Think In Truth

'ภูพระบาท'เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม แหล่งที่5ของไทย โดย : ฟอนต์ สีดำ



ภูพระบาท ได้รับการประกาศให้เป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยอย่างยิ่ง องค์การยูเนสโก (UNESCO) ประกาศขึ้นทะเบียน “อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” จ.อุดรธานี เป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของไทย ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย

“อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาภูพาน ครอบคลุมพื้นที่ 3,430 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขือน้ำ บ้านติ้ว ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดระยะทาง 67 กิโลเมตร สภาพภูมิประเทศของภูพระบาทมีลักษณะเป็นโขดหินและเพิงผาที่กระจัดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก เกิดจากการผุพังสลายตัวของหินทราย ซึ่งมีเนื้อหินที่แข็งแกร่งแตกต่างกัน ระหว่างชั้นของหินที่เป็นทรายแท้ ซึ่งมีความแข็งแกร่งมาก กับชั้นที่เป็นทรายปนปูนซึ่งมีความแข็งแกร่งน้อยกว่า นานๆ ไปจึงเกิดเป็นโขดหิน และเพิงผารูปร่างแปลกๆ ดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

จากการสำรวจทางโบราณคดีที่ผ่านมา ปรากฏร่องรอยของกิจกรรมของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อราว 2,000 – 3,000 ปีมาแล้ว มีการพบภาพเขียนสีมากกว่า 54 แห่ง ยังพบการดัดแปลงโขดหินและเพิงผาธรรมชาติให้กลายเป็นศาสนสถานของผู้คนใน วัฒนธรรมทวารวดี ลพบุรี สืบต่อกันมาจนถึงวัฒนธรรมล้านช้าง ตามลำดับ ซึ่งร่องรอยหลักฐานทางโบราณคดีเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางสังคมของ มนุษย์ได้เป็นอย่างดี

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภูพระบาทได้รับเกียรตินี้มีหลายประการ ดังนี้

1. ความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมสีมาหิน: ภูพระบาทเป็นแหล่งรวมของ สีมาหิน ซึ่งเป็นศิลปกรรมที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมทวารวดี การจัดเรียงสีมาหินในรูปแบบต่างๆ บนภูเขาแสดงให้เห็นถึงความเชื่อและพิธีกรรมทางศาสนาในสมัยนั้น

วัฒนธรรมสีมาหิน นับเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้ภูพระบาทได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สีมาหินเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ก้อนหินธรรมดา แต่ยังเปรียบเสมือน หนังสือบันทึกประวัติศาสตร์ ที่เล่าเรื่องราวของความเชื่อ ศาสนา และวิถีชีวิตของผู้คนในอดีตได้อย่างชัดเจน

ความสำคัญของวัฒนธรรมสีมาหิน

  • ประจักษ์พยานแห่งอารยธรรม: สีมาหินเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญก้าวหน้าทางศิลปะและวัฒนธรรมของผู้คนในสมัยโบราณ
  • ความเชื่อและพิธีกรรม: การสร้างและจัดวางสีมาหินสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและพิธีกรรมทางศาสนาที่ซับซ้อนของผู้คนในอดีต
  • เอกลักษณ์เฉพาะตัว: วัฒนธรรมสีมาหินเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศไทย

2. ความสมบูรณ์ของแหล่งโบราณคดี: แหล่งโบราณคดีภูพระบาทยังคงรักษาความสมบูรณ์ของ สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และ หลักฐานทางโบราณคดี ไว้ได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตและความเชื่อของผู้คนในอดีตได้อย่างชัดเจน ความสมบูรณ์นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การคงสภาพของโบราณสถานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและหลักฐานทางโบราณคดีที่ยังคงปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน

ปัจจัยที่ทำให้ภูพระบาทมีความสมบูรณ์

  • สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ: ภูพระบาทตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เอื้อต่อการรักษาโบราณสถาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพภูมิอากาศที่ไม่รุนแรงเกินไป ทำให้โบราณสถานไม่ถูกทำลายจากสภาพอากาศเลวร้าย
  • การปกป้องจากธรรมชาติ: ภูพระบาทมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทราย ซึ่งเป็นการป้องกันโบราณสถานจากการถูกกัดเซาะโดยน้ำฝนและลม
  • การปกป้องจากมนุษย์: แม้ว่าภูพระบาทจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ก็มีการจัดการดูแลรักษาอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทำลายโบราณสถานจากกิจกรรมของมนุษย์
  • การขุดค้นทางโบราณคดี: การขุดค้นทางโบราณคดีที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบ ทำให้ได้หลักฐานทางโบราณคดีที่สมบูรณ์และเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา
  • การอนุรักษ์: มีการดำเนินการอนุรักษ์โบราณสถานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสภาพเดิมของโบราณสถานให้คงอยู่

3. ความต่อเนื่องของวัฒนธรรม: แม้เวลาจะผ่านไปนานหลายร้อยปี แต่ความเชื่อและประเพณีที่เกี่ยวข้องกับภูพระบาทก็ยังคงสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ ชาวบ้านและพระสงฆ์ ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเป็นสถานที่ที่อดีตและปัจจุบันมามีความต่อเนื่องกันทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่คนในสังคมรอบอุทยานยังคงอนุรักษ์สืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่องและเหนียวแน่น ตัวอย่างการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมที่ภูพระบาทมีดังนี้

  • ความเชื่อและพิธีกรรม: ความเชื่อและพิธีกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภูพระบาทได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ชาวบ้านและพระภิกษุยังคงปฏิบัติตามประเพณีเหล่านี้เพื่อความอยู่รอด
  • จิตวิญญาณ: ความสำคัญทางจิตวิญญาณของภูพระบาทยังคงแข็งแกร่ง ผู้คนยังคงมาเยี่ยมชมสถานที่เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาและเชื่อมโยงกับความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่
  • การเคารพบรรพบุรุษ: การเคารพบรรพบุรุษเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไทย ภูพระบาททำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจถึงอดีตและเป็นช่องทางในการเชื่อมต่อกับผู้ที่มาก่อนเรา
  • เทศกาลและงานประเพณีทางวัฒนธรรม: เทศกาลและการเฉลิมฉลองตามประเพณีจะจัดขึ้นที่ภูพระบาทตลอดทั้งปี กิจกรรมเหล่านี้ช่วยรักษาประเพณีทางวัฒนธรรมให้คงอยู่และมีชีวิตชีวา

4. ความสำคัญทางประวัติศาสตร์: ภูพระบาทเป็น พยานสำคัญ ที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงของ สังคม

และวัฒนธรรม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเข้าใจประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา มาดูกันว่าเหตุใดสถานที่แห่งนี้จึงมีคุณค่ามาก:

  • ประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐาน: หลักฐานการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ที่ภูพระบาทมีอายุนับพันปี ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมในภูมิภาค
  • วิวัฒนาการของวัฒนธรรม: ซากทางโบราณคดีที่ภูพระบาทแสดงให้เห็นวิวัฒนาการของวัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยทวารวดีและต่อๆ ไป
  • ที่ตั้งของศูนย์กลางการค้าและการพาณิชย์ภู: พระบาทบ่งบอกถึงบทบาทในเส้นทางการค้าโบราณที่อาจเชื่อมโยงชุมชนต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • การแสดงออกทางศิลปะ: ศิลาจารึกและประติมากรรมที่พบในภูพระบาททำให้มองเห็นรูปแบบทางศิลปะและเทคนิคของอารยธรรมในอดีต

นี่เป็นเพียงเหตุผลบางประการที่ทำให้ภูพระบาทถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญ สวนสาธารณะทำหน้าที่เป็นหน้าต่างสู่อดีต ทำให้เรามีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่น ความเชื่อ และวิถีชีวิตของพวกเขา

5. การมีส่วนร่วมของชุมชน: ชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และส่งเสริมให้ภูพระบาทเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยูเนสโกพิจารณาให้ภูพระบาทขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก  ภูพระบาท ไม่ใช่เพียงแค่แหล่งโบราณคดี แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและความเชื่อของชุมชนท้องถิ่น การมีส่วนร่วมของชุมชนจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกโลกแห่งนี้

รูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชน

  • การดูแลรักษา: ชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาความสะอาดของพื้นที่โบราณสถาน ป้องกันการบุกรุก และแจ้งเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อโบราณสถาน
  • การอนุรักษ์ภูมิปัญญา: การสืบทอดความรู้และภูมิปัญญาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของภูพระบาทผ่านการบอกเล่าเรื่องราว การจัดกิจกรรม และการสอนให้กับเยาวชนรุ่นหลัง
  • การท่องเที่ยว: ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การสาธิตหัตถกรรม การแสดงศิลปวัฒนธรรม และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน
  • การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ: ชุมชนได้รับการเชิญให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการและการพัฒนาอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท
  • การเป็นอาสาสมัคร: ชาวบ้านอาสาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น การเป็นมัคคุเทศก์ การดูแลนักท่องเที่ยว และการร่วมกิจกรรมอนุรักษ์

ภูพระบาท เป็นอุทยานที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของคนในสังคมไทยมาก่อนพุทธกาล ที่คนในสังคมยังอาศัยดำรงชีวิตอยู่บนพื้นฐานแห่งความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ที่คนยังนับถือศาสนาผีที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้หญิง และศาสนาพราหมณ์สยาม ที่นับถือเวทย์มนต์และพิธีกรรมที่จสร้างความเข้มแข็งในการดำรงอยู่ของสังคม แต่ในการอยู่ร่วมกันในสังคม ยังคงมีระบบการปกครองทางสังคม ตามลำดับชั้นของเพศ ที่ยังคงมีการชิงดีชิงเด่น และการแย่งชิงสถานะความเป็นอยู่ของคนในสังคม ที่มีกรอบทางความคิดที่สืบทอดต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ก่อนพุทธกาล มาถึงสมัยพุทธการที่ยังคงสร้างวัฒนธรรมสืบทอดหลักแห่งการอยู่ร่วมกัน และหลังสมัยพุทกาล ที่ยังคงเห็นหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานศลปะวัฒนธรรมทวารวดี ที่อุทธยานแห่งนี้ คือเมืองแห่งการค้าขายและการแลกเปลี่ยนสินค้า อีกทั้งยังมีหลักฐานแห่งการเข้ามาของวัฒนธรรมขอม และหลักฐานทางพระพุทธศาสนา ที่ยังคงสร้างวิถีชีวิตของคนในสังคมได้ปลูกฝังจิตวิญญาณที่จะสืบทอดศิลปะ วัฒนธรรม เพื่อให้สังคมได้สืบทอดแนวคิดและวิถีชีวิต ที่มีความสุข สันติ อุทยานภูพระบาทจึงมีความสำคัญเป็นแหล่งที่ควรต้องเข้าไปศึกษาในหลายประเด็น ไม่ว่าทางประวัติศาสตร์ ทางด้านวัฒนธรรม ปรัชญา ความเชื่อ ศิลปะวิทยาการ ที่จะสามารถนำมาประยุกต์และพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้า ต่อเนื่อง และใช้ในการดำรงชีวิตของสังคม ให้มีความสุข มีความมั่นคง ยั่งยืน สืบต่อไป