ้นกู้สีเขียว ซึ่งมีการหารือมานานแล้ว คาดว่าจะสำเร็จประมาณเดือนกรกฎาคม 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

หลังจากนั้นได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สมาคมการออกแบบอุตสาหกรรม (Association of Design Industry Museum: ADI) ซึ่งเคยไปจัดนิทรรศการในต่างประเทศ และล่าสุดจัดนิทรรศการที่ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเสนอให้ ADI พิจารณาจัดนิทรรศการที่ไทย และในทางกลับกัน มิลานเป็นศูนย์กลางของการออกแบบ ให้ความหวัง และแรงบันดาลใจแก่นักออกแบบรุ่นใหม่ จึงได้พูดคุยความเป็นไปได้ที่จะให้นักออกแบบรุ่นใหม่ของไทยมาจัดแสดงนิทรรศการที่มิลาน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี 

และบ่ายวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ไปดู Formula 1 ที่สนามแข่ง Autodromo Enzo e Dino Ferrari เมืองโบโลญญา สนามแข่งที่มีนักแข่งในตำนานเสียชีวิตที่นี่ครบ 30 ปี ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า Formula 1 เป็นการแข่งรถที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในซีรีส์กีฬาประจำปีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เรื่องการแข่งขันที่ประเทศไทยในการพูดคุยวันนี้ ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นคิดว่าจะได้ประกาศข่าวดีต่อไป 

โดยสรุปการเยือนเมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ในครั้งนี้ ได้ผลลัพธ์สำคัญ 2 ประการ ได้แก่ 1) การใช้เกษตรแปรรูป ถือเป็นความหวังในหลายๆ ปัจจัย ซึ่งต้องศึกษาการแปรรูปเกษตรซึ่งใช้นวัตกรรมสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมโหฬาร ซึ่งต้องทำงานร่วมกัน ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกรไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มรายให้ได้เกษตรกร 3 เท่าภายใน 4 ปี และ 2) การสร้างแรงบันดาลใจ ด้านการออกแบบ ซึ่งสาธารณรัฐอิตาลี โดยเฉพาะเมืองมิลาน เป็นต้นแบบเรื่องการออกแบบ มีโรงเรียน มีบริษัท Fashion House ใหญ่ ๆ ซึ่งเราต้องการให้เขามาทำปฏิรูปผลิตภัณฑ์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลิตสินค้าของคนไทย รวมถึงผ้าย้อมคราม ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงอุปถัมภ์ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้พบหารือกับหลายบริษัท เช่น Zegna ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลอยากทำต่อไป และประสบความสำเร็จ