In News

'เอกนัฏ'นำทัพก.อุตฯฟื้นฟูระบบน้ำประปา ช่วยผู้ประสบภัยเชียงราย/พักหนี้SMEs



เชียงราย-​“เอกนัฏ” นำทัพกระทรวงอุตฯ เร่งฟื้นฟูระบบน้ำประปา ช่วยผู้ประสบภัยจังหวัดเชียงราย พร้อมเยียวยา พักชำระหนี้เอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ ภายใต้โครงการ อุตสาหกรรมรวมใจ ก่อนหน้านี้ ​“เอกนัฏ” รวมน้ำใจผู้ประกอบการในนิคมฯ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม “สุเมธ” เผยน้ำท่วมรอบนี้ไม่กระทบนิคมฯ แต่พร้อมช่วยผู้ประกอบการ SMEs ฟื้นฟูหลังน้ำท่วม

จังหวัดเชียงราย - 21 กันยายน 2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย นำคณะข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย โดยวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะได้มอบท่อพีวีซี แข็ง “ท่อน้ำไทย” ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับทางองค์การบริหารส่วนตำบลเทอดไท อำเภอแม่ฟ้าหลวง จำนวน 8,360 เส้น นำไปฟื้นฟูระบบประปาภูเขา ผ่านโครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยผู้ประสบภัยจังหวัดเชียงราย” พร้อมมอบถุงยังชีพ “อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย” บรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมบ้านเทอดไท หลังจากนั้น คณะได้เดินทางไปยังหมู่บ้านแม่หม้อ หมู่ 7 ตำบลเทอดไท เพื่อร่วมกันประกอบท่อประปาหมู่บ้านทดแทนท่อเดิมที่ถูกดินสไลด์ บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นกับประชาชน

รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ยังได้เข้าไปพบปะหารือกับผู้ประกอบการจังหวัดเชียงราย โดยทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย ได้รายงานว่า มีผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 22 ราย ประกอบกิจการผลิตเครื่องเรือน เครื่องตกแต่งภายใน ผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ อู่ซ่อมรถยนต์ โรงชำแหละเนื้อสัตว์ ผลิตชิ้นส่วนรองเท้า ผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นขนมจีน สกัดน้ำมันพืช เมล็ดพันธุ์ทางการเกษตร ซึ่งเครื่องจักร เครื่องมือไฟฟ้า วัตถุดิบได้รับความเสียหาย ส่วนการประกอบกิจการดูดทราย รถยนต์ที่ใช้ประกอบกิจการ ตราชั่ง อุปกรณ์สำนักงาน เรือดูดทราย ได้รับความเสียหาย มูลค่าความเสียหายกว่า 23.6 ล้านบาท โดยทางกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ได้เข้าไปสำรวจพบว่า มีผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักชําระหนี้เงินต้น 3 เดือน จํานวน 8 ราย ทั้งนี้ทางกระทรวงฯ ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ ทีมวิศวกร ช่างชุมชน หรือหน่วยงานตรวจสภาพ เพื่อช่วยเหลือ ซ่อมแซม และให้คําแนะนําเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าให้กับประชาชนต่อไป 

“ผมและคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งลงพื้นที่เพื่อฟื้นฟู เยียวยา ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ และโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในวันนี้ขอมาให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้และกลับมาดำเนินชีวิตแบบปกติได้โดยเร็ว โดยหวังว่าโครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจ” ของกระทรวงฯ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือ เยียวยา บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ผ่านการฟื้นฟูระบบประปาภูเขา และพวกเราคนกระทรวงอุตฯ ขอยืนยันว่าจะเดินเคียงข้างพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการให้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้” นายเอกนัฏ กล่าวทิ้งท้าย

​“เอกนัฏ” รวมน้ำใจผู้ประกอบการในนิคมฯ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

นายเอกนัฏ ก่อนหน้านี้ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยรุนแรงในพื้นที่ในภาคเหนือ ส่งผลกระทบชีวิตผู้คนทั้งในบ้านเรือนและโรงงานอุตสาหกรรมเป็นวงกว้างว่า ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้สรุปรายงานสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา รวมทั้ง 14 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ มีสถานประกอบการได้รับความเสียหาย จำนวน 61 ราย  คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 42.1 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการ SMEs รายย่อย ได้รับผลกระทบโดยตรงและโดยอ้อม จำนวนไม่ต่ำกว่า 505 ราย ขณะเดียวกันพี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวจำนวนมาก จึงได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เร่งให้ความช่วยเหลือโดยด่วน โดยเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ได้รับมอบเงินช่วยเหลือ พร้อมถุงยังชีพ จากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.), มูลนิธินิคมอุตสาหกรรมไทย (มนท.) และสมาคม นิคมอุตสาหกรรม ในโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม กนอ.

“ในฐานะตัวแทนรัฐบาล ต้องขอขอบคุณธารน้ำใจจากกลุ่มผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม, ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม และหน่วยงานพันธมิตร ที่ร่วมบริจาคทุนทรัพย์และสิ่งของที่จำเป็น เพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัย อันเป็นการแสดงออกถึงพลังแห่งความสามัคคีของภาคอุตสาหกรรมไทย ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันเพื่อให้ผู้ประสบอุทกภัยก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้” นายเอกนัฏ ระบุ

ด้านนายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ กนอ. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. เปิดเผยว่า โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ กนอ.ร่วมกับพันธมิตรจัดตั้งขึ้น ได้รับความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงาน ทั้งผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม และหน่วยงานพันธมิตรอื่นๆ ในการร่วมกันระดมทุนทรัพย์และสิ่งของต่างๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เป็นกำลังใจในการฝ่าช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

“แม้น้ำท่วมครั้งนี้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ กนอ.ก็ยังได้ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม ในการสำรวจความเสียหาย และสนับสนุนการฟื้นฟูหลังเหตุอุทกภัย ทั้งในส่วนของสถานประกอบการ และผู้ประกอบการ SMEs ตลอดจนบ้านเรือนประชาชน เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิต และดำเนินธุรกิจ ได้เหมือนเดิมโดยเร็วด้วย” นายสุเมธ กล่าว

สำหรับรายนามผู้ร่วมบริจาค ดังนี้ 1) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จำนวน 1,000,000 บาท,  2) บริษัท ไทย อกริ ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,000,000 บาท, 3) สมาคมนิคมอุตสาหกรรมไทยและพันธมิตร จำนวน 200,000 บาท, 4) นางอัญชลี ชวนิชย์ จำนวน 100,000 บาท, 5) บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 500,000 บาท, 6) บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) จำนวน 500,000 บาท, 7) บริษัท โกลบอล ยูทิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด จำนวน 200,000 บาท, 8) บริษัท ไอ.จี.เอส. จำกัด (มหาชน) จำนวน 200,000 บาท, 9) บริษัท เอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) จำนวน 100,000 บาท, 10) บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด จำนวน 500,000 บาท,  11) มูลนิธินิคมอุตสาหกรรมไทย จำนวน 50,000 บาท และ 12) บริษัท อีสเทิร์น ฟลูอิด ทรานสปอร์ต จำกัด จำนวน 30,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,380,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธาและต้องการช่วยเหลือ ร่วมปันน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย  สามารถบริจาคผ่านบัญชีมูลนิธินิคมอุตสาหกรรมไทย ธนาคารกรุงไทย เลขที่ 013-0-35395-7 โดยสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ได้ โดย กนอ. มูลนิธินิคมอุตสาหกรรมไทย และสมาคมนิคมอุตสาหกรรม จะรวบรวมทุนและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อประสานดำเนินการส่งต่อไปยังพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยต่อไป