Authority & Harm

รับเหมา7ชั่วโคตรฉาวอีกเขื่อนป้องกันตลิ่ง ลำน้ำพานดินทรุดพังสูญ13ล้านบาท



กาฬสินธุ์-ด่วน ! 7 ชั่วโคตร ทิ้งงานพ่นพิษ ประจานชัด เขื่อนป้องกันตลิ่งลำน้ำพาน ฝนกระหน่ำหน้าดินทรุดพังเสียหายยับ 13 ล้านบาทละลายไปกับสายน้ำ ชาวบ้านระทมทุกข์เสียดายภาษี จี้ กรมโยธาฯ ส่งเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานถึงจะเป็นผู้รับเหมาทิ้งงาน แต่ก็ต้องตรวจสอบว่างวดงานที่เบิกคุ้มค่าตรงตามสเป๊กจริงหรือไม่และจะจ่ายค่าเสียหายจากเหตุก่อสร้างนี้อย่างไร เย้ย ที่ยังไม่ลงพื้นที่หรือจะรอให้น้ำท่วมดูดกลืนละลายงบประมาณแผ่นดินไปก่อน

ปัญหาการก่อสร้าง 8 โครงการ 7 ชั่วโคตร งบประมาณรวม 545,104,600 บาท ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งจัดมาลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ให้เจริญก้าวหน้าตามศักยภาพ เริ่มมาตั้งแต่ปี 2562-64 มีผู้รับจ้าง 2 รายเครือข่ายเดียวกันประกอบด้วย หจก.ประชาพัฒน์ ได้งาน 2 โครงการ และ หจก.เฮงนำกิจ ได้งาน 6 โครงการ  พบมีการเบิกจ่ายสูงถึง 252,918,400 บาท แต่ก่อสร้างไม่เสร็จแม้แต่โครงการเดียว ขณะที่ปัญหาเก่ายังไม่ได้รับการสะสาง มีเพียงความคืบหน้าในส่วนของการยกเลิก 6 โครงการ ยังเหลืออีก 2 โครงการ มีรายงานว่า หจก.ที่ทิ้งงานดังกล่าว ยังไปได้งานของ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม อีก 2 โครงการ ก่อสร้างถนนที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ งบประมาณ 34 ล้านบาท ทำให้ชาวบ้านที่รู้ข่าวหวาดผวาว่าจะเป็นการเปิดโครงการ 7 ชั่วโคตรภาค 2 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัญหา 7 ชั่วโคตร เป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กันไม่จบไม่สิ้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง 2 รับเหมาขาใหญ่ ทิ้งงาน ก่อสร้างโครงการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ ทางระบายน้ำ อาคารชลศาสตร์ ยอดเงิน 148 ล้านบาท มีความสามารถเบิกเงินไปกว่า 80 ล้านบาท ทั้งที่สร้างไม่เสร็จ และดูเหมือนว่าจะไม่คุ้มกับเม็ดเงินที่มีการเบิกจ่ายกันไป เครือข่ายภาคประชาสังคม-ชาวบ้าน ร่วมกันลุยตรวจสอบ สอบ ผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์  เพื่อขอดูการเบิกจ่ายตามงวดงาน ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน กลายเป็นเรื่องมหากาพย์ ทุจริต มีการยกเลิกสัญญา แต่ขบวนการเอาผิดกลับดูเชื่องช้าเหมือนกับจะปล่อยให้พื้นที่การก่อสร้างเสียหายก่อนจึงจะลงมาตรวจสอบหรือไม่ เนื่องจากพื้นที่การก่อสร้างทั้งหมด ด้วยชื่อ โครงการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์เพื่อป้องกันน้ำท่วม ทุกโครงการจึงเกี่ยวข้องกับน้ำ เริ่มตั้งแต่ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ 5 โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมเมือง และ อ.ฆ้องชัย อ.กมลาไสย อีก 3 โครงการ ติด ลำน้ำพาน ลำน้ำปาว และแม่น้ำชี เมื่อการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จก็ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาน้ำหลากรุนแรงที่จะพัดเอาวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างสลายไปกับกระแสน้ำ

จากการติดตามตรวจสอบงานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งลำน้ำพานงบ 44,490,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เบิกจ่ายไปแล้ว 13,737,500 บาท กรมโยธาฯยกเลิกสัญญาไปแล้ว พบว่าสภาพหน้างานก่อสร้างตลิ่งที่ทำเอาไว้สวยงาม เริ่มพังทลายเป็นทางยาวตั้งแต่หัวโครงการจนไปถึงท้ายโครงการ เสาเข็มที่ตอกเอาไว้เริ่มขยับสั่นคลอน และคาดว่าปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่อีกไม่นานเขตก่อสร้างพื้นที่บริเวณนี้ก็จะถูกกระแสน้ำดูดกลืนหายไปและก็จะทำให้เงินจำนวน 13,737,500 บาท ภาษีของประชาชนละลายน้ำหายไปด้วย ชาวบ้านได้แต่เรียกร้องเร่งเร้าให้ กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งส่งทีมงานลงพื้นที่เพื่อติดตามตรวจสอบด้วย

นายดวง ฉายอำไพ ชาวบ้านวังยูง ต.ลำพาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการขณะนี้ก็คือการลงมาบันทึกหลักฐานโดย กรรมการตรวจสอบของกรมโยธาธิการฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อบันทึกสภาพความเสียหายเพราะขณะนี้น้ำยังไม่ท่วม เจ้าหน้าที่จะสามารถดูหน้างานได้และจะได้รู้ว่า การเบิกจ่ายเงินเป็นไปตามจริงหรือไม่ แต่เมื่อน้ำท่วม ตนเกรงว่าจะกลายเป็นข้ออ้างให้กับ ผู้รับจ้าง ว่าน้ำท่วมพัดหายไปหมดแล้ว กรณีนี้ทำให้ชาวบ้านทุกคนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม กับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ต้องดูแลงบประมาณ ขอย้ำว่า งบประมาณนั้นคือเงินภาษีของประชาชน ควรที่จะลงมาติดตามปัญหาโดยเร็ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา อยู่ในสถานการณ์ผู้รับเหมาทิ้งงาน ตนและชาวบ้าน เฝ้าคอยการแก้ปัญหาของกรมโยธาฯ กระทรวงมหาดไทย ในการออกมาตรการดำเนินการกับผู้รับเหมาทิ้งงาน แต่ยังไม่มีความชัดเจนอะไร นอกจากแจ้งว่ายกเลิก 6 โครงการเหลืออีก 2 โครงการ ซึ่งอยู่ในระหว่างพิจารณายกเลิก ล่าสุดเห็นกลุ่มแรงงานมาขนย้ายอุปกรณ์การก่อสร้างออกจากพื้นที่ สาเหตุผู้รับเหมาขาใหญ่ไม่ยอมจ่ายค่าจ้างแรงงาน ก็ได้ยินกลุ่มแรงงานพูดกันว่า คงจะมีการรวบรวมรายชื่อและรวมตัวกันไปแจ้งความเอาผิดกับผู้รับเหมาขาใหญ่ฐานฉ้อโกงแรงงาน

”สิ่งที่ตนและชาวบ้านเคยกังวล ว่าการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งลำน้ำพาน หลังตลาดปากพาน เทศบาลตำบลลำพานและหลังวัดป่าแดนนาบุญจะเกิดความเสียหาย และสูญเสียงบประมาณเปล่าประโยชน์ เพราะผู้รับเหมาทิ้งงาน ก็เป็นความจริงแล้ว หลังมีฝนตกลงมาทำให้น้ำฝนไหลชะล้างหน้าดิน จนพังทลายเป็นแถบ ซึ่งถือว่าเป็นผลงานอัปยศอีกจุดหนึ่ง ที่ผู้รับเหมาทิ้งไว้เป็นตราบาปให้กับแผ่นดินชาวกาฬสินธุ์ รวมทั้งไม่ยอมจ่ายเงินค่าแรงคนงานอีกด้วย ทั้งๆที่ผู้รับเหมาเองก็เป็นคนกาฬสินธุ์ มีฐานะร่ำรวย มีหน้ามีตาในจังหวัดแต่กลับมาทำลายกาฬสินธุ์ให้เลื่อมเสีย น่าอับอาย เป็นการผลาญงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์

ด้านนายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคม ในการต่อต้านการทุจริต ปปท.เขต 4 ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะ กธจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผลกระทบจากผู้รับเหมาทิ้งงาน ยังกระจายไปทุกจุดทั้ง 8 โครงการ ที่ชาวบ้านประณามว่า “ก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร” ตรงจุดก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งลำน้ำพาน ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ งบ 44,490,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เบิกจ่ายไปแล้ว 13,737,500 บาท พบว่าพังทลายแล้ว รวมทั้งจุดก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ งบ148,200,000 บาท บริเวณชุมชนหัวโนนเกษตร และถนนพร้อมพรรณอุทิศ เขตเทศบาลเมือง ยังประสบปัญหาน้ำท่วมขัง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย และเสี่ยงก่อการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย

“ปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน ยังเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่สร้างความเดือดร้อนและเจ็บช้ำให้กับคนกาฬสินธุ์อย่างแสนสาหัสมานานถึง 5 ปี นอกจากนี้ ยังสูญเสียงบประมาณมหาศาล อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในวงการก่อสร้างรับเหมาโดยใช้งบประมาณแผ่นดินภาษีของประชาชน ถึงแม้ทางกรมโยธาฯ จะยกเลิกสัญญากับ 2 หจก. 6 โครงการแล้ว แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้น ผู้รับจ้างยังไม่ได้แสดงสปิริตอะไรออกมาเลย และในช่วงที่กรมโยธาฯยกเลิกสัญญา และถูกเวียนหนังสือห้ามไม่ให้ 2 หจก.ดังกล่าวเข้าประมูลงาน กลับไปได้งานของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมอีก 2 โครงการอีกด้วย จึงสร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับประชาชน รวมทั้งยังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ ไปถึงการเซ็นสัญญาว่า กรมทางหลวง โดยแขวงการทางจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ดำเนินการเซ็นสัญญากันไปหรือยังหากมีการเซ็นสัญญากันไปแล้ว ก็จะทำหนังสือสอบถามว่าสาเหตุอะไรถึงมีการเซ็นสัญญาทั้งที่เป็นผู้รับเหมาทิ้งงาน ถูกขึ้นแบล็กลิสต์จากกรมโยธาฯมาแล้ว เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหา 7 ชั่วโคตรภาค 2