Authority & Harm

ตม.สุราษฎร์สนธิกำลังลุยปฎิบัติกวาดล้าง แรงงานต่างด้าวแฝงตัวเป็นมัคคุเทศก์



สุราษฏร์ธานี-ภายใต้นโยบายและสั่งการ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ    รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.กันตวัฒน์ พงศ์สถาบดี รอง ผบก.ตม.6 ,พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ,พ.ต.อ.เด่นชาย เจริญยุทธ ผกก.สส.บก.ตม.6, พ.ต.อ.พิสิฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.2 บก.ทท.3 ,พ.ต.อ.โชคชัย สุทธิเมฆ ผกก.สภ.เกาะเต่า ,นายพงษ์สวัสดิ์ พวงเดช ผอ.สจก.พื้นที่ 2 รรท.จจ.สฎ. ,พ.ต.ท.วัสส์ธนภูมิ กุลจิตติชุติพร รอง ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี, ได้สั่งการให้กวดขันควบคุมดูแลพฤติกรรมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมายและมีพฤติกรรมที่เป็นกลุ่มแก็งค์ต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวได้ นั้น

สืบเนื่องมาจากก่อนการจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเบาะแสมาว่าได้มีคนต่างชาติสัญชาติเมียนมา เข้ามาทำงานเป็นมัคคุเทศก์หรือไกด์นำเที่ยวในพื้นที่บริเวณหาดนางยวน ต.เกาะเต่า อ.เกาพะงัน จว.สุราษฎร์ธานี ก่อให้เกิดผลเสียต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ทั้งอาจจะเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวที่มีสาเหตุมาจากกลุ่มไกด์ต่างด้าวที่ไม่มีคุณภาพที่เข้ามาแอบแฝงจนก่อให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่เป็นวงกว้าง ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้านการดำน้ำในพื้นที่เกาะเต่าซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำที่สวยงามระดับโลก 

 ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนหาข่าวและรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบไปตามลำดับชั้น โดยได้สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนเข้าทำการตรวจสอบจับกุม โดยบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่จาก กก.สส.บก.ตม.6 ,จัดหางานจังหวัดสุราษฎร์ธานี, ตำรวจท่องเที่ยวสมุย, ตำรวจ สภ.เกาะเต่า จำนวน 25 นาย  โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ใช้วิธีการแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวซื้อโปรแกรมนำเที่ยวหรือทริปนำเที่ยวเกาะเต่าเกาะนางยวนแบบวันเดย์ทริปจากบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย ซึ่งเป็นโปรแกรมนำเที่ยวซึ่งจะออกจากพื้นที่ อ.เกาะสมุย จว.สุราษฎร์ธานี เดินทางไปท่องเที่ยวตามโปรแกรมที่เกาะเต่าและเกาะนางยวน จำนวน 2 ลำ ส่วนกำลังอีกชุดเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ใช้วิธีการแฝงตัวเข้าทำการซื้อโปรแกรมนำเที่ยวแบบวันเดย์ทริปจากบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งบนเกาะเต่า โดยจะเดินทางออกจากเกาะเต่าเพื่อนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำและชมธรรมชาติรอบเกาะเต่าและเกาะนางยวน เมื่อได้ซื้อโปรแกรมท่องเที่ยวและได้เวลากำหนดการท่องเที่ยวแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังไว้ในพื้นที่เกาะนางยวน ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ได้รับแจ้งจากเบาะแสว่ามีแรงงานต่างด้าวได้แสดงตัวทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยว 

ต่อมาเมื่อถึงเวลาเรือนำเที่ยวทั้ง 2 บริษัทได้เดินทางออกจากเกาะสมุยและเกาะเต่าตามกำหนด โดยมีเจ้าหน้าที่ที่แฝงตัวมากับเรือดังกล่าวได้ทำการเก็บหลักฐานและพฤติการณ์การทำงานของแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาที่อยู่ในเรือดังกล่าว โดยเมื่อเรือออกเดินทางไกด์ซี่งเป็นคนต่างด้าวเริ่มทำหน้าที่อธิบายโปรแกรมนำเที่ยวและสถานที่ที่จะไปท่องเที่ยว จนกระทั่งเรือได้เดินทางมาถึงเกาะนางยวนซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายตามเบาะแส ไกด์คนต่างด้าวจึงได้จัดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใช้บริการพื้นที่เกาะนางยวน และนำนักท่องเที่ยวไปยังจุดชมวิวนางยวน และลงไปดำน้ำบริเวณทะเลแหวกเกาะนางยวน ตามโปรแกรมการท่องเที่ยว

จนกระทั่งหมดเวลาของโปรแกรมไกด์ต่างด้าวทั้งหมดจึงได้นำนักท่องเที่ยวมาขึ้นเรือที่จอดรออยู่บริเวณท่าเรือเกาะนางยวน เพื่อไปท่องเที่ยวในสถานที่อื่นตามโปรแกรมต่อไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการแสดงตัวเข้าทำการจับกุม ซึ่งเมื่อทำการตรวจสอบพบว่าที่มาจากเกาะสมุย ทั้ง 2 ลำมีคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์หรือไกด์นำเที่ยว จำนวน 5 คน และมีคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทำหน้าที่เป็นขับเรือ จำนวน 1 คน ส่วนเรืออีกลำคนขับเรือเป็นคนไทย โดยไม่พบว่ามีไกด์หรือมัคคุเทศก์คนไทยแต่อย่างใด

ในส่วนเรือซึ่งเดินทางนำเที่ยวมาจากเกาะเต่า นำนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตามโปรแกรมทัวร์ที่เกาะนางยวน เจ้าหน้าที่อีกชุดจึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมพบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทำหน้าที่เป็นไกด์หรือมัคคุเทศก์ จำนวน 1 คน และทำงานโดยไม่แจ้งการเข้าทำงานกับนายจ้างภายใน 15 วัน จำนวน 1 คน รวมทั้งหมด 8 คน

ซึ่งทั้งหมดในการปฏิบัติตามแผนในครั้งนี้ได้ทำการจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจำนวน 8 ราย โดยแยกเป็นข้อหาเป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาตและทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้ จำนวน 6 คน ในข้อหาเป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีใบอนุญาตและทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้จำนวน 1 ราย และข้อหาไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบถึงการเข้าทำงานกับนายจ้างภายใน 15 วัน ตาม กฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว จำนวน 1 ราย  

ซึ่งหลังจากนั้นเวลาประมาณ 21.00 น.ชุดปฎิบัติการดังกล่าวข้างต้นได้เข้าทำการตรวจสอบสถานประกอบการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มชื่อเดอะโลคอล บาร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่หาดทรายรี ในพื้นที่เกาะเต่า ซึ่งได้รับการแจ้งเบาะแสมาว่ามีคนต่างชาติจำนวนหลายคนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวแอบแฝงมาทำงานลักษณะพาสไทม์ ซึ่งมีหน้าที่คอยให้บริการเครื่องดื่มหรือผสมเครื่องดื่มให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการ และบางคนทำหน้าที่เป็นดีเจคอยเปิดเพลงภายในร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนกำลังเข้าทำการตรวจสอบเมื่อไปถึงสถานที่ดังกล่าวพบว่าคนต่างชาติตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสได้ไหวตัวหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึงร้านดังกล่าว ยังคงเหลือแต่คนงานประจำของร้านเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวตรวจสอบเอกสารปรากฎว่าพบเป็นคนต่างชาติสัญชาติเมียนมา จำนวน 2 คน ขณะทำงานเป็นแคชเชียร์เก็บเงินค่าบริการจากกลุ่มลูกค้า และพบคนต่างชาติสัญชาติออสเตรเลีย จำนวน 1 คน ขณะทำหน้าที่เป็นแผนกต้อนรับยืนเชียร์แขกให้เข้ามาใช้บริการภายในร้าน

ส่วนอีก 1 คนเป็นคนต่างชาติสัญชาติอังกฤษ ขณะทำหน้าที่เป็นพนักงานเก็บเงินค่าบริการจากลูกค้า เมื่อทำการตรวจสอบปรากฎว่าทุกรายมีใบอนุญาตทำงานและการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุด แต่คนต่างด้าวทั้งหมดได้ทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้หรือทำงานซึ่งอยู่ในบัญชีที่สงวนไว้ให้คนไทยได้ทำ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว

ซึ่งทั้งหมดในการปฏิบัติตามแผนในครั้งนี้ได้ทำการจับกุมคนต่างด้าวแยกตามข้อหาและสัญชาติดังนี้

1.สัญชาติเมียนมาจำนวน 10 ราย โดยแยกเป็นข้อหาเป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาตและทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้(ทำหน้าที่มัคคุเทศก์) จำนวน 6 ราย ทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้(ทำหน้าที่เก็บเงินหรือแคชเชียร์) จำนวน 2 ราย ในข้อหาเป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีใบอนุญาตและทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้(ทำหน้าที่ควบคุมพาหนะ) จำนวน 1 ราย และข้อหาไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบถึงการเข้าทำงานกับนายจ้างภายใน 15 วัน ตามกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว จำนวน 1 ราย 
2.สัญชาติอังกฤษ ทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้(ทำหน้าที่เก็บเงินหรือแคชเชียร์) จำนวน 1 ราย
3.สัญชาติออสเตรเลีย ทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้(ทำหน้าที่แผนกต้อนรับหรือเชียร์แขก) จำนวน จำนวน 1 ราย 
4.ได้ทำการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนายจ้างของคนต่างด้าวทั้งหมดเพื่อมาลงโทษในข้อหาให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะได้ 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัว 12 ราย นำส่งร้อยเวรสอบสวน สภ.เกาะเต่า จว.สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

ด้าน ว่าที่ พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี จึงแจ้งประชาสัมพันธ์ข่าวมายังสื่อมวลชนเพื่อเผยแพร่ข่าวสาร ให้เป็นประโยชน์ในการสร้างความเชื่อมั่นด้านการรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามคำสั่งของ ผบช.สตม.หากท่านพบเห็นการกระทำผิดหรือมีข้อมูลการกระทำผิดของคนต่างชาติในพื้นที่ ให้แจ้งมาได้ที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี สายด่วน 1178 หรือเวปไซด์ SURATTANI IMMIGRATION.GO.TH หรือหมายเลขโทรศัพท์ 077423440