In News
'นลินี'ร่วมวงรมต.การค้าAPECให้แนวทาง ขับเคลื่อนAPECจสู่การจัดทำ'FTAAP'
กรุงเทพฯ-ดร. นลินี ทวีสิน ร่วมวงรัฐมนตรีการค้า APEC ให้แนวทางขับเคลื่อน APEC จากความร่วมมือทางเศรษฐกิจสู่การจัดทำเขตการค้าเสรี “FTAAP” ใหญ่ที่สุดในโลก
วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ดร. นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย ร่วมวงรัฐมนตรีการค้า APEC ให้แนวทางขับเคลื่อน APEC จากความร่วมมือทางเศรษฐกิจสู่การจัดทำเขตการค้าเสรี “FTAAP” ใหญ่ที่สุดในโลก ย้ำไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับการดำเนินการเพื่อมุ่งไปสู่การบรรลุผลการเจรจา FTAAP บ่ายหารือประเด็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการค้าที่ครอบคลุม ชูการค้าออนไลน์จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ให้แก่ผู้ประกอบการ MSME หารือสองฝ่ายกับรัฐมนตรีการค้าแคนาดา ชวนลงทุนอุตสาหกรรมสะอาดและสนับสนุน Soft Power ไทย
ดร. นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า ตนและรัฐมนตรีการค้าเอเปคได้ร่วมถกเพื่อหาแนวทางในการขับเคลื่อน APEC จากความร่วมมือทางเศรษฐกิจไปสู่การจัดทำเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAPP) ซึ่งตั้งเป้าหมายให้เจรจาแล้วเสร็จภายในปี 2040 หากสำเร็จจะกลายเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีประชากรรวมกันถึง 2,900 ล้านคน คิดเป็น 38% ของประชากรโลก โดยที่ประชุมได้มีการหารือในหลายประเด็น เช่น การกำหนดประเด็นสำคัญที่ควรจะบรรจุไว้ใน FTAPP อาทิ การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ สิ่งแวดล้อม ตลอดจนประเด็นด้านแรงงานและสิทธิมนุษยชน รวมถึงยังได้มีการหารือถึงแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของ FTAPP ในการทำให้เกิดสภาพแวดล้อมทางการค้าและการลงทุนที่เสรี เปิดกว้าง เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ โปร่งใส่ ครอบคลุม และคาดการณ์ได้ โดยตนได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่าไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับการดำเนินการเพื่อมุ่งไปสู่การบรรลุผลการเจรจา FTAAP นอกจากนี้ ไทยยังตระหนักถึงความสำคัญของการเสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่เขตเศรษฐกิจ เพื่อรองรับกับสถานการณ์ใหม่ๆที่เกิดขึ้น อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ความเท่าเทียมทางเพศ และโรคติดต่อใหม่ ๆ
ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีการค้า APEC ยังได้มีการหารือในประเด็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการค้าที่ครอบคลุม โดยที่ประชุมได้เห็นพ้องว่านโยบายการค้าและการลงทุนจะต้องให้ความสำคัญกับความครอบคลุม โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็งให้กับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) เพื่อทำให้มั่นใจว่าประโยชน์ของการค้าและการลงทุนจะขยายไปสู่ประชาชนทุกคน โดยตนได้เน้นย้ำว่า การค้าออนไลน์จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ให้แก่ผู้ประกอบการ MSME สามารถขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ช่วยสร้างงานและสร้างรายได้ โดยในระยะยาว เมื่อผู้ประกอบการมีความมั่นคงและยั่งยืนจะสามารถเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจในระบบได้ต่อไป
ผู้แทนการค้าไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันเดียวกัน ตนยังได้มีโอกาสหารือกับรัฐมนตรีว่าการการะทรวงการส่งเสริมการส่งออก การค้าระหว่างประเทศ และการพัฒนาทางเศรษฐกิจของแคนาดา (Mary Ng) โดยตนได้เชิญชวนนักลงทุนแคนาดาเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสะอาด ตลอดจนหารือถึงการสนับสนุน Soft power ของไทย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือ มวยไทย