Biz news

บี.กริมเพาเวอร์เข้าซื้อหุ้นบ.LT09 S.r.l. เพิ่มพอร์ตพลังงานทดแทนสู่Net-Zero



กรุงเทพฯ-บี.กริมเพาเวอร์เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัทLT09S.r.l. เดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในสาธารณรัฐอิตาลีมุ่งเติบโตอย่างแข็งแกร่งตามยุทธศาสตร์ “GreenLeap” ก้าวสู่การเป็นบริษัทผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก

ดร.ฮาราลด์ลิงค์ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทบี.กริมเพาเวอร์จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทRES Company Sicilia S.r.l. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบี.กริมเพาเวอร์ถือหุ้น 100% ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัทLT09S.r.l. มูลค่าหุ้นรวมทั้งสิ้น 10,000 ยูโรโดยมีเป้าหมายเพื่อขยายพอร์ตการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ณสาธารณรัฐอิตาลี

บริษัทLT09S.r.l. เป็นผู้ประกอบธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในสาธารณรัฐอิตาลีและมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินและตั้งบนระบบหมุนตามดวงอาทิตย์ (tracking system)ที่อยู่ระหว่างพัฒนาชื่อ“Ortanova 2”มีกำลังการผลิต73.26 เมกะวัตต์ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐอิตาลีซึ่งเมื่อรวมโครงการดังกล่าวแล้วปัจจุบันบี.กริมเพาเวอร์มีโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนรวม 350-400 เมกะวัตต์และBattery Storage รวม180-200เมกะวัตต์ที่อยู่ระหว่างพัฒนาในสาธารณรัฐอิตาลี

สำหรับการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทดแทนในครั้งนี้เป็นไปตามเป้าหมายของ บี.กริม เพาเวอร์ เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำระดับโลกและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์GreenLeap-Global and Green ที่มุ่งยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจระดับโลกกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศตามวิสัยทัศน์องค์กร “สร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี (Empowering the World Compassionately)

ดร.ฮาราลด์ลิงค์กล่าวว่า ทิศทางจากนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ยังเดินหน้าหาโอกาสพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นในสาธารณรัฐอิตาลี และในภูมิภาคยุโรปเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานทดแทนที่มีการต่อยอดและขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยความมั่นคง โดยปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนาโครงการในหลายอาทิประเทศเกาหลีใต้ญี่ปุ่นเวียดนามฟิลิปปินส์กัมพูชากรีซสหรัฐอเมริกาออสเตรเลียสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิอาระเบียรวมทั้งประเทศไทย

ส่วนทิศทางและเป้าหมายของ บี.กริม เพาเวอร์ ในระยะยาว ภายในปี 2573 ตั้งเป้าขยายการลงทุนสู่กำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์จากโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนา โดยมากกว่า 50% เป็นสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน โดยมีเป้าหมายก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Carbon Emissions ภายในปี 2593 หรือ คศ. 2050