Travel Sport & Soft Power
สงขลารุกจัดฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน 'คิงส์คัพครั้งที่50กระตุ้นศก.-ท่องเที่ยว
สงขลา-จังหวัดสงขลา จัดแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน"คิงส์คัพ" ครั้งที่ 50 โดยผู้ร่วมแถลงข่าวประกอบด้วย นายสมนึก พรมเขียวผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในฐานะประธานอำนวยการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน"คิงส์คัพ" ครั้งที่ 50 และ ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวแทนจากนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย คุณนวลพรรณ ล่ำซำและสภากรรมการสมาคมฯ ร่วมในการแถลงข่าว พร้อมด้วย นายสุรสิทธิ์ ศรีอินทร์ รองนายก อบจ.สงขลา นายธนิศร์ ทองสุข ส.อบจ.สงขลา เขต 2 อำเภอนาทวี หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน สื่อมวลชน และสื่อมวลชน ร่วมในงานแถลงข่าว ณ ห้องประชุมติณสูลานนท์ ชั้น 3 สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
โดยนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้กล่าวถึงความพร้อมในการจัดการแข่งขันว่า ตามที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ประกาศยกระดับให้จังหวัดสงขลา เป็นเมืองกีฬา "Songkhla Sports City"ด้านกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ (Sports for Excellence) เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562 จังหวัดสงขลา และได้เป็นเจ้าภาพร่วม
การจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา ซึ่งความพร้อมด้านการกีฬา ดังกล่าว จังหวัดฯ ขอขอบคุณสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ได้มอบโอกาสให้จังหวัดสงขลาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ"ครั้งที่ 50 ประจำปี 2567 ในวันที่ 11 และ วันที่ 14 ตุลาคม 2567นี้ หลังรอคอยการเป็นเจ้าภาพมาถึง 56 ปี ซึ่งกำหนดจัดการแข่งขัน ณ สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงชลา โดยมีชาติเข้าร่วมการแข่งขันได้แก่ ทีมชาติสาธารณรัฐอาหรับชีเรีย ทีมชาติสาธารณรัฐทาจิกิสถาน ทีมชาติสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และทีมชาติไทย ในการเตรียมความพร้อมดังกล่าว จังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการแข่งขัน และประชุมเตรียมความพร้อมในแต่ละฝ่าย ตามมาตรฐานที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทศไทย ได้กำหนดไว้ซึ่งจังหวัดฯ ได้จัดเตรียมสนามแข่งขันและสนามฝึกซ้อมตามมาตรฐานที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยกำหนด ประกอบด้วย สนามแข่งขันสนามกีฬาติณสูลานนท์ มีการปรับปรุงพื้นหญ้าและอาคารสถานที่ ซึ่งมีความพร้อมในการจัดการแข่งขัน ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กำหนด 100 % สนามฝึกซ้อม จำนวน 4 สนาม ประกอบด้วย
1.สนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้ (พรุค้างคาว) หน่วยงานรับผิดชอบ สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค ๔
2.สนามกีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หน่วยงานรับผิดชอบ มหาวิทยาลัยสงชลานครินทร์
3.สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา หน่วยงานรับผิดชอบ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา และ
4.สนามกีฬามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย หน่วยงานรับผิดชอบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ศรีวิชัย
ด้าน ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ในนามตัวแทนของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งวันนี้ขอเป็นตัวแทนท่านนายกสมาคมฯ คุณนวลพรรณ ลำซำ และสภากรรมการสมาคมฯ นักกีฬาและผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ทุกคนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาเยือนดินแดนเมืองท่าที่มีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ และเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของชาวภาคได้ เป็นศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยว สังคม วัฒนธรรม รวมถึงด้านกีฬา ที่มีการส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาวงการฟุตบอลทั้งในระดับทีมชาติไทย ระดับลีกอาชีพมาอย่างยาวนาน การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ เป็นรายการที่สำคัญมาก ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เพราะเป็นถ้วยที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ให้กับวงการฟุตบอลไทย มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 จนมาถึง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยได้จังหวัดที่มีศักยภาพและความพร้อมในทุกด้านเข้ามาเป็นเจ้าภาพในครั้งที่ 50 ที่นับเป็นปีมหามงคลของประเทศ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา โดยฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ" ยังถือเป็นฟุตบอลถ้วยระดับนานาชาติ ที่เก่าแก่ที่สุดอันดับ 2 ในทวีปเอเชียอีกด้วย
สำหรับ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีนโยบายสร้างกระแสนิยมฟุตบอลไทยให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ คือให้แฟนฟุตบอลได้มีส่วนร่วม และ ใกล้ชิดกับการแข่งขันฟุตบอลในระดับนานาชาติ รวมถึงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในพื้นที่ตามโยบายของรัฐบาล เช่นเดียวกับครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 9 ที่สมาคมฯ ออกมาจัดการแข่งขันที่ต่างจังหวัด โดยสงขลา ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการของ สมาคมฯ มีความพร้อมรอบด้าน ตามมาตรฐานของ เอเอฟซี ทั้งสนามแข่งขัน สนามซ้อม และ ที่พัก ที่สำคัญ ยังเป็นจังหวัดที่มีความคลั่งไคล้ฟุตบอลมากที่สุดในประเทศไทย จากสถิติ ยอดแฟนบอลสูงสุดตลอดกาลที่เคยเกิดขึ้นที่ "สงขลา" ด้วยจำนวน 36,715 คนในฟุตบอลดิวิชั่น 1 ปี พ.ศ. 2554 การแข่งขันครั้งนี้ จะเป็นการแข่งขันในระดับ FIFA Intemational A Match โดยมี 4 ทีมเข้าร่วม ประกอบด้วย ทีมชาติไทย อันดับ 101 ของโลก และ แชมป์สูงสุด 15 สมัย , ทีมชาติซีเรีย อันดับ 93 ของโลก , ทีมชาติทาจิกิสถาน อันดับ 103 ของโลก และแชมป์เมื่อปี 2022 และ ทีมชาติฟิลิปปินส์ อันดับ 147 ของโลก จะแข่งขันนัดแรก รอบรองชนะเลิศ วันที่ 11 ตุลาคม 2567 และ นัดชิงชนะเลิศ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2567 ณ สนามกีฬาติณสุลานนท์ แห่งนี้ แน่นอนว่า ฟุตบอสทีมชาติไทย ยังไม่เคยคว้าแชมป์ถ้วยนี้ นอกกรุงทพฯ แต่ทุกอย่างย่อมมีครั้งแรกเสมอ และหวังว่าครั้งแรกนี้จะเกิดขึ้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งนอกจากผู้ฝึกสอน และนักฟุตบอลทีมชาติไทยที่พร้อมทำงานกันอย่างหนักแล้ว อยากฝากแฟนฟุตบอลชาวสงขลา ภาคใต้ และทั่วประเทศไทย ส่งแรงเชียร์แรงใจ มาให้ทีมชาติไทยในการแข่งชันครั้งนี้ด้วย สุดท้ายนี้ เชื่อว่าพี่น้องชาวลงขลา ทุกคนกำลังรอคอยการแข่งขันนี้ เพราะนับตั้งแต่ เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ในปี พ.ศ. 2541 นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี ที่ ฟุตบอลชาติไทยชุดใหญ่ กลับมาเยือนสนามที่ศักดิ์สิทธิแห่งนี้อีกครั้ง เราหวังว่าจะได้เห็นบรรยากาศ "สนามแตก" เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และกลับมาคว้าแชมป์ คิงส์คัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี
นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในนามคณะกรรมการฯอำนวยการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล ชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 กล่าวว่า วันนี้ท่านอุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ท่านสมนึก พรมเขียว ซึ่งทั้ง 2 ท่านได้ยืนยันแล้วว่าสงขลามีความพร้อม ทั้งในเรื่องของสนามแข่ง เรื่องของสนามซ้อม โรงแรมที่พัก และระบบความปลอดภัยการเดินทางทุกอย่างพร้อมหมด ซึ่งท่านชาญวิทย์ ผลชีวิน ท่านก็ยืนยันว่าสนามเสร็จแน่นอน จาก 56 ปีที่เรารอคอยในวันนี้ก็เป็นความจริง ที่ถ้วยพระราชทานคิงส์คัพจะมาเยือนสงขลา พี่น้องนักเตะต่างชาติ และพี่น้องนักเตะทีมชาติไทยที่ไม่ได้มาเตะในสนามแห่งนี้ 20 กว่าปีมาแล้ว ปีนี้มาแน่
ในระหว่างวันที่ 11 และวันที่ 14 ตุลาคมนี้ และทุกคนในประเทศไทย จะต้องรับรู้ว่าจังหวัดสงขลาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน king cup ครั้งที่ 50 ซึ่งคนสงขลามีความรู้สึกที่ดีใจ ที่ได้เป็นเจ้าภาพร่วมกันทั้งจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพี่น้องชาวสงขลาทุกคนมีความภาคภูมิใจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจรากหญ้าจะเกิดขึ้นแน่นอนในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะพี่น้องใน 7 จังหวัดของภาคใต้ตอนล่าง ก็จะได้มาชมการแข่งขันฟุตบอลที่สงขลา ฉะนั้นการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพครั้งที่ 50 ครั้งนี้ เป็น อะไรที่คนสงขลารอคอยมานาน โดยจังหวัดสงขลามีเป้าหมายที่จะทำให้ "จังหวัดสงขลาเป็นเมืองกีฬา หรือ Soort Cty"
ด้วยการสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาทุกประเภท ส่งเสริมให้เด็ก เยาวชนเป็นต้นกล้าด้านกีฬาในแต่ละประเภท มีการจัดตั้งคณะกรรมการกีฬาแห่งจังหวัดสงขลา และกองทุนคณะกรรมการกีฬาจังหวัดสงขลาขึ้น โดยที่จังหวัดสงขลามีความเชื่อมั่นว่า การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 50 ประจำปี 2567 ในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้ต้นกล้าเด็ก เยาวชนสงขลา มีแรงบันดาลใจในการเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ รวมถึงส่งเสริมและพัฒนากีฬาฟุตบอลในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างอีกด้วย นอกจากนี้การจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน"คิงส์คัพ" จะช่วยตอบโจทย์ด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ คือจังหวัดสงขลา นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล พัทลุง และนครศรีธรรมราช ซึ่งในช่วงการแข่งขันวันที่ 11 และวันที่ 14 ตุลาคม 2567 จังหวัดสงขลาคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสงขลาหลายหมื่นคน ซึ่งจะสามารถกระตุ้นระบบเศรษฐกิจที่ซบเขาในพื้นที่ได้หลายร้อยล้านบาท และรายได้ หลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วเจ้าภาพจัดการแข่งขัน จะมอบให้แก่กลุ่ม ชมรม สมาคม ที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาใน16 อำเภอของจังหวัดสงขลา เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความสำเร็จ "สงขลา เมืองกีฬา" ส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ต่อไป
หลังจากนั้นได้มีการจับฉลากประกบคู่ศึกฟุตบอล "คิงส์คัพ" 2024 ซึ่งมี 4 ชาติที่เข้าร่วมฟาดแข้งนำโดยเจ้าภาพ คือทีมชาติไทย ทีมอันดับที่ 101 ของโลก ซึเรีย ทีมอันดับ 93 ของโลก ทาจิกิสถาน ทีมอันดับ 103 ของโลก และ ฟิลิปปินส์ ทีมอันดับ 147 ของโลก โดยผลการจับฉลากแบ่งสาย คู่แรก 11 ตุลาคม 2567 ซีเรีย พบ ทาจิกิสถาน และ ไทย พบ ฟิลิปปินส์ โดยทีมที่ชนะจะเข้าไปชิงชนะเลิศ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2567 ซึ่งคู่แรกจะทำการแข่งขันในเวลา 16.30 น. และคู่ที่ 2 ในเวลา 20.00 น.
ซัมซูดิน///รายงาน