In News

'ภูมิธรรม'เผยนายกฯเป็นคนคัดเลือกครม. รอลุ้น!พปชร.-ปชป.ใครจะเข้าวินนั่งรมต.



กรุงเทพฯ-​รอง นรม. “ภูมิธรรม” เผย นายกฯ เป็นคนคัดเลือก ครม. ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ระบุ เสียงสนับสนุนโหวตนายกฯ ไม่ได้หมายความว่าจะได้เป็นรัฐมนตรี ย้ำอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่นายกรัฐมนตรี และเผยไม่ติดใจผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ไม่มาต้อนรับ เมื่อ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ยอมรับ กังวลน้ำท่วมสุโขทัย สั่งกำชับผู้ว่าฯ ดูแลใกล้ชิด เตรียมหารือ ครม. หามาตรการเพิ่มเติมยันมี งบกลางฉุกเฉิน พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัย

วันนี้ (27 สิงหาคม 2567) เวลา 09.15 น. ณ บริเวณตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล  นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีความชัดเจนมีการทาบทามพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์เลย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป) ระบุว่า ได้รับการทาบทามแล้ว ซึ่งสวนทางกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคปชป.ที่ปฏิเสธเรื่องนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องไปทำให้ชัดเจนก่อนว่าจะคุยหรือไม่คุย

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ความชัดเจนต้องมาจากพรรคแกนนำรัฐบาลโดยตรงหรือไม่ หรือให้พรรคประชาธิปัตย์ดีลเอง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ ตอนนี้เราดำเนินการไปตามที่ตกลงกันทั้งกระบวนการ ซึ่งตนได้พูดผ่านสื่อไปแล้วว่าพรรคที่สนับสนุนเราให้ตัวแทนไปยื่นรายชื่อผู้ที่จะเสนอเป็น ครม. ต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ  เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลต้องใส่ใจรายละเอียด จากกรณีของนายพิชิต ชื่นบาน ก็เป็นประเด็น ซึ่งตนก็บอกไปว่าอยากให้เผื่อรายชื่อไว้  เผื่อใครเป็นอะไรก็เติมเข้าไป

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สมมุติว่าขณะนี้หากเราเสนอรายชื่อพอดี แล้วพอตรวจไปตรวจมาหายไป 5 คน เราก็ต้องมาเริ่มกระบวนการใหม่ ซึ่งกระบวนการตอนนี้ใช้เวลามาก เมื่อก่อนใช้เวลาแค่ 3 วันก็จบแล้ว ตอนนี้ขอตรวจให้ละเอียดมากขึ้น ฉะนั้นเพื่อให้เกิดความรอบคอบใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 1 สัปดาห์ หรืออาจจะสัปดาห์กว่า ก็จะพยายามทำให้จบ เพราะฉะนั้นเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลได้รวดเร็ว  ทางพรรคเพื่อไทยส่งรายชื่อไปมากกว่าเดิม และเมื่อส่งรายชื่อไปแล้วเป็นคนไหนก็เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าสัปดาห์หน้าจะแล้วเสร็จหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้พูดไม่ได้  ต้องถาม สลค. และกฤษฎีกา เพราะถ้ายังไม่ส่งชื่อมาเราก็ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การเสนอรายชื่อมีพรรคใดเสร็จแล้วบ้างและพรรคใดยังไม่แล้วเสร็จ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทยอยส่งชื่อ ซึ่งกระบวนการยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเพิ่มหรือลดรายชื่อ มันเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ทางพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่งหนังสือถึงนายกฯ เพื่อทวงตำแหน่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เห็นในข่าว ตนยังไม่ได้รับหนังสือฉบับนั้น แต่ตนไม่ทราบอาจจะมีการส่งไปทางไหนก็ได้ถือเป็นเรื่องของพรรค พปชร. ซึ่งมติกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ที่จะมีมติอย่างไรและส่งอย่างไรก็ได้  ถ้าชัดเจนเมื่อไหร่ก็ส่งมาให้เกิดความชัดเจน แต่ถ้ายังไม่ชัดเจนก็เป็นประเด็นที่ค้างคา

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า การจัดตั้งครม. เป็นอำนาจของนายกฯ เพียงผู้เดียว ฉะนั้น นายกฯ จะต้องเลือกทีม ครม. เข้ามาร่วมงาน เพื่อให้เกิดความเหมาะสม และนายกฯ ต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นนายกฯ จึงมีสิทธิ์ที่จะเสนอหรือเลือกใครก็ได้ ที่คิดว่าเหมาะสม การเจรจาพูดคุยกันหากหลายเรื่องยังไม่ตกลงก็เปลี่ยนแปลงได้ การที่พรรคใดยกมือสนับสนุน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีตัวแทนเป็น ครม.เช่น พรรคไทยสร้างไทยที่โหวตสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ 6 เสียง หรือ ครั้งที่แล้ว พรรคประชาธิปัตย์ยกมือสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน 19 เสียง ก็ไม่เห็นมีตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็น ซึ่งไม่ใช่ประเด็น นายกฯ มีสิทธิ์เลือก หากรัฐมนตรีพอแล้ว ในระดับพรรคการเมืองที่มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ก็เลือกบุคคลที่สำคัญๆ ซึ่งในอดีต มีทั้งนักกฎหมายและผู้ที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน นายกฯ ก็สามารถเลือกคนเหล่านี้เข้ามาได้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พรรค พปชร.เสนอมา 4 รายชื่อ นายกฯ อาจจะเลือกมาแค่ 2 คน ได้หรือไม่ที่เหลือเป็นโควตาของพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ มันไม่มีโควตา โควตาเราไปเรียกกันเอง จากความเคยชิน ซึ่งในทางปฏิบัติไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันแล้วแต่ความเหมาะสม

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า นายกฯ จำเป็นต้องทำหนังสือชี้แจงพรรค พปชร.หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรค พปชร. จะพิจารณาและนำเสนอใคร ไม่มีอะไรที่บอกว่านายกฯ ต้องตอบ เพราะมันไม่ใช่ประเด็น ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ยังไม่ได้เข้ามาทำงานตรงนี้ก็ต้องให้กระบวนการดำเนินไป ตนอยู่ตรงนี้ก็พยายามทำให้กระบวนการมันจบครบถ้วน มีบุคคลก็เสนอนายกฯพิจารณา จะเป็นใครก็อยู่ในดุลพินิจของนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากนายกฯ ไม่ส่งเป็นหนังสือตอบกลับจะยกหูโทรศัพท์พูดคุยได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ทำได้ทุกอย่าง อยู่ในความเหมาะสมที่ควรจะทำอย่างไรและอยู่ที่ในกระบวนการตอนนั้นว่าจะทำอย่างไรจะแจ้งหรือไม่แจ้ง ทั้งนี้ ในส่วนของตนไม่ได้มีอำนาจ ในการที่จะมาจัด ครม. แค่ได้รับมอบหมายให้ประสานงาน เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วก็ยกให้ นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเป็นผู้ที่รู้เรื่องการจัดตั้ง ครม. ให้ช่วยไปประสานต่อ ซึ่งตอนนี้ท่านก็ไม่ได้มีตำแหน่งอะไร

ผู้สื่อข่าวถามถึงตำแหน่งของนายภูมิธรรม มีความชัดเจนอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเลย เพิ่งจะให้เขียนประวัติก็เขียนไป เมื่อเขียนแล้วจะเอาเข้าไปหรือไม่ก็แล้วแต่อยู่ที่พรรคเพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ผู้ที่ถูกเสนอรายชื่อเป็น ครม.เมื่อกรอกประวัติ แต่ก็ยังไม่ทราบใช่หรือไม่ว่าจะได้ตำแหน่งอะไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าได้ตำแหน่งอะไรได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะเป็นดุลยพินิจของนายกฯ

เผยไม่ติดใจผู้ว่าฯเชียงรายไม่มาต้อนรับ 

เวลา 09.15 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกระแสข่าวกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทำหนังสือชี้แจงกรณีที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม ที่ตนเองและนายอนุทิน ได้ลงพื้นที่เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ทางโซเชียลมีเดีย ยืนยันว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการระบายน้ำอิง ลงสู่แม่น้ำโขงว่า เป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย  โดยวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนเองไม่ได้เจอผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งได้สอบถามรองปลัดกระทรวงมหาดไทยว่าผู้ว่าราชการจังหวัดไปไหน ตนเองไม่ได้พบเจอ และไม่ทราบว่าป่วยหรือไม่ แต่หลังจากนั้น วันที่ตัวเองลงพื้นที่เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ก็ได้อยู่ด้วยกันในพื้นที่ตลอด และรับทราบว่าเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายติดภารกิจมาต้อนรับไม่ทัน  ซึ่งตนเองก็รับทราบและให้ไปพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไทย ตนเองไม่มีปัญหาใด ๆ

ส่วนกระแสข่าวตีกลับว่า ในวันที่ 24 ส.ค. ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายติดภารกิจลงพื้นที่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มีภารกิจที่กรุงเทพมหานคร แต่วันรุ่งขึ้นได้มาต้อนรับตนเอง แต่ไม่ทราบรายละเอียดใดๆ  ทราบแค่ว่าในวันนั้นติดภารกิจ ตนเองได้มีการสอบถามเรื่องอาการป่วย ซึ่งผู้ว่าฯ ก็ระบุว่าอาการดีขึ้น ส่วนจะเป็นการรักษาตัวหรือไม่นั้น ไม่ได้สอบถามรายละเอียด และย้ำว่าส่วนตัวไม่ติดใจ เมื่อไม่เห็นก็สอบถามเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อมาต้อนรับตนเองในวันรุ่งขึ้น ก็มีการพูดคุยกันและทำงานร่วมกันดูสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

ส่วนการเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย นายภูมิธรรม ยอมรับว่า น่าเป็นห่วง เนื่องจากประชาชนจะได้รับความเดือดร้อน ก่อนหน้านี้ได้ชี้แจงไปแล้วว่าเป็นมวลน้ำที่ลงมาจากจังหวัดแพร่ จังหวัดพะเยา เนื่องจากแม่น้ำยมไม่มีจุดรองรับน้ำ เหมือนกับเขื่อนสิริกิติ์ หรือเขื่อนภูมิพล ที่รองรับแม่น้ำน่าน และพื้นที่จังหวัดสุโขทัยเป็นพื้นที่แบนราบ และในอดีตเป็นทุ่งน้ำ ที่ใช้ที่ใช้ในการป้องกันการรุกรานในสมัยอดีต ดังนั้น จึงได้มีการระดมกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อช่วยเหลือกันและนำมาพูดคุยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ เพื่อที่จะรับมือในทุกพื้นที่  ในขณะเดียวกันตนเองก็ได้กำชับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้กองทัพช่วยเหลือรัฐบาล ในการช่วยประชาชน ซึ่งถือว่ากองทัพมีเครื่องไม้เครื่องมือในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งในเรื่องนี้กองทัพยืนยันความพร้อมในการช่วยเหลือ และได้มีการส่งยุทโธปกรณ์ รวมถึงกำลังพลลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วมแล้ว

ส่วนมาตรการอื่น ๆ เพิ่มเติมนั้น นายกภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอการประชุม แต่เบื้องต้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดำเนินการไปหมดแล้ว โดยตนเองได้สั่งการขั้นต้นในการบรรเทาความเดือดร้อน เช่น ถุงยังชีพ ขณะเดียวกันได้สั่งการผู้ว่าราชการ 4 จังหวัด ว่าอยากให้ผู้ว่าราชการเป็นตัวหลัก ในการช่วยเหลือประชาชน พร้อมกับประสานความร่วมมือภาคเอกชนในการนำเครื่องไม้เครื่องมือเข้าไปช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะการป้องกันบ้านเรือน รวมถึงประสานความร่วมมือจากวิทยาลัยเทคนิคต่าง ๆ ในการเข้ามาช่วยเหลือซึ่งเรื่องนี้ได้ทำมาก่อนหน้านี้แล้ว  ว่ายังมีงบกลางในการช่วยเหลือประชาชนประชาชนในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งรัฐบาลพร้อมจัดการทันทีเมื่อมีการเสนอเรื่องเข้ามา