Biz news
SAWADไตรมาส2/67รายได้5.32พันล. กำไรแน่น1,320ลบ.คาดครึ่งปีโตอีก
กรุงเทพฯ-SAWAD ลุยธุรกิจไตรมาส 2 ปี 67 กำไรสุทธิโต 1,320 ล้านบาท หนุนกำไรครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2,598 ล้านบาท ผลงานโตเด่นท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว ด้านผู้บริหาร ธิดา แก้วบุตตา เผยสถานการณ์ขาดทุนจากการขายสินทรัพย์รอการขายได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดของปีนี้ไปแล้ว เดินหน้าลุยธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกันและนายหน้าประกันภัย พร้อมปรับปรุงคุณภาพหนี้ มั่นใจครึ่งหลังปัจจัยหนุนเด่น ปิดปี 67 รายได้และกำไรเป็นไปตามเป้าหมาย
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิรวม 1,320.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,222.79 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยราว 4,662.27 ล้านบาท เงินปันผลและรายได้อื่นราว 665.98 ล้านบาท รวมรายได้อยู่ที่ 5,328.25 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 21.38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการเติบโตรายได้และกำไรขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยท่ามกลางปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ความต้องการสินเชื่อในไตรมาสที่ 2 ขยายตัวโดดเด่นที่สุดในช่วงเดือนพฤษภาคม
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก มีกำไรสุทธิรวม 2,598.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,543.67 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 10,740.82 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 28.64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ระดับ 99,746 ล้านบาท ส่วนครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ที่มาจากนโยบายการช่วยเหลือลูกค้าให้ดีขึ้นและแก้ปัญหาภาวะขาดทุนจากรถยึด เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวแก่บริษัทและช่วยควบคุมระดับเอ็นพีแอลให้เป็นไปตามกรอบนโยบายของบริษัท
“เราเชื่อว่าสถานการณ์ขาดทุนจากการขายรถยึดได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีนี้ไปแล้ว ครึ่งปีหลังจะเป็นครึ่งปีที่เติบโตดีขึ้น ศรีสวัสดิ์จะเน้นโฟกัสธุรกิจหลักคือสินเชื่อที่มีหลักประกัน และเพิ่มขนาดธุรกิจนายหน้าประกัน โดยที่บริษัทได้พัฒนาแอปพลิเคชันให้สามารถกดซื้อผ่านออนไลน์ และซื้อผ่านสาขาที่พนักงานสามารถคำนวณเบี้ยประกันจากพันธมิตรชั้นนำได้อย่างเหมาะสม คาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนี้จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังได้เร่งขยายสาขาเพื่อรองรับความต้องการสินเชื่อและการเติบโตในอนาคต จบสิ้นปีนี้ศรีสวัสดิ์จะมีสาขาทั้งหมด 5,600 สาขาโดยประมาณ” ธิดา กล่าว
ส่วนด้านสภาพคล่องจากการออกหุ้นกู้ บริษัทมั่นใจสถานะทางการเงินว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง เพราะด้วยลักษณะของธุรกิจทำให้มีกระแสเงินสดในแต่ละวันหมุนเวียนเข้าบริษัทฯอย่างมาก พร้อมชำระหุ้นกู้ได้ตลอดเวลา ประกอบบริษัทฯมีพันธมิตรรายใหญ่ในอุตสาหกรรมการเงินจากไต้หวันที่พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานเครือศรีสวัสดิ์ จึงยิ่งทำให้สถานะการเงินของบริษัทฯมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทฯสามารถชำระคืนได้ตรงตามกำหนดเสมอมา รวมทั้ง บริษัทได้ประเมินความเหมาะสมในการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นกู้ให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ เพื่อลดภาระต้นทุนทางการเงิน ทั้งนี้บริษัทคาดว่าต้นทุนทางการเงินจะลดลงอย่างต่อเนื่องจากภาวะดอกเบี้ยขาลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 แก่บริษัทในการบริหารธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้