In News
ภารกิจนายกฯลงพื้นที่ดูน้ำท่วมเชียงราย ยันพอใจสถานการณ์เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ
เชียงราย-นายกฯ พอใจสถานการณ์น้ำ จ. เชียงราย เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เป็นห่วงระดับน้ำโขง สั่งการทุกหน่วยเตรียมรับมือปัญหาอุทกภัยและนายกฯอัญเชิญพระราชกระแสในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัย และพระราชกระแสชื่นชมและพระราชทานกำลังใจ แก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ก่อนหน้านี้นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ อำเภอเมืองเชียงราย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มรภ.เชียงราย ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการแจ้งเตือนประชาชนและการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือป้องกันความเสียหาย ได้เข้าสวมกอดให้กำลังใจผู้ประสบภัย อ.แม่สาย ยืนยันเร่งเยียวยา ปชช. ให้ดีที่สุด ย้ำไม่ทอดทิ้ง ไม่นิ่งนอนใจ ห่วงใยทุกคน ขณะที่ประชาชนอวยพรขอให้เป็นนายกฯ นาน ๆ และแจ้งเตรียมงบกลาง พร้อมช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ทันที ไม่ต้องรอน้ำลด ก่อนเดินทางไปเชียงราย นายกฯ“แพทองธาร”เข้าทำเนียบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เผยเป็นการเริ่มต้นที่ดี สร้างความสบายใจ
วันนี้(13 กันยายน 2567)เวลา 15.15 น. ณ. ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังเสร็จสิ้นการติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดเชียงราย
นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานปกครอง ภาคประชาชน ที่ได้สนธิกำลังในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทำให้สถานการณ์เบาบางลงไป โดยเฉพาะอาหารและน้ำ ได้เตรียมการอย่างพอเพียง ซึ่งได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า ระดับน้ำกำลังลดลงแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปกู้ภัยประชาชนที่ติดอยู่ในบ้าน เพื่อนำเข้ามาในศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งเหลืออีกแค่จำนวนไม่มาก ประมาณ 300 คน ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง จัดทำแผนที่กลาง เพื่อให้ทุกภาคส่วน รวมถึงภาคเอกชนที่ได้นำเอาเจ็ทสกี จะได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ยังค้างอยู่ได้ นอกจากนี้ ไทยได้เร่งเจรจากับพม่า เพื่อขยายพื้นที่รับน้ำระหว่าง 2 ประเทศ เพราะปัจจุบันมีการบุกรุกพื้นที่ ทำให้ช่องทางแคบลง และไม่สามารถรับน้ำ และระบายน้ำได้ทันด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเยี่ยมผู้ประสบภัยในวัดพรหมวิหาร ส่วนมากเป็นชาวเขาและยังไม่มีบัตรประชาชน ทำให้ไม่สามารรับเงินเยียวยาได้ จึงให้กระทรวงมหาดไทย เร่งหามาตรการพิสูจน์สัญชาติ เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับเงินเยียวยาอย่างทั่วถึง และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการกรมทางหลวง เร่งซ่อมแซมสะพานที่ขาด เพื่อให้การสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก สำหรับการติดตามราคาสินค้า ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ ควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็นและใช้ในการฟื้นฟูเยียวยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความสำคัญของระบบเตือนภัย โดยมอบหมายให้ DE และ GISTDA หามาตรการที่เร่งด่วนเตือนภัยแก่ประชาชน รวมถึงระบบ SMS Alert ต้องมีประสิทธิภาพ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ตื่นตัว รับมือกับปัญหาได้ทัน ทั้งนี้ หลังจากน้ำลดลง ให้ทุกภาคส่วน ช่วยกันทำความสะอาดบ้านเรือน ถนน เพื่อให้ประชาชนกลับมาสู่สภาพปกติ รวมถึงการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย ซึ่งรัฐบาลจะหามาตรการและงบประมาณ รวมทั้งพิจารณาการใช้เงินจากกองทุนต่างๆ เพื่อเยียวยาพี่น้องประชาชนในส่วนนี้ เพื่อที่ประชาชนจะได้ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ในการลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิในการเยียวยา เพราะมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว และเข้าถึงประชาชนได้ง่าย ที่ผ่านมาได้มีการใช้ “ทางรัฐ” ในการลงทะเบียนโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งยังเหลืออีกสองวันสำหรับการลงทะเบียนโครงการ ฯ และในอนาคตการใช้แอปฯ ทางรัฐ จะทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกับประชาชนได้ง่าย ทั้งช่วยให้การช่วยเหลือ จ่ายค่าเยียวยาได้รวดเร็วและถึงพี่น้องประชาชนจริง ๆ รัฐบาลเองก็จะเดินหน้าสู่รัฐบาลดิจิทัล ด้วย
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมการรับมือปัญหาอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในจังหวัดหนองคาย และจังหวัดใกล้เคียง ที่อาจได้รับผลกระทบจาก ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่สูงขึ้นด้วย กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
นายกฯ อัญเชิญพระราชกระแสในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัย
เวลา 15.15 น. ณ. ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังเสร็จสิ้นการติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดเชียงรายในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้อัญเชิญ พระราชกระแสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่นยางิ (Yagi) ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย เป็นเหตุให้เกิดอุทกภัยอย่างรุนแรงในบริเวณพื้นที่อำเภอแม่สาย และอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา รวมทั้งเกิดเหตุดินสไลด์ในบริเวณพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บาดเจ็บ และเสียชีวิต รวมถึงเกิดความเสียหายแก่บ้านเรือน และทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมากนั้น ทั้งยังมีพระราชกระแสทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจ แก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งต่างเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย แม้การช่วยเหลือจะเป็นไปอย่างยากลำบากท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว และข้อจำกัดต่าง ๆ แต่จิตอาสาทุกภาคส่วน ต่างร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลัง ด้วยความรักความปรารถนาดีต่อกัน เป็นเครื่องมือสำคัญ ทำให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที สามารถบรรเทาสถานการณ์ให้คลี่คลายลงตามลำดับ
นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ อำเภอเมืองเชียงราย
วันนี้ (13 กันยายน 2567) เวลา 14.15 น. ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จ.เชียงราย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมศูนย์บริหารสถานการณ์น้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยที่อยู่ในศูนย์พักพิง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีรับฟังรายงานจากนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยช่วงนี้ปริมาณฝนในภาคเหนือตอนบนจะลดน้อยลงคาดว่า ภายในวันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้จะกลับสู่ภาวะปกติ และจะเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางเพื่อให้การระบายน้ำสามารถทำได้ดีขึ้น เมื่อน้ำเข้าสู่ระดับปกติระบบไฟก็จะกลับมาใช้งานได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงและต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่จะไหลจากจังหวัดเชียงราย ลงสู่จังหวัดเลยและหนองคาย พบว่าระดับน้ำสูงขึ้นซึ่งได้มีการแจ้งเตือนแล้วล่วงหน้า และประชุมซักซ้อมกับจังหวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะโรงพยาบาลหรือพื้นที่เปราะบางที่จะต้องเฝ้าระวัง หากประชาชนอยู่จุดไหนไม่ได้ก็จะสั่งเคลื่อนย้ายทันที
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สอบถามสถานการณ์น้ำแม่น้ำอิง ที่คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มหนักสุดในช่วงวันที่ 18 ก.ย.นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำต้องมีการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนและการเตรียมความพร้อมรับมือเพื่อการป้องกันความเสียหาย
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมพี่น้องประชาชนและให้กำลังใจ ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราวช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย รวมทั้งทักทายเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขและนักศึกษาที่เข้ามาช่วยดูแลภายในศูนย์ด้วย ซึ่งได้มีการขอถ่ายรูปเซลฟีกับนายกรัฐมนตรีด้วย
นายกฯยืนยันเร่งเยียวยาปชช.ให้ดีที่สุด
เวลา11.45น. ณ ด่านพรมแดน ด่านศุลกากรแม่สาย จ.เชียงราย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย พร้อมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่
นายกรัฐมนตรีรับรายงานจากข้าราชการทหาร พลเรือน และข้าราชการท้องถิ่น รวมทั้งอาสาสมัคร และจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ ปริมาณน้ำในพื้นที่ได้ลดลงและเข้าสู่ขั้นตอนเก็บกวาดทำความสะอาดถนน สะพาน สถานที่สาธารณะ เพื่อเร่งคืนพื้นที่ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ให้เร็วที่สุด
นายกรัฐมนตรี ยังสอบถามการช่วยเหลือของทางเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปถึงพี่น้องประชาชน ซึ่งได้เจ้าหน้าที่รายงาน ในช่วงแรกการช่วยเหลือเต็มไปด้วยความยากลำบากช่วงกระแสน้ำเชี่ยว ต้องอาศัยเจ็ตสกีจากผู้มีความชำนาญพิเศษ รวมทั้งการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการส่งเสบียง อาหารและเครื่องดื่มเข้าไป ซึ่งเป็นการบูรณาการจากหลายหน่วยงานร่วมกัน เร่งช่วยเหลือประชาชนเริ่มตั้งแต่การช่วยขนย้ายของขึ้นที่สูง รวมทั้งช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ และได้จัดตั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือทันที
นายกรัฐมนตรียังมอบหมายกระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไทย รวบรวมข้อมูล ความคิดเห็น และคำแนะนำต่าง ๆ จากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้างาน เพื่อถอดบทเรียน และวางแผนแก้ไขปัญหา รวมถึงกำหนดแนวปฏิบัติการงานในการจัดการช่วยเหลือต่อไปด้วย จากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจดูแม่น้ำสาย ซึ่งกระแสน้ำได้ลดระดับและความรุนแรงลงบ้างแล้ว
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายและขอบคุณนายกษิดิศ ธีระประทีป ผู้ที่ขับเจ็ตสกีเข้าไปช่วยเหลือลุงเขียงหมูที่ติดเต็นท์แดงด้วย
จากนั้น เวลา 12.30 น. เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว วัดพรหมวิหาร ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กล่าวว่ารัฐบาลจะดูแลเรื่องการเยียวยาให้ดีที่สุด ถือว่าการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นความสำคัญเร่งด่วน รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ และมีความห่วงใยทุกคน ทั้งนี้ ขอให้ช่วยกันดูแลเพื่อนบ้านด้วยกันไม่ทอดทิ้งกัน
นายกรัฐมนตรียังสอบถามผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอดถึงความเป็นอยู่ในศูนย์ฯ ด้วยความห่วงใย ซึ่งตอบว่า เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลืออย่างดี รวมทั้ง น้ำ อาหาร และยาด้วย ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนกล่าวกับนายกรัฐมนตรีทั้งน้ำตาว่า หมดตัวแล้วไม่เหลืออะไรแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีตอบว่า “ยังเหลือชีวิต เหลือกำลังใจที่ต้องสู้ต่อไป” ซึ่งชาวบ้านได้กอดนายกรัฐมนตรีและบอกว่า “แค่อ้อมกอดของนายกฯ ก็พอแล้ว” ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ตอบว่า นี่ก็เป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีเหมือนกัน จะรีบกลับไปทำงานในเรื่องชดเชยเยียวยาช่วยเหลือ ซึ่งผู้ประสบภัยคนหนึ่งยังบอกกับนายกรัฐมนตรีว่า “อย่าทิ้งกัน” ซึ่งนายกรัฐมนตรีตอบกลับว่า “ไม่ทิ้งอยู่แล้ว”
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมรถโรงครัวจิตอาสา ซึ่งได้ผลิตอาหารวันละประมาณ 1,500 - 2,000 กล่อง เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่และได้ร่วมทำอาหารเมนูกะหล่ำปลีผัดไข่กับกลุ่มแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายเมนูไก่กระเทียม ณ โรงครัวพระราชทาน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวกับประชาชนที่เข้ามาพักพิงในศูนย์ ฯ เน้นย้ำว่า จากนี้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะเร่งช่วยเหลือ เรื่องการเยียวยา ทั้งการดูแลบ้านพัก ที่อยู่อาศัยให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทุกคนกลับไปอยู่ที่พักของตนเองได้อย่างรวดเร็วและอยากให้การเยียวยาเข้าถึงทุกคนอย่างรวดเร็ว
วันนี้เรื่องสถานการณ์น้ำดีขึ้นตามลำดับ ขอให้ทุกคนอดทนอีกนิดวันนี้มาให้กำลังใจด้วยความจริงใจและขอพูดจากใจว่า “ทุกคนเก่งมาก ที่ยังมีรอยยิ้ม หลังจากที่ผ่านสถานการณ์รุนแรง” บางคนถึงพูดว่าไม่เหลืออะไรแล้ว นายกรัฐมนตรีบอกว่า ยังเหลือชีวิตและยังเหลือกำลังใจ เหลือความหวังสิ่งที่เหลืออยู่ในวันนี้ ขอให้ทุกคนภูมิใจในตนเองว่า เก่งจริง ๆ เจอเหตุการณ์ขนาดนี้ยังสามารถยืนหยัดได้ นายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนคณะรัฐมนตรีรวมทั้งสมาชิกรัฐสภาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านมาให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ซึ่งหนึ่งในกลุ่มประชาชนที่พักพิงในศูนย์ยังกล่าวอวยพรนายกรัฐมนตรี “ขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีไปนาน ๆ”
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยาเวชภัณฑ์อุปกรณ์การรักษาพยาบาลให้กับนายอำเภอเพื่อเป็นตัวแทนส่งมอบต่อให้กับพี่น้องประชาชน ก่อนจะเดินทางต่อไปมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เยี่ยมผู้ประสบภัยและพร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนต่อไป
นรม.แจ้งเตรียมงบกลางช่วยและเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมทันที
เวลา 09.20 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคเหนือ ณ จังหวัดเชียงราย
โดยก่อนออกเดินทาง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ นำนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม อาทิ เรือท้องแบน เรือยาง ที่นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมด้วยกำลังพลที่ลงไปปฏิบัติงานเพิ่มเติม โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณกองทัพและทุกหน่วยงานที่ร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ พร้อมยืนยันว่าได้มีการจัดเตรียมงบกลาง ซึ่งสามารถนำมาช่วยประชาชนได้ทันที รวมทั้งการเยียวยาขอให้ทำทันทีไม่ต้องรอสถานการณ์คลี่คลาย เพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อน สำหรับสถานการณ์ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่สูงหรือพื้นที่บนดอย ที่ถูกตัดขาดขอให้กองทัพส่งกำลังเข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน และหากพื้นที่ใดปริมาณน้ำเริ่มลดลงแล้ว ขอให้ช่วยกันเร่งทำความสะอาด เพื่อคืนภาวะปกติให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยเร็ว
ขณะที่อยู่บนเครื่องบินนั้น นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ช่วยราชการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ให้ข้อมูลแผนการช่วยเหลือและภาพรวมสถานการณ์น้ำล่าสุดต่อนายกรัฐมนตรี
นายกฯเข้าทำเนียบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล
ช่วงเวลา 07.39 น. ณ ทำเนียบรัฐบาลก่อน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีร่วมสักการะด้วย
โดยนายกรัฐมนตรีและคณะได้สักการะพระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า ศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตา ศาลยายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลเพื่อความเป็นสิริมงคลในการทำงาน ภายหลังสักการะฯ นายกรัฐมนตรีเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้คุยกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นการเริ่มต้นที่ดีและเพื่อความสบายใจ ส่วนเรื่องการขอพรนั้น ตนเองขอไม่ตอบเพราะถ้าบอกกลัวพรที่ขอไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ได้ถือโอกาสเข้ากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลแล้ว “จริง ๆ แล้ว ความในใจคืออยากให้คุณแม่มา เพราะคุณแม่ไม่ชอบออกสื่อ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ก่อนนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทางไปลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคเหนือ จังหวัดเชียงรายต่อไป