Biz news

'ซีดับเบิ้ลยูทาวเวอร์'ร่วมพันธมิตรเสวนา แชร์แนวคิดรักษ์โลกอย่างยั่งยืน



กรุงเทพฯ-กระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ทุกองค์กรชั้นนำต่างให้ความสำคัญ ทั้งการรณรงค์สร้างจิตสำนึกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกมิติ รวมถึงให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป ด้วยการลงมือปฏิบัติให้เห็นผลอย่างจริงจัง สำหรับอาคาร ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ ก็เป็นอีกองค์กรหนึ่งที่ให้ความสำคัญของการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังได้รณรงค์เผยแพร่ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมให้กับบุคลากรของอาคารและผู้เช่า โดยตั้งเป้าให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้จากเนื้อหาสาระที่จัดแสดงที่ครอบคลุมในทุกโครงการต่างๆ ที่อาคารดำเนินการ และยังกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยในครั้งนี้ได้จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจจัดกิจกรรม CW GO GREEN DAY  “สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน“ ที่มีกูรูด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในองค์กรของตนเองที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

คุณกีรติ โกสีย์เจริญ ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารกิจกรรมเพื่อสังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลท. ส่งเสริมภาคธุรกิจให้ความสำคัญกับแนวคิดเรื่องการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน หรือ Environment, Social Governance (ESG) เพราะการทำธุรกิจในปัจจุบันไม่สามารถหวังแต่เรื่องผลกำไรแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึง 3 ปัจจัยหลักไปพร้อมกันด้วยคือ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล จึงเกิดโครงการด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นมา ทั้งโครงการ Care the Bear รณรงค์ให้ปรับเปลี่ยน 6 พฤติกรรมที่ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน และยังนำผลที่ได้มาคำนวณ carbon footprint เพื่อใช้วัดผลเรื่อง net zero ได้ด้วย, โครงการ Care the Whale รณรงค์ให้คัดแยกขยะ 7 ประเภท ลดปริมาณขยะและลดขยะตกค้างตามพื้นที่ต่างๆ รวมถึงลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการปะปนของขยะเปียกและขยะแห้ง และ โครงการ Care the Wild ระดมทุนปลูกต้นไม้และดูแลป่าไม้ ฟื้นฟูสภาพป่าที่มีอยู่และเพิ่มพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ โดยเชิญชวนภาคธุรกิจที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีอยู่กว่า 800 ราย ให้มองเห็นความสำคัญและเข้าร่วมในโครงการตามความสมัครใจ

ดร.พรพุฒ จารุมงคลศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ Business Expansion and Development บริษัท ONNEX Smart Building Solution, SCG กล่าวว่า การกำจัดขยะหรือของเสีย ไม่ได้มีแต่เพียงขยะที่มองเห็นทั่วไปเท่านั้น แต่มีขยะที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าปะปนอยู่กับอากาศ และส่งผลกระทบกับทุกคนเช่นกัน ซึ่ง SCG ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในเรื่องของการลดปริมาณขยะภายในอาคารที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีระบบบำบัดอากาศเสียในอาคาร หรือ Air Scrubber ช่วยสร้างคุณภาพอากาศภายในอาคารให้มีความสดชื่นตลอดเวลา ด้วยอุปกรณ์ที่สามารถกรองอากาศเสีย หรือสารระเหยที่ตกค้างภายในอาคาร เพื่อให้สภาพอากาศภายในอาคารมีความสดชื่น บริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลา และยังช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าด้วยการลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศ ทำให้เครื่องปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนัก มีอายุการใช้งานยาวนาน

นายสานิตย์ หลายเจริญ Director of Safety and Environmental บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พีทีจี ดำเนินการเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมในรูปแบบที่หลากหลายภายใต้หลัก 3R : Reduce, Reuse, Recycle มานานกว่า 10 ปี สำหรับในปี 2567 มี 7 โครงการหลัก ได้แก่ 1) สนับสนุนให้ชาวเขาที่ จ.เชียงใหม่ ปลูกกาแฟเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าปี 2570 ต้องมีพื้นที่ปลูกกาแฟ 32,000 ไร่ 2) จองพื้นที่ปลูกป่าชายเลน 90 ไร่ ที่ จ.กระบี่ 3) สนับสนุนพลังงานสะอาดด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จประจุไฟฟ้ารถยนต์ในสถานีบริการน้ำมันพีทีเพิ่มขึ้น จาก 42 สถานีเป็น 712 สถานีภายในปี 2570 4) ลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าในสถานีบริการด้วยการติดตั้ง Solar Roof ตั้งเป้าภายในปี 2570 ถ้าติดตั้งได้ 1,200 สถานี จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 13,420 ตัน 5) สร้างโรงไฟฟ้าขยะชีวมวลที่หาดใหญ่ พร้อมทำสัญญาส่งมอบไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นเวลา 20 ปี 6) ร่วมทุนกับบริษัทพันธมิตรในการคัดแยกขยะ และใช้บางส่วนเป็นเชื้อเพลิงในโรงปูน และ 7) ร่วมกับ SCG สร้างสถานีบริการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้น

นางสาวณัฐกานต์ คลอวุฒิอนันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอ๊คลิน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเครื่องย่อยขยะเศษอาหารชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า ในการคัดแยกขยะนั้นพบว่าในแต่ละวันขยะจากเศษอาหารมีมากถึง 64% ของขยะทั้งหมด สร้างความสกปรกให้กับพื้นที่และยุ่งยากในการจัดเก็บ เพราะส่งกลิ่นและเป็นแหล่งอาหารของสัตว์บางชนิด กลายเป็นแหล่งเชื้อโรค การนำขยะเศษอาหารไปทิ้งในบ่อฝังกลบรวมกับขยะอื่นๆ ยังเป็นสาเหตุของการเกิดปริมาณก๊าซมีเทน หนึ่งในปัจจัยหลักของการเกิดก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะโลกร้อน ส่วนขยะที่เหลืออีก 36% นั้น หากสามารถจัดการส่งไปทางช่องทางต่างๆ ได้ จะเหลือปริมาณขยะที่คัดแยกไม่ได้ต้องไปสู่หลุมฝังกลบเพียง 10% สำหรับขยะเศษอาหารหากกำจัดให้เป็นศูนย์ (Zero Food Waste) จะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะลดปริมาณขยะที่นำไปกำจัดหรือฝังกลบได้แล้ว ขยะเศษอาหารยังสามารถแปลงเป็นวิตามินบำรุงพืชหรือปุ๋ยได้อีกด้วย

นายสนธิ ดำรงศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที เอช เฮลท์ จำกัด  ในเครือบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่าทางบริษัทจะดำเนินกิจการด้านสุขภาพ แต่ก็ไม่อยากให้คนต้องมีอาการป่วย เพราะผลกำไรของธุรกิจไม่ได้วัดที่เม็ดเงิน แต่วัดที่การสามารถอยู่ร่วมกันในโลกใบนี้ได้โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และมีการดูแลสุขภาพไปพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ ภารกิจหลักของทุกบริษัทในเครือธนบุรีเฮลท์แคร์กรุ๊ป คือการเซฟชีวิตและเซฟโลก ด้วยการบริหารจัดการห้องแล็บของทุกโรงพยาบาลในเครือ ให้มีความปลอดภัยโดยเฉพาะการจัดการกับขยะติดเชื้อ นอกจากนี้ ยังบริหารจัดการซัพพลายเชนเรื่องยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ ต่างๆ และนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในการตรวจ เพื่อวิเคราะห์โรคและแนวโน้มการเกิดโรคร้ายแรงในอนาคต เป็นการวินิจฉัยในเชิงป้องกันไม่ให้ต้องเผชิญกับอาการเจ็บป่วยจากโรคภัยนั้น เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อโลกที่ดีให้กับคนรุ่นต่อไป

ด้าน นายนักรบ  กุลพนิชย์ ผู้จัดการทั่วไป อาคาร ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ ผู้ดำเนินรายการเสวนาครั้งนี้ กล่าวว่า อาคาร ซี ดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ ให้ความสำคัญกับการลงมือปฏิบัติจริง และเกิดผลลัพธ์ที่เห็นผลอย่างชัดเจน การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืนจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากขาดความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่ผ่านมาอาคาร ซี ดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ ได้รับความร่วมมือจากบริษัทผู้เช่าเป็นอย่างดี โครงการ Perks from trash การรณรงค์คัดแยกขยะ recycle นอกจากนี้ ได้ร่วมเป็นสมาชิกโครงการ Care the Bear / Care the Whale และ Care the Wild ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าความสำเร็จขององค์กรคงไม่ได้ประเมินจากผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่จะให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันในสังคมแบบยั่งยืน ปัจจุบันอาคารได้ติดตั้งเครื่องกำจัดขยะเศษอาหาร รวมถึงการจัดกิจกรรมรณรงค์และร่วมสร้างจิตสำนึกให้กับสาธารณชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากการเสวนาที่เป็นไฮไลท์หลักของงาน CW GO GREEN DAY แล้ว ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการบูธกิจกรรมให้ความรู้เรื่องการรักษ์โลกรักษ์สิ่งแวดล้อม การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์รักษ์โลกจากผู้เช่าพื้นที่ในอาคาร พันธมิตรและผู้สนับสนุนกิจกรรม ตลาดนัดรักษ์โลกที่ให้ส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ซื้อที่นำภาชนะและถุงผ้ามาใส่ของ และกิจกรรมเวิร์กชอปทำเทียนใส Searo Waste พร้อมแจกฟรีวิตามินบำรุงพืชจากขยะเศษอาหาร เมล็ดพันธุ์ผัก แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย สามารถติดตามกิจกรรมอื่นๆ ของ อาคาร ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook: cwtower.bkk