Travel Sport & Soft Power

DBD ปิดกิจกรรมวันเดย์ทริปที่เมืองนครฯ 3ธุรกิจชุมชนปลื้มได้ทั้งความรู้-โปรสินค้า



กรุงเทพฯ-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปิดกิจกรรมวันเดย์ทริป ณ จ.นครศรีธรรมราช เป็นปลื้มผู้ประกอบการชุมชนชื่นชอบกิจกรรม ‘นครศรีธรรมราช มีดี’ พูดเป็นเสียงเดียว ได้ทั้งความรู้ ประชาสัมพันธ์สินค้า และกระตุ้นยอดขาย ขอบคุณหน่วยงานภาครัฐที่ไม่ทิ้งผู้ประกอบการชุมชนรายเล็ก เป็นกำลังใจให้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดีดีออกสู่ตลาด ทิ้งท้าย!! วอนภาครัฐช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการชุมชนต่อเนื่อง สัญญาพร้อมเป็นกำลังหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้จัดกิจกรรมวันเดย์ทริป ‘กิจกรรมเส้นทางตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน’ 3 เส้นทาง ประกอบด้วย 1) เส้นทางเชียงราย-พะเยา ภายใต้ชื่อ พะเยา มีดี 2) มหาสารคาม : มหาสารคาม มีดี และ เส้นทางที่ 3 คือ นครศรีธรรมราช : นครศรีธรรมราช มีดี ซึ่งเป็นเส้นทางสุดท้ายที่ปิดกิจกรรมวันเดย์ทริป โดยได้นำคณะอินฟลูเอนเซอร์ และสื่อมวลชน ร่วมกิจกรรมพัฒนาการตลาดให้ผู้ประกอบการชุมชนที่มีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นแต่ละจังหวัด ทริปละ 3 สถานประกอบการ โดยผู้ร่วมลงพื้นที่จะแบ่งหน้าที่ช่วยผู้ประกอบชุมชนที่แตกต่างกัน เช่น อินฟลูเอนเซอร์ ช่วยสร้างสรรค์คอนเทนท์ดีดี เพื่อกระตุ้นความสนใจใคร่รู้แก่สินค้าของผู้ประกอบการชุมชน และฝึกสอนผู้ประกอบการให้เป็นอินฟลูเอนเซอร์ตามแบบฉบับของตนเอง สื่อมวลชน ช่วยโปรโมทและประชาสัมพันธ์สินค้าของผู้ประกอบการชุมชนเพื่อสร้างการรับรู้สู่สาธารณชน และก่อนหน้านี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดมาช่วยวางแผนการตลาดให้ผู้ประกอบการผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลายและกว้างขวางมากขึ้น โดยทั้ง 3 ฝ่ายจะร่วมกันปฏิบัติงานแบบสอดประสานเพื่อพัฒนาการตลาดให้ผู้ประกอบการชุมชน เป็นการสร้างการรับรู้ให้สินค้า และกระตุ้นยอดขาย

สำหรับทริป ‘นครศรีธรรมราช มีดี’ ในครั้งนี้ ได้พบปะผู้ประกอบการ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มผลิตภัณฑ์กระจูดโคกทราง อ.ชะอวด ซึ่งเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ที่แสดงถึงความเป็นธรรมชาติผ่านผลิตภัณฑ์กระเป๋าสาน โดยเป็นกระจูดธรรมชาติจากผืนป่าพรุที่กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ใน อ.ชะอวด ต้นกระจูดที่เคยถูกมองว่าไร้ค่า ถูกนำมาต่อยอดและสร้างสรรค์ด้วยงานสานของคนในชุมชนบ้านโคกทรางออกมาเป็นผลิตภัณฑ์กระเป๋าสานจากกระจูดธรรมชาติ ที่สวยงาม แข็งแรง และทนทาน ซึ่งผลิตภัณฑ์จากกระจูดทุกชิ้นช่วยสร้างรายได้ให้กับทุกคนในชุมชนได้มีอาชีพเลี้ยงครอบครัว โดยกระเป๋ากระจูดสานของบ้านโคกทรางเปรียบเหมือนตัวแทนของธรรมชาติที่คาดหวังให้ทุกคนได้ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแท้ๆ ทำให้เกิดการหวงแหน รักธรรมชาติ และใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าพิมพ์ลายใบไม้ GoodsLuKsi อ.ลานสกา ผ้า Eco Prints ผ้าพิมพ์ลายใบไม้จากผืนป่าหมู่บ้านคีรีวง ด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์พืชพรรณที่หลากหลายของผืนป่าบ้านคีรีวง เกิดเป็นแรงบัลดาลใจให้ชาวบ้านนำใบไม้จากสวนของตัวเองมาสร้างสรรค์งานศิลป์ผ่านบนลงผืนผ้า จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ผ้า Eco Prints ที่มีลวดลายของใบไม้ที่หลากหลาย เช่น ลายใบยางพารา ลายลูกเนียง รวมถึงลายอื่นๆ ที่มาจากใบไม้ของป่าในชุมชนมากกว่า 40 ชนิด จากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าส่งต่อมาเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ทำให้ได้เห็นคุณค่าของธรรมชาติ ส่งผลให้คนในชุมชนรัก เข้าใจ และต้องการผลิตผลิตภัณฑ์ผ้า Eco Prints เปรียบเสมือนเครื่องบันทึกความทรงจำของทุกคนที่ได้มาเที่ยวที่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช และได้ซื้อผ้า Eco Prints กลับไป

3) กลุ่มผลิตภัณฑ์ท่าหลาโกโก้ (Tala Cocoa) อ.ท่าศาลา เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากโกโก้ และคราฟท์โกโก้ ซึ่งเป็น Superfood ของเมืองคอน เป็นโกโก้ธรรมชาติแท้ 100% โดย อ.ท่าศาลา มีความอุดมสมบูรณ์ มีความชุ่มชื้น เนื่องจากใกล้ทะเลเหมือนกับต้นกำเนิดของโกโก้ที่ประเทศบราซิลที่มีแม่น้ำอเมซอนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีสารอาหารแร่ธาตุที่ช่วยให้เจริญเติบโตได้ดี ทำให้โกโก้ที่ อ.ท่าศาลา มีคุณภาพดี รวมทั้ง ผู้ประกอบการรุ่นปัจจุบันได้ต่อยอดและสืบสานประเพณีการผลิตผลิตภัณฑ์จากโกโก้มาจากรุ่นพ่อแม่ มาทำการแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์โกโก้ให้เป็นเครื่องดื่ม ไอศกรีม เค้ก และชาเพื่อสุขภาพ ซึ่งโกโก้ของที่นี่จะให้ความสำคัญกับธรรมชาติ คือ ไม่ใส่สารเจือปน ไม่ปรุงแต่งสารใดใด เป็นโกโก้จากธรรมชาติแท้ ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องการดูแลสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเมื่อได้รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทำจากโกโก้จะรู้สึกผ่อนคลาย มีความสุข อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสของดีของเด่นประจำถิ่นเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อสุขภาพที่ดี และได้รับโกโก้แท้ท่าศาลากลับบ้านติดมือไปเป็นของฝากของกำนัลแก่คนที่คุณรัก

จากการลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการ ณ จ.นครศรีธรรมราช ในครั้งนี้ ได้รับเสียงชื่นชมและผู้ประกอบการทั้ง 3 รายล้วนชื่นชอบ โดยให้ความเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่ดีที่ทำให้ผู้ประกอบการได้ทั้งความรู้ ประชาสัมพันธ์สินค้า และกระตุ้นยอดขายไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการชุมชนที่มีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการธุรกิจได้ยาก การที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้นำคณะอินฟลูเอนเซอร์ นักการตลาด และสื่อมวลชนมาเยี่ยมเยือนถึงสถานประกอบการจึงนับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการได้ฝึกฝนและเพิ่มทักษะด้านการตลาด การบริหารจัดการธุรกิจ และได้เรียนรู้เทคนิคการค้าขายบนโลกออนไลน์ ซึ่งจะส่งผลถึงยอดขายและการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

โอกาสนี้ ผู้ประกอบการได้ขอบคุณหน่วยงานภาครัฐที่ไม่ทิ้งผู้ประกอบการชุมชนรายย่อย ซึ่งเป็นกำลังใจที่สำคัญในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดีดีออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ได้นำรายได้มาจุนเจือครอบครัว และส่วนหนึ่งได้นำไปพัฒนาท้องถิ่นที่อยู่ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีและมีความเจริญเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการขอให้ภาครัฐช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการชุมชนต่อเนื่อง พร้อมเป็นที่ปรึกษาแก่ภาคธุรกิจ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสัญญาว่าเป็นกำลังหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง และเป็นแรงสนับสนุนที่นำพาประเทศไทยให้ก้าวสู่ประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่มั่นคง” อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ กองธุรกิจภูมิภาคและชุมชน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 0 2547 5950 สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th