Authority & Harm
โหม่งกันแหลกตู้โดยสารประสานงาMU7 เจ็บ12บน5แยกสับสนบ้านหัวฝาย
ฉะเชิงเทรา-โหม่งกันแหลก ตู้โดยสารประสานงา MU7 เจ็บ 12 รายที่ 5 แยก 2 ตัววายสุดสับสนหน้าบ้านหัวฝายใกล้ตลาดหนองคอก อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา บนเส้นทางสายความมั่นคง 3259 (เดิม) ที่ตัดเชื่อมผ่านป่าเขาอ่างฤาไนไปยัง จ.สระแก้ว ขณะรถยนต์แบบตรวจการณ์กำลังพุ่งออกมาจากเส้นทางสายในผ่านจากตัวตลาด ได้ถูกรถตู้ที่ขับมาจากเส้นทางตรงมุ่งหน้า อ.ท่าตะเกียบ พุ่งเข้าประสานงาอย่างจัง
วันที่ 11 ก.ค.67 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตู้โดยสารไม่ทราบเส้นทางสายประจำ เหตุจากไม่ติดเครื่องหมายบอกเส้นทางการเดินรถที่แน่ชัด ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง 30-2082 จันทบุรี ซึ่งมีผู้โดยสารนั่งมาภายในรถกว่า 10 คน ได้พุ่งชนประสานงาเข้ากับรถยนต์ส่วนบุคคลแบบตรวจการณ์ (SUV) ยี่ห้ออีซูซุ สีดำรุ่น MU7 เลขทะเบียน กว-7393 นครราชสีมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย
เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณสามแยกตัววายใหญ่ หรือ 5 แยกย่อยเนื่องจากเป็นจุดตัดที่มีการก่อสร้างถนนมาบรรจบกันในลักษณะของตัววาย 2 ตัวหันหางซ้อนกันจนกลายเป็น 4 แยกแบบทแยงโค้งเข้าหากัน และยังมีทางแยกย่อย ซึ่งเป็นซอยถนนคอนกรีตออกจากหมู่บ้านข้างทาง (ซอยสันติสุข 7) เชื่อมเข้ามาบรรจบอีก 1 เส้นทางรวมเป็น 5 แยกบ้านหัวฝาย พื้นที่ ม.2 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา
โดยมีหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม จุด อ.ท่าตะเกียบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพจาก รพ.ท่าตะเกียบ ได้เข้ามาช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 12 รายลำเลียงนำส่งไปยัง รพ.ท่าตะเกียบ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในจำนวน 3 ราย ภายในรถตู้ 2 ราย และรถยนต์ Suv 1 ราย จากการสอบถามชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะเกิดเหตุ ได้มีรถยนต์แบบตรวจการณ์ขับพุ่งออกมาจากทางแยก ซึ่งเป็นเส้นทางตัดผ่านเชื่อมออกมาจากภายในตัวตลาดหนองคอก
แต่ได้มีรถยนต์ตู้โดยสาร ซึ่งทราบว่าเป็นรถที่ขับพาแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ไปต่อหนังสือเดินทางที่ด่านชายแดนใน จ.สระแก้ว ที่กำลังจะมุ่งหน้ากลับไปยังในกรุงเทพ ซึ่งเป็นรถที่ขับมาบนเส้นทางตรงสายหลัก ถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 3076 (3259 เดิม) พุ่งเข้ามาชนประสานงากันอย่างแรง จนทำให้ด้านหน้าตัวรถทางซ้ายพังยับเยิน ส่วนรถยนต์ตรวจการณ์ได้ถูกพุ่งชนเข้าที่บริเวณบังโคลนซุ้มล้อหน้าขวา ก่อนที่จะพังยุบเข้าไปจนถึงภายในห้องเครื่องยนต์ แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นสาหัสมากนัก
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา