EDU Research & ESG

'ซีไอดีไออาร์ตธีสิสโชว์เคส2024'แสดง ผลงาน-แฟชั่นจุดไอเดียนักออกแบบไทย



กรุงเทพฯ-สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ (CIDI Chanapatana)ตอกย้ำการเป็นสถาบันปั้นนักออกแบบรุ่นใหม่จัดงาน ซีไอดีไอ อาร์ต ธีสิส โชว์เคส 2024  (CIDI ART THESIS SHOWCASE 2024) งานนิทรรศการแสดงผลงานและแฟชั่นโชว์ศิลปนิพนธ์ นักศึกษาสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีมNOTHING TURNED ITSELF INSIDE-OUTหมายถึงช่องทางในการแสดงออก ที่ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงข้ามวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ส่วนบุคคลเป็นการก้าวข้ามสุนทรียภาพ ทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมผ่านแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน การไม่แบ่งแยก ตลอดจนการหมุนเวียนนำกลับมาใช้อย่างสร้างสรรค์ทางด้านงานฝีมือและแฟชั่นในฐานะที่เป็นหนึ่งในสื่อทางวัฒนธรรมผ่านการถ่ายทอดแฟชั่นโชว์ศิลปนิพนธ์ผลงานจากนักศึกษาสาขาออกแบบแฟชั่น (Fashion Design) จำนวนรวมกว่า 80 ชุด ร่วมด้วยการแสดงผลงานการออกแบบของนักศึกษาสาขาออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ (Interior & Product Design) รุ่นที่ 22 ที่สำเร็จการศึกษา ณ คิว สเตเดียม ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์

นายสิทธิพัฒน์ ธนสารสิน ประธานคณะกรรมการดำเนินงาน สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์กล่าวว่า“สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ ก่อตั้งมากว่า 24 ปี โดยมี 2 หลักสูตรการเรียนการสอนมาตรฐานระดับนานาชาติ คือสาขาออกแบบแฟชั่น และสาขาออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์และช่วยพัฒนาทักษะที่ครบถ้วนสำหรับนักออกแบบเพราะเรามีความเชื่อว่านักออกแบบที่จะประสบความสำเร็จ ต้องรู้และทำได้มากกว่าแค่เรื่องของการออกแบบ แต่ยังต้องเข้าใจธุรกิจ เข้าถึงผู้ผลิต มีโอกาสก้าวสู่ชุมชนของนักออกแบบที่พร้อมสนับสนุน และพร้อมสร้างความสำเร็จไปด้วยกันซึ่งการจัดงานซีไอดีไอ อาร์ต ธีสิส โชว์เคส 2024ในครั้งนี้ เป็นการแสดงผลงานนักศึกษา รุ่นที่ 22 ที่จบการศึกษา โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อเปิดโอกาสให้กับนักออกแบบคนรุ่นใหม่ ที่มีใจรักการออกแบบ ได้มีเวทีในการแสดงออกถึงศักยภาพพร้อมสร้างสรรค์ผลงาน ก้าวสู่นักออกแบบมืออาชีพต่อไป"

ภายในงานได้จัดการแสดงแฟชั่นโชว์ศิลปนิพนธ์ผลงานของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่สำเร็จการศึกษา รวมกว่า  80ชุด โดยมีคอลเลกชันไฮไลท์จากนักศึกษามาร่วมถ่ายทอดผลงานในครั้งนี้ อาทิ“Stitched Harmony: Upcycled Elegance” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเท่าเทียมทางเพศและเชื้อชาติ การใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุดในช่วงสงครามโลก (Make Do and Mend) การทอผ้าที่ประณีตตามแบบฉบับญี่ปุ่น และการ Patchworkโดยมีแฟรงเกนสไตน์เป็นแรงบันดาลใจ คอลเลกชันนี้สื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียว ความหลากหลาย และความเข้มแข็ง ซึ่งผ้าที่นำมาใช้เป็นผ้า Upcycling, “Cubist Dream” แรงบันดาลใจจากความสวยงามของกระเบื้องโมเสกของกาวดี (Gaudi) ที่มีลักษณะที่เป็นรูปร่างธรรมชาติไม่สมบูรณ์มาประกอบกันเป็นดอกไม้ที่มีความงดงามอันอ่อนโยนและมีเสน่ห์ ผสมผสานกับแฟชั่นยุค 60 ที่มีเสน่ห์ดึงดูดในรูปแบบของทวิกกี้กับการเปลี่ยนแปลงที่มากับลุค Androgynous ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากผู้อื่น เช่นเดียวกับมนุษย์แต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างคอลเลกชันที่มีความสวยงามจากความแตกต่างและไม่สมบูรณ์และ “FEMME MYSTÉRIEUSE”ที่แปลว่าผู้หญิงลึกลับ น่าค้นหาความรักในอิสระและเสน่ห์ของผู้หญิงที่มีความเซ็กซี่น่าค้นหา ผู้หญิงที่มีความเป็นตัวเอง เปรียบเสมือนผีเสื้อยามค่ำคืนที่โบยบินใต้แสงจันทร์ในป่าอันเงียบสงบ แม้จะดูน่ากลัวแต่เมื่อเข้าใกล้จะยิ่งหลงใหลและน่าค้นหามากขึ้น ผีเสื้อเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความสุข และการเจริญเติบโตจากความเจ็บปวด เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลง อิสระ และการเกิดใหม่

นอกจากนี้มีภายในงานมีการแสดงผลงานศิลปนิพนธ์ของนักศึกษาสาขาออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ (Interior & Product Design) อาทิ “LUXON”โคมไฟตั้งโต๊ะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปลั๊กชาร์จของ TESLA และมีฟังก์ชันแบบ 2-in-1 เป็นโคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับอ่านหนังสือหรือทำงาน และไฟฉายพร้อมแบตเตอรี่แบบชาร์จ USB มีระบบควบคุมแบบสัมผัสและทำจากพลาสติกไนลอนที่ทนทานพร้อมโครงสร้างไฟเบอร์กลาส,“The Cloud”โคมไฟสร้างพื้นที่ทำงานที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ได้รับแรงบันดาลใจจากเมฆ โดยมีเฉดสีฟ้าและแสงไฟนวลตาชวนให้นึกถึงท้องฟ้าที่แจ่มใส ในออฟฟิศสีน้ำเงินมักสื่อถึงความสงบ และความเป็นมืออาชีพ แนวคิดนี้รวมเอาโคมไฟรูปเมฆ การตกแต่งด้วยสีฟ้า และองค์ประกอบการออกแบบโดยรวมเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สงบสุขและมีประสิทธิภาพ โคมไฟทำจากไม้สร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ พื้นผิวไม้ช่วยเพิ่มสัมผัสแห่งความเรียบง่ายและผลงานการออกแบบตกแต่งภายในสำนักงาน“The Cloud” โดยแนวคิดมาจากการออกแบบสำหรับออฟฟิศของ Disney คือการสร้างพื้นที่ที่เต็มไปด้วยพลังงานบวกและแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ทำงานในสถานที่นี้ โดยการผสมผสานพื้นที่สีเขียว และการใช้แสงจากธรรมชาติร่วมกับแสงสังเคราะห์ และ “Retail shop for Ralph Laurent Store”ได้รับแรงบันดาลใจและแนวคิดในการออกแบบมาจากร้าน Ralph Laurent มีกลิ่นอายความคลาสสิค และผสมกับการใช้ซุ้มโค้ง ทำให้ภายในร้านดูไม่แข็งจนเกินไปและมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยการใช้ลายแพทเทิร์นตารางบนพื้นตัดกับซุ้มโค้ง

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าเรียนที่สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์  สามารถเข้าร่วมงาน Open House 2024 ได้ฟรี เพื่อฟังการแนะนำหลักสูตร พร้อมชมผลงานนักศึกษา และพูดคุยกับศิษย์เก่าที่สร้างแบรนด์ เพื่อสร้างความพร้อมเข้าสู่วงการนักออกแบบในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ www.chanapatana.com/th/open-house, โทร 081-432-8555, ไลน์แอด: @cidichanapatanaศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.chanapatana.com และ  www.facebook.com/Chanapatana