In News
รัฐฯยกระดับรายได้จนท.รัฐ-ทหาร-ลูกจ้าง ปลื้ม! ยอดส่งออกโตสุดรอบ28เดือน
กรุงเทพฯ-รัฐบาลเดินหน้า ยกระดับรายได้เจ้าหน้าที่รัฐ – ทหารกองประจำการ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบกระทรวงการคลัง มีผล 1 พ.ค. 2567และเผยข่าวดี ตัวเลขการส่งออกเดือนกรกฎาคม ขยายตัว 15.2% โตสุดในช่วง 28 เดือนที่ผ่านมา เป็นดอกผลการทำงานของรัฐบาล พร้อมเผยกระแสตอกย้ำกระแสความเชื่อมั่น “แพทองธาร” หุ้นขึ้น 7 วันติดต่อกัน
วันนี้ (28 สิงหาคม 2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าจากนโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งส่งเสริมให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และทหารกองประจำการ สามารถดำรงชีพอยู่ได้ในสภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน อีกทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ นั้น
วานนี้ (27 สิงหาคม 2567) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. 2567 โดยสาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ เห็นชอบให้ปรับอัตราเพดานเงินเดือนหรือค่าจ้างขั้นสูงที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว จากเดิม เงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึงเดือนละ 13,285 บาท เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึงเดือนละ 14,600 บาท และปรับอัตราเพดานเงินเดือนหรือค่าจ้างขั้นต่ำรวมกับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว จากเดิม เงินเดือนหรือค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท เป็น เงินเดือนหรือค่าจ้างเดือนละ 11,000 บาท ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป และจะมีการจ่ายย้อนหลัง
“รัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจ โดยเป็นความสำเร็จสืบเนื่องมาจากมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2566 โดยท่านอดีตนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ที่มุ่งมั่นตั้งใจในการยกระดับเพิ่มรายได้ให้กับข้าราชการพลเรือน ทหาร ลูกจ้าง ซึ่งจะเป็นนโยบายสำคัญต่อเนื่องของท่านนายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ที่จะเดินหน้าผลักดันให้พี่น้องประชาชนทุกกลุ่มอาชีพมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดี สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันด้วย” นายภูมิธรรม กล่าว
ข่าวดี ตัวเลขการส่งออกเดือนกรกฎาคม ขยายตัว 15.2% โตสุดในช่วง 28 เดือนที่ผ่านมา
และก่อนหน้านี้ นายภูมิธรรม ได้ เปิดเผย ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคม 2567 ขยายตัวถึง 15.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มีมูลค่าถึง 25,720.6 ล้านดอลลาร์ (938,285 ล้านบาท) เป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 28 เดือน นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ทั้งนี้ มาจากส่วนของการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ที่ขยายตัว 8.7 % ถือเป็นผลงานที่เริ่มออกดอกออกผลจากการทำงานของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี
โดยนายภูมิธรรมได้กล่าวว่า อีกสัญญาณที่บ่งบอกชัดเจนว่าประชาชนเชื่อมั่น และเฝ้ารอการทำงานของรัฐบาลคือ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาถึง 7 วันติดต่อกัน รวม 7 วัน +74.97 ตั้งแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเสียงข้างมากเห็นชอบให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตรเป็นนากรัฐมนตรี (16 สิงหาคม – 26 สิงหาคม 2567) ถือเป็นความเชื่อมั่น และความคาดหวังการทำงานของประชาชน