Authority & Harm
ผอ.เขื่อนลำปาวกาฬสินธุ์ยันรับมวลน้ำได้ คาดอิทธิพลร่องมรสุมทำให้ฝนตกหนัก
กาฬสินธุ์อิทธิพลร่องมรสุมฝนตกส่งผลดีเติมน้ำเข้าเขื่อนลำปาวรับได้สบาย
กาฬสินธุ์-อิทธิพลจากร่องมรสุมทำให้เกิดฝนตกในหลายพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ ส่งผลดีทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเติมเขื่อนลำปาวเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 665 ล้าน ลบ.ม.ยังรับน้ำได้อีกมากกว่า 1,314 ล้าน ลบ.ม. และยังส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรกว่า 3 แสนไร่ และช่วยพื้นที่ลำน้ำชีตอนล่าง เฉลี่ยวันละ 8.6 ล้านลบ.ม.
วันที่ 17กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอิทธิพลร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ เข้าสู่ย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ อ่าวไทย ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ซึ่ง จ.กาฬสินธุ์ เป็นหนึ่งในหลายจังหวัดที่ได้รับอิทธิพลดังกล่าว ทำให้มีฝนตกทุกพื้นที่ และทำให้แหล่งน้ำเพิ่มปริมาณสูงขึ้น โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว ซึ่งจากฝนที่ตกลงมาติดต่อกัน ส่งผลดีทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าเติมเพิ่มมากขึ้น และยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก
นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว กล่าวว่า ปัจจุบันเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 665 ล้าน ลบ.ม.จากความจุกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็น 34 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปริมาณน้ำยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่มีการเก็บสถิติในช่วงเดียวกันของทุกปีที่ผ่านมา โดยค่าเฉลี่ยในช่วงเดียวกันอยู่ที่ 32 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้ถือเป็นผลดี เพราะนอกจากจะทำให้พื้นที่การเกษตรได้รับน้ำทั่วถึงแล้ว ยังเติมปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมาถึงจนปัจจุบันมีน้ำเข้าเขื่อนมากกว่า 113 ล้าน ลบ.ม.
นายสำรวย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทางโครงการฯได้ส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่ในช่วงฝนทิ้งช่วง และปัจจุบันยังคงส่งน้ำเสริมฝนเข้าสู่คลองส่งน้ำชลประทาน เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรทั้งข้าวนาปี บ่อปลา และบ่อกุ้งกว่า 300,000 ไร่ และระบายน้ำทางอาคารระบายน้ำลงลำน้ำเดิม หรือจุดผันน้ำ และส่งน้ำผ่านอาคารระบายน้ำ หรือสปิลเวย์ ลงสู่ลำน้ำปาวไหลไปยังแม่น้ำชี เพื่อช่วยในการอุปโภค บริโภค ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร และเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งเพื่อรักษาระบบนิเวศตลอดลำน้ำชีตอนล่าง ทั้ง จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี ซึ่งรวมปริมาณน้ำส่งและระบาย เฉลี่ยวันละ 8.63 ล้าน ลบ.ม.
นายสำรวย กล่าวต่อว่า กล่าวอีกว่า ทั้งนี้จากการติดตามพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งได้ออกประกาศเตือนฝนตกหนักในช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 โดยเฉพาะพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และจ.อุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำของเขื่อนลำปาวนั้น คาดว่าจะมีปริมาณน้ำเข้าเติมในอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาวมากขึ้น ซึ่งเขื่อนก็ยังยังสามารถรับน้ำได้อีกมากว่า 1,314 ล้าน ลบ.ม.อย่างำรก็ตามปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวที่มีอยู่ยืนยันว่าเพียงพอสำหรับทุกกิจกรรม ทั้งการอุปโภค บริโภค และทำการเกษตรในช่วงหน้าฝนนี้อย่างแน่นอน