In News
นายกฯแถลงข่าวต่อสื่อฯในหลายประเด็น ค่าแรง400บ.ได้แน่/งดเก็บค่าไฟ2เดือน
กรุงเทพฯ-นายกฯ ยืนยัน “แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา” ทำตามกฎหมายทุกอย่าง หลังถูกร้องแถลงไม่ครบถ้วน นอกจากนี้นายกฯ มอบกระทรวงคลังไปหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีค่าเงินบาทแข็งค่า และเผย ครม.เห็นชอบ งดเก็บค่าไฟฟ้า เดือน ก.ย. และลด 30% ในเดือน ต.ค. ให้ ปชช. พื้นที่ประสบอุทกภัย พร้อมอนุมัติฟื้นฟูช่วยเหลือลูกหนี้ ธกส.ระยะ 2-3 ส่วนนายกฯ ย้ำรัฐบาลเดินหน้าขึ้นค่าแรง 400 บาท เชื่อไม่มีเตะถ่วง รับต้องอาศัยไตรภาคี และให้เป็นไปตามกฎหมาย เผยเดินหน้าให้ทันปีนี้
วันนี้ (24 กันยายน 2567) เวลา 13.00 น. ณ บริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีบุคคลนิรนามไปยื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินว่าการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาลที่ผ่านมา ได้แถลงไม่ครบถ้วนตามกฎหมายมาตรา 162 เสี่ยงที่คณะรัฐมนตรีจะถูกถอดถอนทั้งคณะ โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลได้ทำตามกฎหมายทุกอย่าง ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายว่า “มีใครไม่กลัวกฎหมายบ้าง”
นายกฯ มอบกระทรวงคลังไปหารือกรณีค่าเงินบาทแข็งค่า
นายกรัฐมนตรี กล่าวภายการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ว่า เรื่องเงินบาทแข็งค่าทำให้เกษตรกรและการส่งออกประสบปัญหาและเกิดความกังวลในทุกภาคส่วน ในส่วนรัฐบาลจะนำข้อดีของเงินบาทแข็งค่ามาใช้ในหลาย ๆ อย่าง แต่จำเป็นต้องแก้ไขกันต่อไป ส่วนการพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศในเรื่องบาทแข็งนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นหน้าที่กระทรวงการคลัง ซึ่งมอบให้กระทรวงการคลังไปพูดคุยกันว่า จะแก้ตรงนี้หรือร่วมมืออะไรได้บ้าง
ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้นัดหารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในสัปดาห์หน้า เพื่อจะหารือกันในประเด็นเรื่องการดูแลสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วและแรงในช่วงระยะหลัง รวมทั้งการพิจารณากรอบเงินเฟ้อร่วมกัน
นายกฯเผย ครม.เห็นชอบงดเก็บค่าไฟฟ้าเดือนก.ย.และลด30%ในเดือน ต.ค.
นางสาวแพทองธารว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ในเรื่องของมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับค่าไฟฟ้าในเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม 2567 โดยที่เดือนกันยายน จะไม่เรียกเก็บค่าไฟฟ้า และในเดือนตุลาคมจะให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 30 โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
นอกจากนี้ที่ประชุม ครม. ยังได้อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เรื่องของมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาลระยะที่ 2 และระยะที่ 3 และการพัฒนาศักยภาพเพื่อฟื้นฟูลูกหนี้ ธกส. เพื่อให้เกษตรกรผู้เข้าร่วมมาตรการดังกล่าว ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยระยะที่ 2 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 ระยะที่ 3 1 ตุลาคม 2568 – 30 กันยายน 2569
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า จากการเปิดรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร จึงได้สั่งการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะอนุกรรมการ คอส. และ ศปช. ดำเนินการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จากเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ เพื่อใช้สำหรับการรายงานตัวของอาสาสมัคร เพื่อแบ่งหน้าที่ และความรับผิดชอบ และใช้ในการรายงานเหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งได้รับคำแนะนำมาว่า การรายงานตัวของอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน มีการรายงานซ้ำซ้อน ทำให้เสียเวลา และเตรียมจะใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวในการลงทะเบียนรับเงินเยียวยา และการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ให้เกิดการบูรณาการกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในส่วนของภาครัฐ ภาคประชาชน รวมถึงเร่งรัดให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย หรือ ปภ. เร่งดำเนินการใช้ระบบเตือนภัยฉุกเฉิน หรือ Cell Broadcast Service เพื่อให้การเตือนภัยให้ประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในอนาคตที่จะใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ในการจ่ายเงินเยียวยา และเช็คสิทธิต่าง ๆ ประชาชนควรโหลดแอปฯ ดังกล่าวเก็บไว้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้ได้เคยประชาสัมพันธ์ โครงการดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว ว่าให้โหลดแอปฯ ดังกล่าวไว้ เพราะนอกจากการลงทะเบียน และชื่อยังเป็นการต่อยอด เพื่ออำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเยียวยา รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ซึ่งรัฐบาลพยายามพัฒนาระบบนี้ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลถึงประชาชนโดยตรง ให้ได้มากที่สุด เวลาที่เราจ่ายเงินเพื่อความรวดเร็วในเวลาที่รัฐบาลต้องจ่ายเงินเยียวยา ก็จะรวดเร็วขึ้น จึงขอให้ประชาชนโหลดแอปฯ ดังกล่าวไว้ และลงทะเบียนใส่ข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วน
นายกฯ ย้ำรัฐบาลเดินหน้าขึ้นค่าแรง 400 บาท เชื่อไม่มีเตะถ่วง
ส่วนค่าแรง 400 บาทนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ที่ล่าช้าออกไปว่า นโยบายของรัฐบาลมีความชัดเจนเรื่องการขึ้นค่าแรง แต่ต้องอาศัยไตรภาคี ว่าจะให้ความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งมีการพยายามนัดหมายกันเพื่อเร่งดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด และพยายามจะพูดคุยกัน พร้อมยืนยันที่จะเดินหน้านโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท และจะคอยผลักดันเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ได้มีการเตะถ่วง อะไรในฝั่งผู้ประกอบการใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องคุยกันก่อนทั้งหมด ไม่ได้เตะถ่วงอะไร และทั้ง 3 ภาคส่วนก็ต้องพูดคุยกันในรายละเอียด และทุกอย่างต้องกฎหมายส่วนได้มีการวางกรอบว่าจะดำเนินการได้เมื่อไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจะทำให้เร็วที่สุด และต้องดูว่าติดอะไรบ้าง เมื่อถามว่าจะดำเนินการได้ภายในปีนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่านั่นคือความตั้งใจว่าเป็นปีนี้
อย่างไรก็ตามก่อนประชุมครม.นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นเป็น 400 บาท เกิดการสะดุดและขับเคลื่อนต่อไปไม่ได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เกิดการสะดุดแต่ว่าในตอนนี้ นโยบายดังกล่าวจะมีการนำเข้าที่ประชุมอีกครั้ง โดยผู้สื่อข่าวได้ถามต่อไปว่านโยบายดังกล่าวจะสามารถทำได้ภายในปีนี้อย่างแน่นอนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ควรจะเป็นอย่างนั้น
นายกฯยันพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมองปัญหาปชช.ก่อนแก้รัฐธรรมนูญ
นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราที่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริยธรรมว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน แต่ตอนนี้รัฐบาล ขอโฟกัสเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมก่อน ซึ่งเมื่อช่วงเช้าก็ได้รับรายงาน ในพื้นที่จังหวัดลำปางน้ำท่วมหนักมากขึ้น ดังนั้น รัฐมนตรีทั้งหมดได้มีการพูดคุยหารือเกี่ยวกับเรื่องการแก้ปัญหาและเยียวยาน้ำท่วม ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่กับสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลต้องทำงานให้ประชาชนก่อน
ส่วนกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลกลับลำไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในประเด็นดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องพูดคุยกัน ส่วนตัวไม่อยากให้นักข่าวถามเช่นนี้ว่าเป็นการกลับลำ เพราะก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ก็ได้มีการหารือก่อนและหลังการประชุมและมีการสอบถามความคิดเห็นร่วมกัน ตนเองเข้าใจว่าเวลาสัมภาษณ์ถูกตัดบางคำพูด จะทำให้รู้สึกว่ากลับลำ และไม่เห็นด้วยได้ แต่ความจริงแล้วมีการพูดคุยกันนอกรอบว่า มีความเข้าใจกันแล้ว ซึ่งตนเองได้มีการพูดคุยกับรองนายกรัฐมนตรีหลายคน รวมถึงหัวหน้าพรรคและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ทุกคนมีแล้วคิดเหมือนกันว่าในตอนนี้สิ่งที่รัฐบาลควรเน้นย้ำ การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำท่วมหรือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตนเองจึงอยากบอกว่า ถ้ารัฐบาลมั่นคงมีเสถียรภาพ การเมืองมั่นคง ประเทศชาติก็มั่นคงไปด้วย ซึ่งนักข่าวก็ต้องช่วยกันในเรื่องนี้ด้วย
ส่วนข้อกังวลที่ว่าในการแก้ไขแบบสุดซอย นายกรัฐมนตรีย้ำว่าเรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน รัฐบาลเข้มแข็งนั่นคือสิ่งที่ดีต่อประชาชน ดังนั้นก็จะให้รัฐบาลเข้มแข็งต่อไปและขอให้นักข่าวไม่ถามในสิ่งที่เกิดความยุแยง และย้ำว่าสิ่งที่สำคัญและเร่งด่วนตอนนี้คือการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ถ้าหากหันไปมองหน้ารัฐมนตรีทุกคน ทุกคนมีความกังวลใจในเรื่องนี้แต่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุดซึ่งการประชุมที่ผ่านมาก็ได้มีการพูดถึงเรื่องการเยียวยาเยียวยาและจะปลดกรอบการ เยียวยาเพื่อให้ประชาชนได้รับเงินอย่างรวดเร็ว ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ โฟกัสอยู่
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มอบหมายปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปดูแล จึงไม่ต้องห่วงเพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลแล้ว